ตำรวจเรียกสอบหนุ่มโชเฟอร์รถสองแถว กรณีโกงเงินทอนค่าโดยสารนักเรียน หลังให้แบงก์ 100 กลับไม่ยอมทอนทำให้เด็กเครียดถึงกับพยายามโดดสะพานลอย และวิ่งข้ามถนนให้รถชนหวังฆ่าตัวตาย อ้างนึกว่าแบงก์ 20 เท่ากับค่ารถ ยันไม่มีเจตนาโกง ด้านขนส่งจังหวัดพบความผิดฐานเรียกเก็บค่าโดยสารเกินราคา หลังตรวจสอบกับบริษัทเดินรถระบุค่าโดยสารจริงแค่ 14 บาท ลงโทษปรับเงินสูงสุดถึง 10,000 บาท

จากเหตุการณ์ระทึกกรณีนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เจอมรสุมชีวิตจากปัญหาในครอบครัว หนำซ้ำโดนโชเฟอร์รถสองแถวสายนาเกลือ-สัตหีบ ไม่ยอมทอนเงินค่าโดยสาร หลังให้ธนบัตรใบละ 100 บาท ทำให้ไม่มีเงินซื้อข้าวกินที่โรงเรียน ถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่ ก่อนเขียนจดหมายลาครูไปกระโดดสะพานลอยฆ่าตัวตายบริเวณถนนสุขุมวิทยา ฝั่งขาเข้าพัทยา หน้าหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ แต่พลเมืองดีช่วยไว้ทัน แต่ยังทำใจไม่ได้ อาศัยจังหวะทุกคนเผลอวิ่งไปกลางถนนหวังให้รถชน เพื่อนนักเรียนต้องช่วยกันไล่จับโกลาหล หลังเกิดเหตุตำรวจเตรียมนำคนขับรถสองแถวมาสอบสวนดำเนินคดี

ต่อมาเวลา 12.00 น. วันที่ 15 ก.ย. พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุพรรณ ใจหาญ สว.สส.สภ.สัตหีบ นำตัวนายจตุพล ชาวเชียงยืน อายุ 26 ปี โชเฟอร์ขับรถสองแถวคันดังกล่าวมาสอบสวน หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยโกงเงินทอนค่าโดยสารนักเรียน พ.ต.อ.ปัญญาเผยว่า นายจตุพลให้การว่านักเรียนคนดังกล่าวนั่งรถมาจากวัดหนองใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ลงปลายทางหน้าหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่าโดยสาร 20 บาท ส่วนที่เด็กบอกว่าจ่ายแบงก์ 100 บาท นายจตุพลอ้างว่าจำไม่ได้หรืออาจหลงลืม เพราะขณะนั้นมีผู้โดยสารลงพร้อมกันหลายคน และเรื่องที่เด็กอ้างว่าถูกต่อว่านั้นไม่เป็นความจริง ยืนยันไม่มีเจตนา หรือคิดจะโกงค่ารถ หากผิดจริงก็ขอยอมรับผิดทุกอย่างตามกฎหมาย

...

ด้านนายจตุพลรับสารภาพว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคิดว่าเด็กคนดังกล่าวให้เงินมา 20 บาทเท่ากับค่าโดยสารเด็กนักเรียน ตอนนั้นมีนักเรียนลงพร้อมกันหลายคน ไม่ได้สังเกตว่าเป็นแบงก์อะไรบ้างนึกว่าเป็นแบงก์ 20 หลังรับเงินได้ออกรถตามปกติ ตัวเด็กก็ไม่ได้ทวงถามเงินทอน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีเจตนาจะโกงเงินเด็กแต่อย่างใด น่าจะเป็นการเข้าใจผิดมากกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยโกงเงินผู้โดยสาร พร้อมขอโทษเด็กและครอบครัวเด็ก รวมถึงขอโทษสังคมด้วย

ขณะที่นายจรัญญา ชาวเชียงยืน อายุ 47 ปี พ่อนายจตุพล กล่าวว่า ลูกชายขับรถสองแถวมานานหลายปี ขอยืนยันว่าไม่เคยมีพฤติกรรมโกงเงินใคร หรือมีประวัติไม่ดี คาดว่าจะเป็นการเข้าใจผิดแน่นอน ขอให้สังคมอย่าประณาม ช่วยยืนอยู่บนความจริง และฟังความทั้งสองฝ่าย

ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายกนิษฐฐ์ เจียมรุจีกุล ขนส่งจังหวัดชลบุรี พร้อมนายกรณ์พิทักษ์ อาสน์สุวรรณ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ เชิญนายจตุพล คนขับรถสองแถว คิวรถสัตหีบ-นาเกลือ 1631 จ-110 และนายสุทธิโรจน์ รัตติทวีวัฒน์ อายุ 60 ปี ประธานบริษัท สุขุมวิทเดินรถ จำกัด มาพบที่สำนักงานขนส่งจังหวัดชลบุรี ก่อนลงโทษเปรียบเทียบปรับ

นายจตุพลตามความผิดมาตรา 159 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522เรียกเก็บค่าขนส่งผิดไปจากอัตราที่ทางราชการกำหนด (ปกติสายนี้จะเก็บค่าโดยสาร 14 บาทเท่านั้น นายจตุพลเก็บ 20 บาท ถือว่าเกินกว่าราคาที่กำหนด) ปรับอัตราสูงสุดเป็นเงิน 10,000 บาท โดยได้อบรมและบันทึกประวัติการกระทำความผิด กำชับมิให้กระทำผิดซ้ำเกิดขึ้นอีก หากผู้โดยสารไม่ได้รับความเป็นธรรมแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชม.

ขณะที่นายสุทธิโรจน์ ประธานบริษัท สุขุมวิทเดินรถ จำกัด กล่าวว่า จากนี้ก็จะประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริษัทว่าจะมีมติอย่างไร ที่ผ่านมาบริษัทได้อบรมคนขับรถทุกคนอยู่ตลอดเวลา มีกรรมการคอยติดตามว่าคนไหนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม หรืออาจทำให้เสียหายต่อบริษัท เราจะดำเนินการทันที สิ่งที่เกิดกับนายจตุพลคาดว่าเกิดจากความเผลอเรอ และเข้าใจผิดว่าให้เก็บเงินคนละ 20 บาท ที่จริงเก็บคนละ 14 บาทเท่านั้น ขอเตือนคนขับรถในเครือร่วมบริษัททุกคนว่ามันไม่คุ้มกัน เพราะหากทำผิดโดนปรับสูงสุดถึง 10,000 บาท

น.ส.อลิสรา ใจเพชร นักสังคมสังเคราะห์ปฏิบัติการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุไปเยี่ยมเด็กที่บ้านพบว่าเด็กอยู่กับป้าและไม่พร้อมจะย้ายออกจากครอบครัว เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำและจะเข้าไประเมินสภาพจิตใจเป็นระยะ และพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา