ศุลกากรแหลมฉบัง และกรมการค้าภายใน ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ 4 ใบ บรรจุหน้ากากอนามัย กว่า 5.6 ล้านชิ้นส่งออกอเมริกา ตัวแทนบริษัทยืนยันส่งออกถูกต้อง หลังส่งออกไปแล้วกว่า 6 ตู้

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 มีนาคม 2563 ที่บริเวณโกดังเก็บสินค้า ท่าเรือเอ 3 ภายในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายนิมิตร แสงอำไพ ผู้อำนวยสำนักงานศุลกากร ท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิชย์ ผกก. สภ.แหลมฉบัง ตัวแทนกระทรวงพาณิชย์ ตัวแทนกรมการค้าภายใน และตัวแทนจากบริษัทผู้ส่งออกหน้ากากอนามัย ได้ร่วมกันเปิดตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 4 ใบ ซึ่งภายในบรรจุหน้ากากอนามัย หลากหลายชนิด ทั้งแบบธรรมดา แบบใช้ในทางการแพทย์ แบบพรีเมียม รวมทั้งสิ้นกว่า 5.6 ล้านชิ้น แบ่งออกเป็นตู้คอนเทนเนอร์ละ 1.4 ล้านชิ้น โดยสินค้าดังกล่าว ผลิตที่บริษัทแห่งหนึ่ง ภายในประเทศไทย แล้วส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งขนถ่ายขึ้นเรือบรรทุกสินค้า ผ่านทางท่าเรือแหลมฉบัง

โดยก่อนหน้านี้มีการตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 6 ใบ ที่บรรจุหน้ากากอนามัย ของบริษัทดังกล่าว ถูกส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว ส่งผลให้เมื่อเร็วๆ นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีคำสั่งด่วนให้ นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ในการบริหารจัดการของรัฐบาล หลังจากนั้นนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากราช โดยให้เหตุผลว่ามีปัญหาสุขภาพ

หลังจากเมื่อวันที่ 4 ก.พ.2563 ได้มีประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม และมีมาตรการห้ามส่งออกแล้ว และที่ให้ส่งออกได้กำหนดคุณสมบัติพิเศษ คือใช้ในทางการแพทย์ และโรงงานอุตสาหกรรม เป็นสินค้าที่มีลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ และไม่สามารถนำมาใช้ในประเทศได้ รวมทั้งโรงงานผู้ผลิตที่ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะต้องผลิตเพื่อส่งออกทั้งหมด

...


ทั้งนี้ จากการเปิดตู้คอนเทนเนอร์ ทั้ง 4 ใบ พบหน้ากากอนามัย หลากหลายชนิด ทั้งแบบธรรมดา แบบใช้ในทางการแพทย์ แบบพรีเมียม โดยมีตัวแทนบริษัท นำหลักฐานเอกสาร หลักฐานการเสียภาษี หลักฐานการอนุญาติส่งออก จาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่


ด้านนายนิมิตร แสงอำไพ ผู้อำนวยสำนักงานศุลกากร ท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า  ปกติแล้ว บริษัทดังกล่าว มีประวัติการส่งออกหน้ากากอนามัย อยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 และสำหรับบริษัทดังกล่าว ก็ได้รับสิทธิจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) อายุสัญญาเป็นเวลา 1 ปี ในการส่งออกหน้ากากอนามัย ส่วนสำนักงานศุลกากร ท่าเรือแหลมฉบัง จะมีหน้าที่ตรวจสอบการนำเข้า และส่งออกตู้คอนเทนเนอร์ ผ่านเครื่องเอกซเรย์ ว่าถูกหรือผิดกฎหมาย หรือการสำแดงเท็จ เท่านั้น โดยสิ่งที่เรากลัวมากที่สุดไม่ใช่การสำแดงหน้ากากอนามัย แต่เป็นพวกสำแดงเท็จ เช่น ชิ้นส่วนผ้า อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า สำนักงานศุลกากร ท่าเรือแหลมฉบัง ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดและตรงไปตรงมา.