ชาวระยองโล่งอกไม่พบคราบน้ำมันทั้งในทะเลและชายหาดแม่รำพึงแล้ว ผู้ได้รับผลกระทบกว่า 700 คนแห่เข้าขอรับการเยียวยา กลุ่มประมงพื้นบ้านเรียกร้องใช้เกณฑ์ปี 56 วันละ 3,000 บาท “กรมควบคุมมลพิษ” แจ้งร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) กับพนักงานสอบสวน สภ.มาบตาพุด “ส.ส.เต้” ยุให้แจ้งฟ้องร้องดำเนินคดีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพราะปล่อยปละละเลย

กลายเป็นหายนะทางสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ กรณีน้ำมันดิบของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC รั่วไหลจากท่อใต้ทะเลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ลงทะเลปริมาณมหาศาล เมื่อคืนวันที่ 25 ม.ค. และถูกคลื่นซัดเข้าชายหาดแม่รำพึง จ.ระยอง สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ทางจังหวัดระยอง ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งกำจัดคราบน้ำมันจนสถานการณ์คลี่คลาย และเจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่บริเวณหาดแม่รำพึงและในทะเล ไม่พบคราบน้ำมันแล้วเช่นกัน

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ตั้งแต่ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ลงพื้นที่เดินเก็บกวาดขยะตามชายหาด รวมทั้งใช้ตาข่ายใยซับแอปซอพเบรน ในการซับคราบน้ำมันหรือฝุ่นละอองตามชายหาด ตั้งแต่หน้าธงชัยรีสอร์ต ตู้ยามตำรวจแม่รำพึง ไปถึงหาดก้นอ่าว ระยะทางกว่า 8.5 กม. ตลอด 24 ชั่วโมง ทำมาแล้ว 7 วัน พบว่าหาดทรายสะอาดขึ้น ใยซับขาวไม่ขุ่นดำหรือมีสีน้ำตาลเหมือนวันแรก และไม่พบคราบน้ำมันเพิ่มเติม และเป็นที่น่าสังเกตว่าตามแนวชายหาดแม่รำพึง บางจุดที่มีการวางแนวทุ่นดักน้ำมันไว้กลางทะเล วันนี้ได้เก็บกู้ทุ่นดักน้ำมันขึ้นมาไว้บนชายฝั่งแล้ว และบางจุดได้นำทุ่นไปวางแนวกั้นเพื่อกันคราบน้ำมัน

...

ส่วนบรรยากาศชายหาดแม่รำพึง บรรดาพ่อค้าแม่ค้ารถซาเล้งขายส้มตำ ได้ออกมาตระเวนขายตามแนวชายหาดบ้างแล้ว หลังจากก่อนหน้า 3-4 วันที่ผ่านมาขายไม่ได้ แม่ค้าส้มตำคนหนึ่งบอกว่า วันนี้พอจะขายได้บ้างแล้ว มีชาวบ้านในพื้นที่และมีเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติการเก็บกู้คราบน้ำมันทยอยมาอุดหนุนพอสมควร สร้างรายได้พออยู่ได้

ขณะที่จังหวัดระยอง ทัพเรือภาคที่ 1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมจัดตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ภาครัฐ ภาคผู้ประกอบการท่องเที่ยว ประชาชน ร้านอาหารริมชายหาด และภาคประชาสังคมด้านสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณชายหาดแม่รำพึงและในทะเล เพื่อประเมินสถานการณ์พื้นที่จริงช่วงน้ำทะเลลง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่พบคราบน้ำมันบริเวณชายหาดและในทะเลแล้วจริงๆ จากนั้นจะประกาศปิดศูนย์บัญชาการสถานการณ์ฉุกเฉินส่วนหน้า และศูนย์ปฏิบัติงานของส่วนราชการทุกหน่วยที่มาเปิดการปฏิบัติการกู้คราบน้ำมันดังกล่าว

เวลา 11.30 น. นายอนันต์ นาคนิยม รอง ผวจ.ระยอง นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง เดินทางไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ผู้ได้รับผลกระทบน้ำมันรั่วไหลกลางทะเล ที่บ้านสบายสบาย รีสอร์ต ริมหาดแม่รำพึง อ.เมืองระยอง ต่อมามีชาวเรือประมงตำบลปากน้ำ อ.เมืองระยอง กว่า 100 คน เดินทางมายื่นเรื่องร้องที่ศูนย์ฯแห่งนี้ แต่ได้รับแจ้งว่านายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง สั่งให้เปิดรับร้องทุกข์ที่ อบต. เทศบาล และศูนย์ดำรงธรรมทุกแห่งแล้ว ชาวประมงกลุ่มดังกล่าวพากันกลับไป เพื่อไปยื่นเรื่องในพื้นที่

นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ สสจ.ระยอง กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตัวอย่างตรวจสอบอาหารทะเลตามตลาดสดต่างๆของ จ.ระยอง ผลการตรวจยังไม่พบมีสารปนเปื้อนจากคราบน้ำมันในอาหารทะเลที่วางจำหน่าย จะส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค อยากฝากเตือนไปยังผู้บริโภคว่า หากพบสัตว์น้ำที่ตายและผู้ที่จับสัตว์น้ำที่มีคราบน้ำมันติดให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อนำไปตรวจสอบหาสารปนเปื้อนทันที อย่าเพิ่งนำไปบริโภค

นายอนันต์ รอง ผวจ.ระยอง กล่าวว่า หลังจากเปิดศูนย์ฯมาเป็นวันที่ 4 ยังคงมีผู้ได้รับผลกระทบทยอยเดินทางเข้ามาแจ้งตลอด มียอดรวมขณะนี้ประมาณ 700 รายแล้ว คาดว่ายอดคงจะเพิ่มขึ้นอีกมาก พร้อมฝากแจ้งว่าศูนย์ฯแห่งนี้ยังคงเปิดต่อไป ยังไม่มีการปิดรับแจ้งจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

บ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวออกสำรวจการขายอาหารทะเลสดในตลาดบ้านเพ จ.ระยอง พ่อค้าแม่ค้ายืนยันว่า หลังเกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลลงในทะเลระยอง ส่งผลกระทบยอดขายหายไปกว่าครึ่ง เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่เดินทางมาเที่ยว และส่วนหนึ่งยังขาดความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยของอาหารทะเลสดใน จ.ระยอง ที่อาจจะได้รับสารปนเปื้อนจากคราบน้ำมันดิบรั่วไหล และสารเคมีที่ใช้ฉีดพ่นกำจัดคราบน้ำมันในทะเล ยืนยันสัตว์น้ำทะเลสดที่นำมาขายส่วนใหญ่จะนำมาจากต่างจังหวัด หรือท้องที่อื่น ส่วนสัตว์น้ำทะเลสดใน จ.ระยอง จะมีเพียงบางชนิดเท่านั้น และ สสจ.ระยอง ตรวจสอบแล้วไม่มีสารคราบน้ำมันปนเปื้อน สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย

ที่ห้องประชุมชั้น 3 องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง (อบจ.ระยอง) นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง ร่วมประชุมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว กลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็ก และกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อหาข้อสรุปในการเจรจากับบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จก.(มหาชน) เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันรั่วไหล

นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง กล่าวว่า วันนี้เปิดโอกาสให้ผู้ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันทุกกลุ่มมาพูดคุยกัน ทบทวนมาตรการในการเยียวยาให้เป็นที่พอใจทั้งกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว กลุ่มชาวประมง กลุ่มร้านอาหารทะเล ฯลฯ จะต้องได้รับการเยียวยาโดยเร็วที่สุด หากไปยื่นเรื่องศูนย์ดำรงธรรมแล้วไม่พอใจ อบจ.พร้อมเป็นตัวกลางในการเจรจากับทางบริษัทเรียกร้องค่าเยียวยาให้ เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมที่สุด ส่วนการกระตุ้นภาคท่องเที่ยว อบจ.ระยอง มีแผนเตรียมจัดงานอีเวนต์เร็วๆนี้ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่

...

นางสุวรรณา โดตี้ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระยอง กล่าวว่า เหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลที่เกิดขึ้น เป็นการรับเคราะห์ซ้ำของชาวระยอง ภาคท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ นักท่องเที่ยวหายไป เนื่องจากไม่มั่นใจ ยอดจองห้องลดลง อยากให้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด ที่สำคัญต้องมีมาตรการป้องกันแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่มีมาตรฐาน และมีแผนกระตุ้นท่องเที่ยวที่เป็นรูปธรรม เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้กลับมาโดยเร็ว ในส่วนการตรวจสอบ อยากให้ภาคเอกชน เข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ของบริษัทด้วย ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก

นายธนู ทิพย์มณี รองประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กแหลมเทียน กล่าวว่า ชาวประมงหากินลำบากอยู่แล้ว ต้องมาได้รับผลกระทบคราบน้ำมันรั่วไหลซ้ำเติมอีก ต้องสูญเสียรายได้นับหมื่นบาทต่อเดือน ทางกลุ่มได้ปรึกษากลุ่มประมงมีอยู่ราว 40 กลุ่ม อยากให้การเยียวยาเบื้องต้นใช้เกณฑ์การเยียวยาปี 56 คือ วันละ 3,000 บาท บริษัท ต้องเข้ามาคุยกับกลุ่มประมงโดยตรง จะได้พูดคุยการเยียวยาจะฟื้นฟูทะเลอย่างไรด้วย เพื่อให้สัตว์น้ำกลับมาอุดมสมบูรณ์ ทะเลระยองเป็นของทุกคน ขอเรียกร้องให้มาช่วยกันปกป้องทะเลเพื่อลูกหลานจะได้มีอาชีพ และมีสัตว์น้ำไว้กินตลอดไป ส่วนการทำประมงขณะนี้ได้ขอให้งดวางอวนจับสัตว์น้ำในช่วงนี้ ให้การกู้คราบน้ำมันเสร็จสิ้นเสียก่อน

วันเดียวกัน นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เผยถึงการเฝ้าระวังตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมกรณีน้ำมันรั่วไหลในทะเล จ.ระยอง ว่า กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานว่าคุณภาพอากาศ คุณภาพน้ำ ดินทราย ตะกอนดิน ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนการฟ้องเรียกค่าเสียหาย คพ.ได้เข้าแจ้งร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ไว้แล้ว กับพนักงานสอบสวน สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. สั่งการให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการประเมินผลกระทบด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและสิ่งแวดล้อม และคณะอนุกรรมการฟื้นฟูด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและสิ่งแวดล้อม กรณีน้ำมันดิบรั่วไหลของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ภายใต้คณะกรรมการควบคุมมลพิษ พร้อมนำวาระเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อทราบในการประชุมครั้งต่อไป

...

ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายหาดแม่รำพึง จ.ระยอง พร้อมลงเรือสำรวจท่อส่งน้ำมันดิบบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ส่วนตัวประเมินว่าท่อน้ำมันไม่ได้รั่ว แต่เป็นท่อเชื่อมขาดใต้ทะเลหลายชั่วโมง เป็นท่อเดิมตั้งแต่เริ่มแรก ไม่ได้เปลี่ยนท่อที่มีความชำรุดทรุดโทรม เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้ากระทรวงอุตสาหกรรมตรวจเช็กระบบโรงกลั่นบริษัท เช็กท่อส่งน้ำมันดิบใต้ทะเลให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ หรือหากเกิดเหตุขึ้นจะเสียหายน้อย เรียกร้องให้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เร่งดำเนินคดีทางอาญาและทางแพ่งโดยด่วน ส่วนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สามารถดำเนินคดีอาญาและแพ่งบริษัทได้ รวมถึงฟ้องร้องดำเนินคดีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม อุตสาหกรรมจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะบกพร่องในการตรวจสอบ