พ.ต.อ.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ไม่มาฟังคำพิพากศาลฎีกา คดีบุกที่ประชุมอาเซียนที่พัทยา ศาลอ่านคำพิพากษาลับหลัง ยืนโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 200 บาท ไม่รอลงอาญา และให้ออกหมายจับเอาตัวมารับโทษ
วันที่ 15 ม.ค. ที่ศาลจังหวัดพัทยา ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.3537/2552 คดีที่ “พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง พ.ต.อ.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ กับพวกรวม 18 คนเป็นจำเลย กรณีบุกโรงแรมรอยัลคีพพัทยาเพื่อขัดขวางการชุมนุมอาเซียนซัมมิท โดยระหว่างพิจารณามีจำเลย หลบหนี 3 คน ขณะที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง 2 คน นายธรชัย ศักดิ์มังกร จำเลยที่ 8, พ.ต.อ.สมพล รัฐกาญจน์ จำเลยที่ 14 ชั้นฎีกายกฟ้อง 1 คน คือนายสมญศฆ์ พรมภา จำเลยที่ 4
โดยในวันนี้ ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในส่วนของ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จำเลยที่ 3 หลังจากที่เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 ศาลจังหวัดพัทยาได้ออกหมายจับเพื่อให้ติดตามตัวมาฟังคำพิพากษาฎีกาในวันนี้ แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลานัดวันนี้มีเพียงทนายความมาศาล ส่วน พ.ต.ท.ไวพจน์ ที่ศาลออกหมายจับครบ 1 เดือนแล้วยังไม่ได้ตัวมาศาล
ศาลจึงได้อ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย โดยศาลฎีกาพิพากษายืน จำคุก พ.ต.ท.ไวพจน์ 4 ปี และปรับ 200 บาท โดยไม่รอลงอาญา
ภายหลังอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาแล้ว ศาลจังหวัดพัทยาได้มีคำสั่งให้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ไวพจน์ จำเลยที่ 3 เพื่อมารับโทษตามคำพิพากษาต่อไป โดยหมายจับมีอายุความ 10 ปี ในการติดตามตัวนับจากวันนี้
สำหรับคดีนี้ในส่วนของจำเลยที่ 1, 2, 5, 12, 16 นั้น ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาลับหลังจำเลยและออกหมายจับจำเลยไว้แล้วเช่นกัน
...
ส่วนจำเลยที่ 6, 10, 11, 13, 15, 17 ที่ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนจำคุกด้วยนั้น ได้ฟังคำพิพากษาก่อนหน้านี้แล้ว และศาลได้ออกหมายจำคุกถึงที่สุด ซึ่งทั้งหมดถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
คดีนี้มีจำเลยที่ศาลยกฟ้องเพียง 3 คน คือจำเลยที่ 4, 8, 14 และมีจำเลยที่หลบหนีระหว่างพิจารณา 3 คน คือ 7, 9 และ 18 ซึ่งศาลให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะได้ตัวมาดำเนินคดี.