นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จัดทำโครงการศึกษา สำรวจ และประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ของการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่ ในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ประกอบด้วย 1.โรงสูบน้ำที่ 1 ฐานทัพเรือสัตหีบ ความลึก 150 เมตร ปริมาณน้ำสูงสุดที่สูบได้จากการคำนวณ 169.1 ลบ.ม./ชม. 2.แฟลตทหารเรือสัตหีบ ความลึก 150 เมตร ปริมาณน้ำสูงสุดที่สูบได้จากการคำนวณ 128.15 ลบ.ม./ชม. และ 3.หน่วยบัญชาการพิเศษทางเรือ ความลึก 150 เมตร ปริมาณน้ำสูงสุดที่สูบได้จากการคำนวณ 188.76 ลบ.ม./ชม. ผลการดำเนินงานพบว่าได้ค้นพบแหล่งน้ำบาดาลใหม่ที่มีขนาดใหญ่ มีปริมาณน้ำบาดาลสูง และคุณภาพน้ำจืด ที่บริเวณ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ทั้งนี้ แหล่งน้ำ บาดาลดังกล่าว กักเก็บอยู่ในรอยแตกของหินปูนเม็ดทราย ที่ตกตะกอนในยุคคาร์บอนิเฟอรัส ถึงเพอร์เมียน มีความลึก 150 เมตรจากระดับผิวดิน ผลจากการสูบทดสอบปริมาณน้ำจากบ่อเจาะสำรวจ จำนวน 3 บ่อ พบว่าสามารถสูบน้ำบาดาลได้ในอัตรา 128.15 ถึง 188.76 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่ว โมง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการวางแผนก่อสร้างระบบกระจายน้ำให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป
นายศักดิ์ดา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตามที่รัฐบาลสนับสนุนโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ จำนวน 30 แห่ง ประจำปีงบประมาณ 2564 ตนได้มอบหมายให้สำนัก– ทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 9 (ระยอง) ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่กลุ่มผู้นำท้องถิ่น กลุ่มเกษตรกร จ.ชลบุรี จันทบุรี และระยอง จำนวน 25 ราย เพื่อให้กลุ่มผู้ใช้น้ำเข้าใจการใช้งานระบบ และสามารถบำรุงรักษาดูแลระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ.