เหตุรักสามเส้าลุงวัย 59 ปี ก่อเหตุใช้ปืนลูกซองจ่อยิงสาวใหญ่ แม่ค้าขายอาหารเจวัย 51 ปี ดับอนาถ ตำรวจ สภ.บ่อทอง ตามรวบตัวมือยิงเลือดร้อนรายนี้ได้แล้ว รับสารภาพทำไปเพราะความหึงหวง หญิงสาวที่ตนเองคบหาเปลี่ยนแปลงไปเป็นอื่น

จากกรณีที่มีเหตุคนร้ายเป็นชายวัย 59 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยิงสาวใหญ่วัย 51 ปี แม่ค้าขายอาหารเจ ในพื้นที่ตลาดบ่อทอง อำเภอบ่อทอง จนเสียชีวิต หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป พร้อมอาวุธปืน โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อรุ่งเช้าของ วันที่ 9 ธันวาคม ที่บ้านเลขที่ 124 /1 หมู่ 5 ตำบลบ่อทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ (11 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อทอง ได้ควบคุมตัวมือปืนโหดรายนี้ได้แล้วพร้อมนำตัวมาทำการสอบสวนโดย พ.ต.ท.พงษ์พิษณุ ธนิสร์พรพล รอง ผกก.สอบสวน สภ.บ่อทอง ได้ทำการสอบสวนนายสุพจน์ สงคราม อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยาวขนาดเบอร์ 12 ยิงนางกมลชนก หรือเดือน ตวงกมลพร อายุ 51 ปี เสียชีวิต คาบ้านพักขณะจัดเตรียมอาหารเจไปจำหน่ายในตัวตลาดอำเภอบ่อทอง หลังจากผู้ต้องหาก่อเหตุในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 9 ธ.ค. ก่อนหลบหนีไปที่บ้านพักของลูกชายที่ อำเภอพลวงทอง โดยได้นำเอาอาวุธที่ยิงไปฝากไว้ที่บ้านลูกชาย ก่อนจะหลบหนีไปพื้นที่รอยต่อ อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อนที่จะมาถูกเจ้าหน้าที่ไล่ล่าตามหาตัว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ชุดสืบสวน สภ.บ่อทอง สามารถควบคุมตัวได้ ในเขตพื้นที่อำเภอพนัสนิคม และนำตัวมาสอบสวน ที่ สภ.บ่อทอง

นายสุพจน์ สงคราม ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า รับไม่ได้ผู้ตายมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปกลับบ้านไม่เป็นเวลา ไม่สนใจในตนเองเหมือนเมื่อก่อน แม้แต่กระทั่งข้าวปลาอาหารก็ไม่สนใจจะจัดหาได้กิน และระแคะระคายมีชายหนุ่มมาติดพัน ตามรับตามส่ง ปฏิบัติกลับตนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เป็นอยู่อย่างนี้นาน ประมาณ 1 เดือน หนักเข้า มีผู้ชายมาหาถึงที่บ้าน จนมีปากมีเสียงกันเรื่อยมา ซึ่งในวันเกิดเหตุเมื่อราว 3 ทุ่มตนเองได้มีปากเสียงกับผู้ตาย ก่อนจะตัดสินใจคว้าเอาปืนมายิงที่ป่ายาง เพื่อระบายความอัดอั้นในใจ ก่อนขับรถที่ใช้หลบหนีไปนอนพักที่บ้านคนรู้จัก หลังจากนั้นเมื่อราว ตี 4 จึงย้อนกลับมาเพื่อกรีดยาง พอมาถึงจอดรถหน้าบ้านที่เกิดเหตุและได้เดินเข้าไปหาผู้ตายที่กำลังเตรียมอาหารเพื่อไปจำหน่าย และมีปากมีเสียงกันอีกครั้ง ก่อนที่จะก่อเหตุใช้อาวุธปืนที่นำมาด้วยจ่อยิงผู้ตายด้วยความโมโห ที่ผู้ตายพูดจายั่วยุ หลังก่อเหตุแล้วได้เข้าไปประคองด้วยความเสียใจ พร้อมกับเดินไปตะโกนบอกนายบุญ และนางเจียม ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของตน และเป็นแม่บุญธรรมของผู้ตายว่า นางเดือนถูกตนเองยิงตายแล้ว ก่อนหลบหนีไปที่บ้านพักลูกชายที่ อ.พลวงทอง เพื่อนำเอาอาวุธปืนไปเก็บไว้ ก่อนหลบหนีเข้าป่า

...

นายสุพจน์ ให้การต่อว่า ยอมรับว่าแอบมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับผู้ตายมานานราว 2 ปี แล้วช่วยเหลือหลายๆ อย่าง ทั้งซื้อรถที่ใช้บรรทุกของไปขายที่ตลาดบ่อทอง เรื่องหนี้สิน ค่าซ่อมรถ ตนก็รับผิดชอบ และช่วยเหลือช่วยแพ็กบรรจุจัดเตรียมอาหารเพื่อไปจำหน่าย ยอมรับว่า 1-2 เดือนที่ผ่านมามีความคับแค้นใจที่ผู้ตาย แอบปันใจให้ชายอื่น จึงก่อเหตุใช้ปืนยิง

ด้านนายจุมพล ขอสงวนนามสกุล ลูกชายของผู้ตาย เล่าสั้นๆ ว่า หลังก่อเหตุ พ่อได้มาหาที่บ้าน ขณะที่ตนเองกำลังอาบน้ำ พอออกมาก็เห็นอาวุธปืนวางไว้ที่โซฟา ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหาที่บ้าน จึงทราบเรื่องว่าพ่อก่อเหตุฆ่าคนตาย หลังจากพ่อหนีไป ได้ติดต่อมาหา ตนก็พูดขอร้องให้พ่อออกมามอบตัว ติดคุกก็ยังไปเยี่ยมไปหาได้ แต่ถ้าหนีก็ต้องหนีตลอดชีวิต จนเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัวได้ดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันสมควร.