กรณีเจ้าอาวาสวัดอีแงวไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ ตัดสินใจทวงหนี้จากญาติโยมที่มาขอยืมผ่านโลกโซเชียล และประกาศขายควายเผือก 2 ล้าน ล่าสุด ได้เงินโยมบริจาคช่วยกว่า 4 แสน จ่ายหนี้ค่าไฟฟ้าได้แล้ว
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดอีแงว อ.ขลุง จันทบุรี เช้าวันนี้พระครูปลัดโอฬาร โอภาโส เจ้าอาวาสวัดอีแงว ยังออกบิณฑบาตตามปกติ โดยมีประชาชนที่ทราบข่าวต่างสอบถามกันเป็นจำนวนมาก วันนี้จึงใช้เวลาบิณฑบาตค่อนข้างนาน เนื่องจากต้องตอบคำถามประชาชนที่มายืนรอใส่บาตรในช่วงเช้า โดยหลังจากที่มีข่าวปรากฏทางช่องทางสื่อโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ต่างๆ นั้น เกิดทั้งผลดีและผลลบกับตัวท่านเจ้าอาวาส บางคนที่เห็นดีก็ร่วมสนับสนุนทำบุญช่วยวัด โดยที่มีจิตใจอันเป็นบริสุทธิ์ แต่บางกลุ่มนอกจากไม่ช่วยยังมีการตำหนิติเตียน หาว่าพระใช้เงินไม่ถูกต้องเงินทอดกฐินที่เพิ่งได้มาเอาไปใช้ที่ไหนหมด เป็นต้น
พระครูปลัดโอฬาร โอภาโส เจ้าอาวาส กล่าวว่า วันนี้ได้ตอบคำถามไปทุกประเด็น โดยเฉพาะเรื่องเงินทอดกฐินที่ผ่านมา ก็นำไปจ่ายใช้หนี้ที่ทำการก่อสร้างอุโบสถ และภาระต่างๆ ที่วัดแบกรับอยู่ เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยได้จัดงานวัดจึงขาดรายได้ ตั้งใจว่าจะจัดงานปิดทองฝั่งลูกนิมิตก็ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากติดปัญหาเรื่องของโควิด-19 ก็เลยต้องขอผัดผ่อนเจ้าหนี้ว่า ช่วงทอดกฐินจะจ่ายให้แต่ยอดของการทอดกฐินก็ได้เพียงแค่ล้านเศษ จึงได้แต่เพียงแบ่งจ่ายไปแต่ละเจ้า และยังคงมีค้างอยู่อีก ส่วนบรรดาญาติโยมที่นิมนต์ไปเจิมรถ หรือนิมนต์ไปตั้งศาลเจอบ้าน ก็ไม่เคยเรียกร้องค่าใช้จ่ายมีแต่ญาติโยมศรัทธาถวายปัจจัยมาหลักร้อยถึงหลักพันเท่านั้น
...
เจ้าอาวาสวัดอีแงว กล่าวต่อว่า หลังจากมีกระแสข่าวออกไป ทำให้มีผู้ใจบุญโอนเงินมาช่วยทางวัดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเช้าวันนี้ มียอดอยู่ที่ 400,000 บาทเศษ ซึ่งเพียงพอสำหรับการจ่ายค่าไฟแล้ว แต่ถ้าญาติโยมยังคงมีจิตศรัทธาก็ยังคงเหลือในส่วนของหนี้ที่ต้องจ่ายช่างสร้างอุโบสถอีกเป็นจำนวนมาก ท่านเจ้าอาวาสยังฝากขอบคุณสื่อมวลชนทุกช่อง รวมไปถึงประชาชนญาติโยมที่ร่วมกันทำบุญช่วยเหลือทางวัดมาด้วย
พระครูปลัดโอฬาร โอภาโส กล่าวอีกว่า ส่วนควายเผือกทั้งสองตัวที่ประกาศขายนั้น ชื่อเจ้าถุงเงินควายเพศเมีย และถุงทองเป็นควายเพศผู้ ลักษณะดีสวย มองดูแล้วมีความเป็นมงคล หากท่านใดจะติดต่อขอซื้อไปก็ต้องมีข้อแม้ข้อตกลงกันว่า ห้ามนำไปขายต่อห้ามนำไปฆ่า ให้นำไปเลี้ยงเพื่อความเป็นสิริมงคลหนุนดวงเท่านั้น ตอนนี้มีเพียงผู้สนใจโทรมาสอบถาม มีบางท่านเดินทางมาดูถึงที่ แต่ก็ยังไม่มีท่านใดตกลงที่จะซื้อจริงจังสักคน
ด้าน พระทองใบ กะตะบุญโญ อายุ 55 ปี หรือ หลวงตาใบ พระลูกวัด ที่คอยเลี้ยงดูควายเผือกทั้งสองตัว ได้พูดถึงความน่ารักของเจ้าควายเผือกทั้งสองตัวนี้ด้วยว่า เจ้าสองตัวนี้ชอบกินขนุนสุกเป็นพิเศษ ตนเองเลี้ยงเจ้าถุงเงินถุงทองมาหลายเดือนแล้วก็มีความรักความผูกพัน เมื่อทราบว่าท่านเจ้าอาวาสจะขายควายเผือกคู่นี้ตนเองก็รู้สึกใจหาย แต่ก็ไม่สามารถพูดได้ ควายเผือกคู่นี้เป็นควายที่แสนรู้ ว่านอนสอนง่าย.