“สืบนครบาล” บุกรวบแคชเชียร์สาวสนามกอล์ฟใน จ.ชลบุรี พฤติกรรมสุดแสบ ขโมยบัตรเครดิตนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นไปรูดซื้อทรัพย์สินถึง 6 ครั้ง หลังรู้ตัวรีบอายัดบัตรเข้าแจ้งความ ชุดสืบสวนตามเบาะแสรวบตัวได้คาเคาน์เตอร์แคชเชียร์ที่ทำงาน อ้างเก็บบัตรเครดิตได้ แต่ผู้เสียหายยืนยันเก็บไว้ในล็อกเกอร์
ตำรวจจับแคชเชียร์สาวรายนี้ เปิดเผยขึ้นที่ บก.สส.บช.น. เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ต.ค. พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ ผกก.สส.3บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.สมคิด ประเชิญสุข รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.และ พ.ต.ท.กัลป์ กลิ่นศรี รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังร่วมกันจับกุมนางธันวา สืบวงษ์ดิษฐ์ อายุ 44 ปี ชาว จ.จันทบุรี อาชีพแคชเชียร์สนามกอล์ฟ ก่อเหตุขโมยบัตรเครดิตชาวต่างชาตินำไปรูดซื้อทรัพย์สิน จับกุมบริเวณเคาน์เตอร์แคชเชียร์ สนามกอล์ฟเมาน์เทนชาโดว์ เลขที่ 159/1 หมู่ 2 ถนนแสนสุข ต.เหมือง อ.เมืองชลบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 5 ก.ย. นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นลูกค้าประจำไปใช้บริการที่สนามกอล์ฟที่ผู้ต้องหาทำงานอยู่ หลังเล่นกอล์ฟเสร็จเดินทางกลับบ้านพักที่กรุงเทพฯ ตามปกติ ต่อมาวันที่ 7 ก.ย. ตรวจดูข้อความทางโทรศัพท์พบว่า มีการใช้บัตรเครดิตซื้อสิ่งของตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. เวลาประมาณ 18.30 น. ถึงวันที่ 7 ก.ย. รวม 6 ครั้ง สินค้าที่รูดบัตรซื้อมีทั้งทองรูปพรรณ สิ่งของเครื่องใช้รวมราคาเกือบแสนบาท รีบโทรศัพท์แจ้งอายัดบัตรไปยังธนาคารช่วงเที่ยงวันที่ 7 ก.ย. ช่วงบ่ายยังนำบัตรเครดิตไปใช้อีกเป็นครั้งที่ 7 แต่ไม่ผ่าน รีบแจ้งความตำรวจให้ช่วยสืบสวนหาตัวคนร้าย
ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ พ.ต.ท.มนเทียน ปิ่นทัศน์ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.หญิงญาดา พงษ์นัดดา ร.ต.อ.โชคดี อินทรลักษณ์ ร.ต.อ.สุไพสิทธิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ส.ต.อ.ศิริพจน์ หนองคำหาร และ ส.ต.อ.วุฒิชัย ขุนชัย ผบ.หมู่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. สืบสวนจนทราบว่าคนร้ายรายนี้คือนางธันวาทำงานเป็นแคชเชียร์สนามกอล์ฟดังกล่าว รวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดชลบุรีออกหมายจับและตามจับกุมตัวไว้ได้
...
สอบสวนนางธันวา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง แต่ไม่ได้ขโมย อ้างว่าเก็บบัตรเครดิตได้ สาเหตุที่ทำลงไปเนื่องจากกู้เงินจากนายทุนนอกระบบในพื้นที่ อ.ศรีราชา ดอกเบี้ยร้อยละ 20 มาลงทุนเล่นแชร์ลูกโซ่ แต่ไม่ได้ผลประโยชน์ตามที่หวังเอาไว้ ประกอบกับเศรษฐกิจขาลง เพราะเป็นช่วงแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่มีเงินส่งให้เจ้าหนี้ เอาบัตรไปรูดซื้อของเพราะเห็นเป็นชาวต่างชาติ คิดว่าเหยื่อคงไม่เอาเรื่อง กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
ทั้งนี้ ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นยืนยันว่า เก็บบัตรเครดิตไว้ในล็อกเกอร์เก็บของในห้องแต่งตัว เชื่อว่าอาจมีเหยื่อชาวต่างชาติรายอื่นอีก ต้องสอบสวนขยายผลอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหาลักทรัพย์ เอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น ซึ่งออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้โดยมิชอบ เพื่อใช้เบิกถอนเงินสดในประการที่จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา ดำเนินคดีต่อไป