อุทยานฯ โต้ปมข่าวปัญหาเกาะเสม็ด แจงเป็นข้อมูลเก่าที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แต่ทางอุทยานฯ และท้องถิ่นที่ได้มีการแก้ปัญหาไปนานแล้ว ชี้คนให้ข้อมูลหวังทำลายภาพลักษณ์ วอนนักท่องเที่ยวมั่นใจ...
เมื่อตอนสายของวันที่ 2 ต.ค. 2561 นายอยู่ เสนาธรรม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 นายประยูร พงศ์พันธุ์ หัวหน้าอุทยานแห่งขาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง พร้อมด้วยนายอุทิศ ลิ่มสกุล ผอ. ททท.สำนักงานระยอง และ น.ส.จุฑามาศ กุลรัตน์ ผู้ช่วย ผอ.การท่องเที่ยวและกีฬา จ.ระยอง นายมงคล โพธิ์แสง นายก อบต.เพ พร้อมด้วยชาวบ้านและผู้ประกอบการบนเกาะเสม็ด ประมาณ 100 คน ได้เดินทางมาประชุมที่ห้องประชุมสุดสาคร อุทยานฯ บนเกาะเสม็ด จากกรณีที่มีการเสนอข่าวเกี่ยวกับปัญหาเรื้อรังบนเกาะเสม็ด เช่น เรือสปีดโบ๊ตเสียงดังขณะจอดหน้าหาดทรายแก้ว น้ำเสียจากท่อระบายน้ำเสียที่ไหลลงทะเล รวมถึงสุนัขจรจัดที่เต็มเกาะเสม็ด แรงงานต่างด้าว ถนนขรุขระ ขยะเกลื่อน จนสร้างความเสียหายต่อภาพพจน์ของเกาะเสม็ด
นายประยูร พงศ์พันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด กล่าวว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวออกไป ที่มีหัวข้อข่าวว่า "เกาะเสม็ดเกือบเละ" โดยข้อเท็จจริงของเนื้อหาข่าวที่ออกไป เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นการนำข้อมูลเก่าที่มีการแก้ไขไปก่อนหน้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรือเร็วเสียงดัง ทางอุทยานฯ ได้มีการกำหนดโซนของหาดทรายแก้ว ในการจอดเรือรับส่งนักท่องเที่ยว และมีการตั้งกฎห้ามจอดแช่ รับส่งเสร็จจะต้องออกเรือไปทันที ทางอุทยานฯ ได้กำหนดที่จอดเร็วเอาให้สำหรับจอดเรือหลังจากส่งนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะ อาจจะมีบ้างบางลำที่ดื้อดึง แต่ก็ได้ตักเตือนไปแล้ว
ขณะที่ เรื่องสุนัขจรจัด ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ได้มีการลงพื้นที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและแมว มีการทำหมัน จับสุนัขไปปล่อยยังสถานกักกันสัตว์ที่จังหวัดสระแก้ว จังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนจำนวนของสุนัขส่วนใหญ่ก็มีเจ้าของ แต่ก็ยอมรับว่ามีสุนัขจรจัดบ้างแต่มีจำนวนไม่มาก ก็มีการดูแลป้องกันไม่ให้ลงมาตรงบริเวณชายหาด ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในป่า จึงยากแก่การจับตัว
...
เรื่อง น้ำเสียที่ไหลลงมาจากท่อระบายน้ำลงสู่ทะเล ความจริงคือท่อระบายน้ำที่เสมือนกับการระบายน้ำในช่วงฝนตกให้ไหลลงสู่ทะเล จึงไม่ใช่น้ำเสีย และจะไหลลงไปเฉพาะช่วงฝนตก น้ำไหลมาจาก หลายๆ ที่มาลงร่องน้ำไหลที่เดียวไหลมาออกที่หน้าร้านพลอยทะเล ทางอุทยานฯ ได้ให้โยธาและผังเมืองจังหวัดเข้ามาดำเนินขยายเพิ่มท่อให้มากขึ้น เพื่อป้องกันน้ำไหลเลอะเทอะ
เรื่องปัญหาขยะล้นเกาะ ปัญหาดังกล่าวนั้นได้มีการแก้ปัญหา โดยการที่ อบจ.ระยอง ได้นำงบประมาณจำนวน 15 ล้านบาท ลงมาเพื่อขนย้ายขยะออกจำนวน 1 หมื่นตัน จากเกาะเสม็ด และ ปัจจุบันขยะบนเกาะเสม็ดก็มีการดูแลเก็บกันทุกวัน ขยะที่อยู่บนเกาะจำนวน 5 หมื่นตัน ซึ่งทาง อบจ.ได้จัดสรรค์งบประมาณลงมาแก้ไขขยะ งบ 93 ล้านบาทเพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์การจำจัดขยะออกไปจากเกาะสิ้นเดือน มิ.ย. 2562
เรื่อง เงินที่ได้จากการเก็บค่าเข้าอุทยานฯ เงินทั้งหมดที่เก็บได้ในปี 2561 อุทยานฯ มีรายได้ทั้งหมด 172 ล้านบาท เป็นรายได้อันดับที่ 4 ของรายได้อุทยานฯ ทั่วประเทศ มีการจัดสรรปันส่วนให้กับ 3 อบต. คือ อบต.ตะพง อบต.เพ และ อบต.แกลง อบต.ละ 5% อีก 20% หักให้อุทยานฯ เกาะเสม็ดไว้ใช้ในส่วนการจัดซื้อของ 75% ส่งเข้าส่วนกลาง ที่เหลือก็นำมาพัฒนาบนเกาะเสม็ด ไม่ว่าจะเป็นการจัดการในเรื่องต่างๆ รวมถึงการก่อสร้างสถานที่อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ล่าสุดมีการนำงบประมาณกว่าร้อยล้านบาทไปตัดทำทุ่นลอยน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในอ่าวต่างๆ รวม 3 ทุ่น
เรื่องปัญหาแรงงานต่างด้าว มีการตรวจจับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่เป็นประจำ และส่วนใหญ่ก็มีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามที่กระทรวงแรงงานกำหนด
เรื่อง ถนนขรุขระ ปัจจุบันถนนสายหลักของเกาะเสม็ดได้มีการก่อสร้างเป็นถนนปูนทั่วทั้งเกาะ จะมีก็เพียงสายย่อยเพียงเล็กน้อยที่เป็นเส้นทางที่ไม่ใช่เส้นทางหลัก บางจุดเกิดจากทางน้ำไหล ซึ่งก็จะมีการซ่อมแซม
ขณะนี้มีเรือที่วิ่งระหว่างเกาะกับท่าเรือบ้านเพทั้งหมด 411 ลำที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด กล่าวต่อว่า การนำเสนอดังกล่าวนั้น อาจจะเป็นการรับฟังข้อมูลเก่าจากผู้ที่อาจจะไม่รู้จริง หรืออาจเป็นการจงใจทำลายภาพพจน์การท่องเที่ยวของเกาะเสม็ด เพราะทุกปัญหาได้มีการแก้ไขไปแล้ว ทั้งชาวบ้าน และผู้ประกอบการต่างทราบกันดี เพราะมีการประชุมร่วมกันมาตลอดกับการดำเนินการของอุทยานฯ ที่จะมีการแก้ปัญหาร่วมกันกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะเสม็ด และผู้ประกอบการ รวมถึง อบต.เพ ที่จะประสานกันเพื่อแก้ปัญหาบนเกาะเสม็ด
ด้าน น.ส.สริญทิพญ ทัพมงคลทรัพย์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้อ่านหัวข้อข่าวที่ลงในเพจดัง ก็เป็นหน้าที่ชาวเกาะเสม็ดที่ต้องออกมาปกป้อง เพื่อทำให้ความจริงปรากฏ เพราะข้อมูลที่ออกมาไม่ต้องกับความจริง จึงต้องการให้นักท่องเที่ยวเข้าใจว่าเกาะเสม็ดไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เป็นข่าว ซึ่งตรงกันข้ามปัญหาทุกปัญหาที่มีในข่าว ได้มีการแก้ไขปรับปรุงไปนานแล้ว จึงไม่ทราบถึงวัตถุประสงค์ของผู้ให้ข้อมูลกับนักข่าวที่นำเสนอออกไปต้องการอะไร จึงให้ข้อมูลที่ผิดไป เท่ากับเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของเกาะเสม็ดให้เกิดความเสียหาย อยากฝากให้นักท่องเที่ยวเข้าใจว่า เกาะเสม็ดไม่ได้มีสภาพปัญหารุมเร้าเหมือนกับข่าวที่เสนอออกไป เกาะเสม็ดในวันนี้ยังสวยงาม รอให้มาสัมผัสกับธรรมชาติหาดทรายขาวน้ำทะเลใส
...
ขณะที่ นายอยู่ เสนาธรรม ผอ.สำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจากการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงออกไป จนสร้างความเข้าใจผิด ซึ่งทุกเรื่องมีการดำเนินการแก้ไขไปแล้วตามที่ทางอุทยานฯ ได้ชี้แจงไป จึงต้องการให้เกิดความเข้าใจว่าเกาะเสม็ดไม่ได้เป็นตามนั้น ทุกปัญหามีการชี้แจงพร้อมกับการดำเนินการแก้ปัญหาจนแล้วเสร็จ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาเรือเร็วเสียงดัง การบริหารงบประมาณจากการเก็บเงินค่าผ่านเข้าอุทยานฯ และทุกปัญหาที่ถูกกล่าวถึงก็มีการแก้ปัญหาร่วมกับผู้ประกอบการ ชาวบ้าน และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันจึงไม่พบปัญหาตามที่เป็นข่าว เพราะเป็นการรับข้อมูลเก่ามานำเสนอ
ส่วนตัวแทนชาวบ้านและผู้ประกอบการ ต่างก็ประณามผู้ที่ให้ข้อมูลกับการนำเสนอดังกล่าว เพราะถือเป็นการทำลายการท่องเที่ยวบนเกาะเสม็ดให้เกิดการเข้าใจผิด และเสียหายต่อภาพลักษณ์ของเกาะเสม็ด เป็นการจงใจทำลายการท่องเที่ยวของเกาะเสม็ดให้พังพินาศ จึงต้องการให้มีการตรวจสอบข้อมูลให้ถ่องแท้ก่อนนำเสนอ ควรจะต้องสอบถามชาวบ้านผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ จึงจะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะเกาะเสม็ดไม่ได้เละอย่างที่ลงข่าว.