ญาติขอความเป็นธรรม แม่เลี้ยงเดี่ยววัย 34 ไปทำศัลยกรรมหน้าท้อง ที่คลินิกใน กทม.แล้วเกิดช็อกตาย โดยคลินิกยังไม่ออกมาให้ความช่วยเหลือ จึงขอความเป็นธรรม ขณะที่สาเหตุการตายมาจากสมองขาดออกซิเจน

วานนี้ (9 มิ.ย.64) ที่วัดบ้านอ่าง ตำบลอ่างคีรี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี สมาชิกครอบครัวและญาติๆ กำลังจัดเตรียมสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นางสาว ศิริกุล ราศีทรัพย์ อายุ 34 ปี (โบ๊ท) ได้เสียชีวิตจากการไปทำศัลยกรรมตกแต่งหน้าท้อง

นางสาวศลิษา สิงห์สุขสวัสดิ์ น้าสาวผู้ตาย กล่าวว่า นางสาวศิริกุล หลานสาว ได้ไปทำศัลยกรรมตกแต่งหน้าท้อง ที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.30 น. พอไปถึงทางคลินิกให้เตรียมพร้อมเพื่อจะเข้าห้องผ่าตัด ซึ่งใช้เวลาตั้งแต่ 10.00 น. จนถึงเวลาประมาณ 13.30 น. ทางคลินิคแจ้งญาติว่าน้องผ่าตัดเสร็จแล้ว แต่ยังไม่ฟื้นดี เพราะฤทธิ์ยาสลบ จนกระทั่งบ่ายสามโมง ญาติได้ขึ้นไปหา น้องโบ๊ท ได้พูดคุยได้เป็นปกติ และยังได้เซลฟี่ ภาพตัวเองส่งมาให้คุณแม่ที่อยู่จันทบุรี ได้ดูด้วย ซึ่งอาการคุยกันก็เป็นปกติดี

...

น้าสาวผู้ตาย กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นน้องโบ๊ท บ่นปวดแผล ทางญาติจึงไปแจ้งและขอยาทางคลินิก แต่มีเจ้าหน้าที่ของคลินิกมาฉีดยาให้แทน ซึ่งฉีดยาไปได้ไม่ถึงสิบห้านาที น้องบ่นหายใจไม่ออก แล้วเกิดอาการน็อกไปเลย โดยทางคลินิกได้ทำการ ซีพีอาร์ พร้อมกับนำน้องเข้าห้องผ่าตัดอีกรอบ แต่อาการน้องไม่ดีขึ้น จึงประสานไปยัง 1669 เพื่อจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลซึ่งอยู่ใกล้มากที่สุด แต่ไปอยู่ที่โรงพยาบาลดังกล่าว ได้ประมาน 2-3 ชั่วโมง ต้องส่งต่อไปยังอีกโรงพยาบาล เนื่องจากอาการผู้ป่วยไม่ดีขึ้น มีอาการชักกระตุก ตาเหลือก อาการทรุดลงเรื่อยๆ

แม้ทางแพทย์พยายามให้ยาต่างๆ แต่อาการน้องไม่ดีขึ้น จนกระทั่งวันที่ 8 มิถุนายน 2564 เวลา ประมาน 19.30 น. หลานสาวก็ได้เสียชีวิตลง ซึ่งทางแพทย์จากโรงพยาบาล ลงความเห็นสาเหตุการตายว่า เสียชีวิตจากอาการสมองขาดออกซิเจน เพราะขาดอากาศหายใจ แต่เนื่องด้วยศัลยกรรมตกแต่งหน้าท้อง โดยในช่วงแรกๆ ที่ไปอยู่ โรงพยาบาลทางคลินิกได้บอกว่าจะออกค่าใช้จ่ายในการรักษาอาการของน้องทั้งหมด หรือถ้าเกิดเสียชีวิต ก็จะจ่ายสินไหมทดแทนให้ แต่หลังจากที่เสียชีวิตไปแล้ว ทางคลินิกก็เงียบหายไปเลย ไม่ได้รับการติดต่ออีกเลย

นางสาวศลิษา กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นทางญาติกลัวว่าทางคลินิกที่ทำศัลยกรรมจะไม่รับผิดชอบ เพราะน้องโบ๊ท ผู้เสียชีวิต เป็นเสาหลักของครอบครัว มีอาชีพ เปิดร้านขายโทรศัพท์ ในตัวเมืองจันทบุรี นอกจากนี้ยังได้ขายเครื่องสำอาง ขายประกันชีวิต และอื่นๆ อีกมากมาย น้องโบ๊ทเป็นคนขยัน ซึ่งบ้านของน้องมี แม่ และยังเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะต้องเลี้ยงดูลูกสาวซึ่งยังเล็กอยู่ เมื่อหมดเสาหลักไป ทางครอบครัวน้องต้องลำบากแน่ จึงออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมดังกล่าว

...

ทั้งนี้ สำหรับกรณีดังกล่าว ยังไม่มีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องว่า ข้อเท็จจริงทั้งหมดเป็นอย่างไร หากมีรายละเอียดและความคืบหน้าจากทุกฝ่าย จะนำเสนอต่อไป.