ตม.ไทย-กัมพูชาเป็นหนึ่งเดียว ป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ

ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เป็นด่านพรมแดนสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย อยู่ตรงข้ามกับด่านพรมแดนถาวรปอยเปต อ.โอวโจรว จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ปัจจุบันมีสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เชื่อมระหว่าง 2 ประเทศ

ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางผ่านเข้า-ออก ไม่ต่ำกว่า 5,000 คน เฉพาะชาวกัมพูชาเดินทางผ่านเข้า-ออก ทั้งการท่องเที่ยวและการค้าขายไม่ต่ำกว่า 10,000 คน

โดยมี ด่าน ตม.อรัญประเทศ และ ด่าน ตม.ปอยเปต ฝั่งกัมพูชาเป็นหน่วยงานหลักในการตรวจลงตราอนุญาตการเดินทางเข้า-ออก 2 ประเทศ

อีกไม่นานจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกจะมีการเดินทางด้วย รถไฟสายอรัญประเทศ-ปอยเปต เพิ่มขึ้นอีก 1 ช่องทาง เป็นขบวนรถไฟระหว่างประเทศ มีสถานีรถไฟอยู่ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟปอยเปต กัมพูชา

หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หน.คสช และสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร่วมกันเปิดสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (หนองเอี่ยน-สตึงบท) และสถานีรถไฟไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2562 พื้นที่นี้โดดเด่นรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว

ภาระหน้าที่ในการดูแลนักท่องเที่ยวและนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จึงเป็นของ ตม.จ.สระแก้ว และ ตม.ปอยเปต ที่ต้องประสานการทำงานร่วมกัน ในฐานะสมาชิกประชาคมอาเซียนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านเข้า-ออก

พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จ.สระแก้ว กล่าวว่า จาก นโยบาย ตม.ไทย และตม.กัมพูชา เป็นหนึ่งเดียว เมื่อเร็วๆนี้ พ.ต.อ.เข้ม ซีตรา ผกก.ตม.ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ได้นำคณะ จนท.ตม.ปอยเปต เดินทางมาร่วมประชุมสานสัมพันธ์กับ จนท. ตม.จ.สระแก้ว

ในโอกาสเดียวกันนี้ พ.ต.อ.เบญจพล ได้นำ พ.ต.อ.เข้ม พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของ ตม.จ.สระแก้ว ประจำจุดตรวจหนังสือเดินทางท้องถิ่นกัมพูชา (บอเดอร์พาสกัมพูชา) อาคารผู้โดยสารขาเข้า ด่าน ตม.อรัญประเทศ

โดยทาง ตม.จ.สระแก้ว ได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการตรวจสอบหนังสือเดินทาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยใช้บอเดอร์พาสฯ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็วและเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด

ทำให้ ผกก.ตม.ปอยเปต ถึงกับเอ่ยปากชมในความล้ำสมัย พร้อมสั่งการให้ จนท.ตม.ปอยเปต จดรายละเอียดและวิธีการเพื่อนำไปปรับใช้ พร้อมทั้งให้มีการเชื่อมระบบในการตรวจสอบสอดคล้องซึ่งกันและกัน

นอกจากนี้ คณะ ตม.ปอยเปต ยังได้เยี่ยมชมเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติที่มีการติดตั้งระบบตรวจจับใบหน้า บนอาคารผู้โดยสารขาเข้าราชอาณาจักร 2 เครื่อง และขาออกราชอาณาจักร 2 เครื่อง เป็นเครื่องตรวจหนังสือเดินทางและตรวจจับใบหน้าอัตโนมัติ ที่ สตม.จัดสรรงบประมาณนำมาติดตั้งให้กับด่าน ตม.อรัญประเทศ โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ในโครงการพัฒนางานบริการชาวต่างชาติแบบไป-กลับ ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ

พ.ต.อ.เบญจพล กล่าวอีกว่า ตม.ได้พัฒนาศักยภาพด้านเทคโนโลยีการตรวจจับใบหน้าผู้ที่เดินผ่านจุดที่กำหนด นำมาตรวจสอบกับหลักฐานข้อมูลใบหน้าบุคคล จะได้ทราบว่าบุคคลนั้นๆ เป็นบุคคลเฝ้าระวังหรือไม่

ทั้งนี้เป็นการยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นการตอบสนองนโยบายพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งพัฒนาการรักษาความปลอดภัยให้ทันสมัย

ที่สำคัญคือตอบสนองความต้องการด้านการป้องกันการก่อการร้าย การก่อวินาศกรรม และการก่ออาชญากรรม อีกทั้งเป็นเครื่องมือในการป้องกันบุคคลต้องสงสัยที่เดินทางเข้า-ออก ด้วย

พ.ต.อ.เข้ม ซีตรา ผกก.ตม.ปอยเปต ได้กล่าวชื่นชม ตม.จ.สระแก้ว ที่มีการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในกิจกรรมงานตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะ ด่าน ตม.อรัญประเทศ เป็นแค่ด่านชายแดน แต่มีการนำเครื่องตรวจพาสปอร์ตอัตโนมัติที่มีระบบตรวจจับใบหน้ามาใช้ นับว่าทันสมัยมาก ถือว่าเป็นด่านสากลระดับเดียวกับสนามบินใหญ่ๆ เลยทีเดียว

จากนั้น ตม.2 ฝ่าย ได้ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันโดยทั้ง ตม.ทั้ง 2 ประเทศจับมือยืนยันจะทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว จะมีการประสานความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด แลกเปลี่ยนข้อมูลทั้งอาชญากรรมข้ามชาติ การสกัดกั้นการก่อการร้ายข้ามชาติ และการค้ายาเสพติดข้ามชาติ

“การสร้างความสัมพันธ์ของ ตม.จ.สระแก้ว กับ ตม.ปอยเปตให้เป็นหนึ่งเดียวนั้น จะสร้างความเข้มแข็งให้กับ จนท.ทั้งสองประเทศ ทำให้การดูแลนักท่องเที่ยว และการดูแลเรื่องความมั่นคงของประเทศ จะมีความเข้มแข็งและสามารถเชื่อมข้อมูลซึ่งกันและกันได้ ทำให้ช่วยแก้ปัญหาหรือการสกัดกั้นเกิดการบูรณาการซึ่งกันและกันด้วย” พ.ต.อ.เบญจพล กล่าวย้ำ

ทั้งหมดนี้คือความสำเร็จในการประสานการทำงานร่วมกันระหว่างไทยและกัมพูชา ในอนาคตเชื่อว่าปัญหาต่างๆตามแนวชายแดนคงจะหมดไป.

ชัชวาลย์ โสภาพันธ์