จนท.ลุยจับ "ลูกจระเข้" ในสระน้ำสาธารณะ พื้นที่ ม.6 บ้านโคกกรุง ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังชาวบ้านพบเห็นโผล่ลอยคอเพียบ เผยถูกจับขึ้นมาแล้วกว่า 30 ตัว แต่ยังไม่หมด คาดถูกคนเลี้ยงนำมาปล่อย หลังโควิดฯ ทำพิษ แบกรับภาระไม่ไหว ชี้ มีความผิดทางกฎหมาย

จากกรณีที่ชาวบ้านพบลูกจระเข้ทั้งขนาดเล็กและใหญ่จำนวนมาก อยู่ในสระน้ำขนาดความกว้าง-ยาว ประมาณ 30x30 เมตร ลึกประมาณ 8 เมตร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเข้าบ่อทิ้งขยะ ในพื้นที่ ม.6 บ้านโคกกรุง ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งชาวบ้านไม่รู้ว่ามาจากไหน หรือมีคนนำมาปล่อย โดยถูกชาวบ้านและเจ้าหน้าที่จับออกไปแล้วกว่า 30 ตัว แต่ยังไม่หมด พบว่าภายในสระยังมีลูกจระเข้หลงเหลืออยู่ 

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 4 ม.ค. 65 น.ส.จุรีรัตน์ สงนุ้ย ประมงอำเภอกบินทร์บุรี ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบสระน้ำดังกล่าว พบว่าภายในสระน้ำยังคงมีจระเข้ลอยขึ้นมาให้เห็นอยู่ และจากการสังเกตพบว่าจระเข้ที่เหลืออยู่นั้นมีอาการตกใจกลัว เมื่อเห็นผู้คนก็จะมุดน้ำหนีไปทันที ไม่เหมือนวันแรกที่เจ้าหน้าที่เข้ามาจับ อาจเป็นเพราะจระเข้รู้สึกไม่ปลอดภัย หลังจากถูกใช้เบ็ดเหวี่ยงจับขึ้นมา ดังนั้นจึงมีความหวาดระแวง และระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้นเมื่อพบเห็นผู้คน 

ประมงอำเภอกบินทร์บุรี เปิดเผยต่อว่า เท่าที่ได้รับรายงานคาดว่าน่าจะมีคนนำจระเข้เหล่านี้มาปล่อยทิ้งไว้ เพราะว่าตอนนี้มีการระบาดของโควิด-19 ซึ่งสถานการณ์ในการส่งออกนั้น ถูกลูกค้าจากต่างประเทศหยุดระงักการซื้อขายเอาไว้ จึงทำให้เกษตรกรบางรายที่แบกรับภาระไม่ไหว ต้องนำจระเข้มาปล่อยทิ้งดังกล่าว

"กรมประมงอยากประชาสัมพันธ์ว่า เกษตรกรท่านใดที่เลี้ยงจระเข้แล้วแบกรับภาระไม่ไหว แล้วนำมาปล่อยแบบนี้ จะมีความผิดทางกฎหมายในเรื่อง พ.ร.บ.สัตว์สงวนและคุ้มครอง ปี 2562 ซึ่งการเอามาปล่อยอย่างนี้นั้นจะมีโทษทางกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท และในมาตราที่ครอบครองจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท ดังนั้นจึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ทางผู้เลี้ยงปฏิบัติตามข้อกฎหมาย" ประมงอำเภอกบินทร์บุรี ระบุ  

...

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะทำการจับจระเข้ที่เหลือออกจากสระน้ำดังกล่าวให้หมด เพื่อความสบายใจและความปลอดภัยของชาวบ้าน.