นอกจากธุรกิจโฮมสเตย์ที่บ้านอ่าวหมู ต.บางกะไชย อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ก็ยังมีอาชีพ การทำหมึกตากแห้งแดดเดียว ที่สร้างรายได้งาม เพราะสินค้ามีคุณภาพ สีสวย ไม่เหม็น ขาย กก.ละ 500-1,600 บาท...
เมื่อวันที่ 26 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพูดถึงการแปรรูปอาหารจากท้องทะเล จังหวัดพื้นที่ชายทะเล มีอยู่หลากหลายรูปแบบ หนึ่งในอาหารทะเลแปรรูปที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค คือ หมึกตากแห้งแดดเดียว
นางศรีประไพ จตุพร หรือ คุณป้าเต้า อายุ 65 ปี ชาวบ้านผู้ยึดอาชีพการทำหมึกแห้งแดดเดียว ในพื้นที่บ้านอ่าวหมู ต.บางกะไชย อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี กล่าวว่า ทุกวันป้าเต้ากับชาวบ้านรุ่นราวคราวเดียวกัน จะร่วมทำปลาหมึกแห้ง เนื่องจากมองว่าง่ายแสนง่ายสำหรับมืออาชีพ โดยอุปกรณ์การทำ มีเพียงแค่หมึกกล้วยสด ไซส์ตัวขนาด 4 นิ้วขึ้นไป มีดปลายแหลม แผงสำหรับตากหมึก กะละมัง
คุณป้าเต้า กล่าวต่อว่า ส่วนวิธีทำนั้น เริ่มจากการนำเอาหมึกสดๆ ที่ซื้อมาจากชาวประมง โดยไม่ผ่านการแช่น้ำแข็ง เพราะเมื่อนำไปตากแดดแล้ว สีจะไม่สวยและมีกลิ่นรุนแรง ต่อมา ก็นำมาผ่าบริเวณลำตัวและส่วนหัว เพื่อเอาตา, ไส้ และขี้ออก แต่เทคนิคในการผ่า คือ ต้องระวังอย่าให้ขี้ของหมึกแตก เพราะจะทำให้หมึกสีไม่สวย หลังจากผ่าเอาไส้และขี้หมึกสีดำออกหมดแล้ว นำหมึกล้างด้วยน้ำทะเลให้สะอาด เหตุที่ต้องล้างด้วยน้ำทะเล เพราะนี่คือเคล็ดลับ ในการทำให้หมึกตากแห้ง มีรสชาติที่เค็มพอดี พร้อมกับมีกลิ่นหอม แต่หากนำไปล้างด้วยน้ำจืด หมึกจะมีกลิ่นเหม็น
...
คุณป้าเต้า ผู้ทำปลาหมึกแดดเดียว กล่าวอีกว่า จากนั้นก็จะนำมาวางเรียงกันไว้ ยังตะแกรงที่ใช้ตาข่ายมุ้งไนลอน อย่างเป็นระเบียบสวยงาม ก่อนนำไปตากแดดเป็นเวลา 1 วัน ก็จะได้หมึกแดดเดียวพร้อมจำหน่าย หมึกที่เราเห็น นำมาทำเป็นหมึกแห้ง นิยมใช้เป็นปลาหมึกกล้วย เพราะหาได้ง่าย บางครั้งจับมาได้มีปริมาณมาก และไม่สามารถขายได้ทัน ชาวบ้านจึงนำมาแปรรูป ทำเป็นหมึกแห้ง เพื่อเป็นการถนอมอาหาร และสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับหมึกได้
"สำหรับเคล็ดลับนักช็อป ก่อนซื้อหมึกตากแห้ง ต้องดูวิธีการเลือกหมึกแห้ง ตามแผงพ่อค้า-แม่ค้า ที่จำหน่ายอยู่ตามตลาดอาหารทะเล และการเก็บรักษากันสักหน่อย เนื้อหมึกต้องไม่แห้งและบางจนเกินไป ถ้าเป็นหมึกเก่าเนื้อจะแห้งและบางมาก ดมดูกลิ่นต้องไม่ฉุนหรือมีกลิ่นเหม็นสาบ ถ้ามีกลิ่นฉุนมากแสดงว่าหมึกเค็ม เช็กดูให้ละเอียดว่า หมึกแห้งแดดเดียวที่ซื้อมานั้น ไม่มีราเกาะอยู่ เพราะรานั้นไม่สามารถทำลายได้ด้วยความร้อน ส่วนคราบสีขาวบนาหมึกแห้ง คือ คราบแสดงความเค็มของน้ำที่ใช้ล้างปลาหมึก เป็นคราบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่ใช่รา เมื่อซื่อไปแล้วควรทำการเก็บรักษาโดยการแช่ตู้เย็นในช่องแช่แข็ง จะเป็นวิธีที่สามารถเก็บหมึกแห้งไว้ได้นาน ไม่ทำให้หมึกแห้งเสียและไม่เหม็นหืน" ป้าเต้า กล่าว
นางศรีประไพ กล่าวด้วยว่า หมึกปัจจุบันนี้ ราคาสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อมีการเกิดขึ้นของโฮมสเตย์จำนวนมาก แถบพื้นที่ป่าชายเลน เพราะมีการให้ราคาของทะเลเพื่อนำไปบริการลูกค้า ส่วนราคาหมึก ขณะนี้ จากราคาเพียงแค่กิโลกรัมละ 50-200 บาท ได้ปรับตัวสูงขึ้นมาเป็นราคา 500-1,600 บาทต่อกิโลกรัม แต่หมึกไม่มีทุกวัน เพราะต้องขึ้นอยู่กับสภาพของทะเล หากมีคลื่นลมแรง หรือพายุ เรือก็ออกทะเลไม่ได้ บางครั้งกว่าคลื่นลมจะสงบต้องเป็นอาทิตย์ การแปรรูปหมึกตากแห้ง แทบไม่ต้องวิ่งหาตลาดเลย เพราะพ่อค้าขาประจำ จะเข้ามาซื้อถึงที่.