ดับสยองลานจอดรถ-เขาชีจรรย์ รวบ ‘สายันต์’ รับตีสนิทแอบชี้เป้า
ออกหมายจับ “เสี่ยอ้วน ภูเก็ต” ขาใหญ่ เจ้าของสถานบันเทิงในภูเก็ตกับลูกสมุนรวม 3 คนร่วมกันฆ่าโหด 2 หนุ่มสาวที่ลานจอดรถหน้าพระพุทธรูปเขาชีจรรย์ แต่รวบแล้ว 1 คนตั้งแต่วันแรก เป็นคนชี้เป้าและคอยรายงานความเคลื่อนไหวให้ “เสี่ยอ้วน” กับทีมสังหารคอยขับรถ ฮอนด้าซีอาร์วีตามตลอด กระทั่งสบจังหวะทั้งสองกำลังจะขึ้นรถเลยถูกยิงอย่างเหี้ยมโหด เผยชายหนุ่มที่ถูกยิงตายด้วยไม่ใช่คู่รัก มีนิสัยเป็นผู้หญิง แถมยังเป็นญาติกันด้วย คาดสาเหตุ “เสี่ยอ้วน” แค้นที่เหยื่อสาวไม่ยอมรับเป็นแฟน ทั้งๆที่เคยโอนเงินให้ซื้อรถถึง 1 ล้านบาท
กรณี น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปีกับนายอนันตชัย จริตรัมย์ อายุ 21 ปี เพื่อนชายถูกคนร้ายใช้ปืน 9 มม.กระหน่ำยิงเสียชีวิตอย่างอุกอาจข้างรถโตโยต้า อินโนวา สีขาว ทะเบียน ฎง 9641 กรุงเทพมหานคร ที่ลานจอดรถหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ หมู่ 6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เบื้องต้นทราบว่าทั้งสองเคยไปทำงานที่สถานบันเทิงในภูเก็ตแล้วย้ายมาทำงานที่ จ.นครปฐม กระทั่งชวนกันมาฉลองวันเกิด กับเพื่อนที่ จ.ชลบุรีจนถูกยิงเสียชีวิต ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 1 คน ที่ร่วมเดินทางมากับผู้ตายทั้งสองและทราบว่าเป็นคนชี้เป้าให้มือปืน ส่วนคนบงการเป็นขาใหญ่เจ้าของสถานบันเทิงที่ จ.ภูเก็ต ฉายา “อ้วน บางลา” ที่ น.ส.ปวีณา เคยทำงานและแอบชอบน.ส.ปวีณาแต่ฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วย ทั้งคู่เลยหนีกลับ จ.กาฬสินธุ์ ทำให้ “อ้วน บางลา” ไม่พอใจสั่งให้คนคอยติดตาม กระทั่งสบจังหวะถูกมือปืนตามมาปลิดชีพดังกล่าว
...
ต่อมาเวลา 15.00 น. วันที่ 31 ก.ค. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จ.ชลบุรีร่วมกันแถลงข่าวคดีนี้ที่ สภ.นาจอมเทียน โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า คดีนี้เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับผู้ต้องหา 3 คนคือ นายปัญญา ยิ่งดัง หรือฉายา “เสี่ยอ้วน ภูเก็ต” อายุ 39 ปี นายจิรศักดิ์ อุนัยบัน อายุ 34 ปี ลูกสมุนของเสี่ยอ้วนและนายสายันต์ ศรีสุข อายุ 43 ปี คนที่รายงานความเคลื่อนไหวและชี้เป้าเหยื่อ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยนายสายันต์ คนชี้เป้าถูกควบคุมไว้ตั้งแต่วันแรก ส่วนอีก 2 คนอยู่ระหว่างหลบหนี
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวอีกว่า สำหรับพฤติกรรมการสังหารโหดในครั้งนี้คาดมาจากเรื่องชู้สาวซึ่งนายปัญญานั้นชอบพอกับ น.ส.ปวีณา ต่อมาทราบว่า น.ส.ปวีณามีแฟนแล้วจึงวางแผนจัดทีมสังหารโดยให้นายสายันต์ที่มีนิสัยเป็นหญิงเข้ามาตีสนิทเป็นแฟนกับนายวราเทพ มาสูงเนิน อายุ 20 ปี เพื่อนสนิทของ น.ส.ปวีณากับนายอนันตชัย และร่วมเดินทางมาเที่ยวที่เมืองพัทยาด้วยกันทั้งหมด 4 คน ขณะเดียวกันนายสายันต์จะคอยรายงานความเคลื่อนไหวของผู้ตายทั้งคู่ให้กับเสี่ยอ้วนกับนายจิรศักดิ์และทีมสังหารทราบและขับรถตามเหยื่อตลอดเวลา กระทั่งเหยื่อเดินทางไปไหว้พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ จังหวะเดินจะขึ้นรถมือปืน ตามไปกระหน่ำยิง 7 นัดจนทั้ง 2 คนเสียชีวิตก่อนขับรถฮอนด้าซีอาร์วี สีขาว ป้ายแดงหลบหนีไป
“ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังตามล่าตัวนายปัญญาหรือเสี่ยอ้วนกับนายจิรศักดิ์ตามหมายจับ ส่วนนายวราเทพ เพื่อนสนิทของผู้ตายนั้นเจ้าหน้าที่สอบสวนในเชิงลึกอีกครั้งว่าเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นด้วยหรือไม่ ในวันที่ 1 ส.ค. จะนำตัวนายสายันต์ไปทำแผนประกอบ คำรับสารภาพตามสถานที่ต่างๆ ล่าสุดได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ภูเก็ตเพื่อตรวจสอบธุรกิจของเสี่ยอ้วนว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือธุรกิจเถื่อนหรือไม่” รอง ผบ.ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเสี่ยอ้วน เดิมเป็นคน จ.สุรินทร์ ไปรับจ้างทำงานกลางคืนอยู่ในพัทยา จ.ชลบุรี ภายหลังปี 2541 ได้ย้ายไปทำงานเป็นเด็กนวดในห้องน้ำสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่ ต.ป่าตอง จ.ภูเก็ตมีรายได้เดือนละประมาณ 30,000 บาท เสี่ยอ้วนเป็นคนประหยัดเก็บหอมรอมริบจนมีเงินก้อนหนึ่ง กระทั่งเข้าประมูลรับนวดแขกนักเที่ยวตามสถานบันเทิงหลายแห่งในป่าตองจนมีลูกน้องจำนวนมาก เมื่อได้เงินมาก็นำไปซื้อตึก อาคารพาณิชย์ ในพื้นที่ป่าตองเพื่อเก็งกำไร ภายหลังขายได้เงินจนมีฐานะร่ำรวยเปลี่ยนจากคนประมูลนวดในห้องน้ำผันตัวเองเป็นเจ้าของสถานบันเทิงในซอยตัน ต.ป่าตอง
ภายหลังได้ขายธุรกิจบันเทิงให้นักลงทุนต่างชาติ แล้วเสี่ยอ้วนหันทำธุรกิจบาร์เบียร์ในซอยบางลา ต.ป่าตอง มีลูกน้องจำนวนมาก มีฐานะร่ำรวยซื้อบ้านในหมู่บ้านเบญจมาศ ต.ป่าตองพร้อมเปิดสถานบันเทิงในซอยอี่ซี่ หรือซอยปุ้มปุ้ยอย่างใหญ่โต แต่เสี่ยอ้วนเป็นคนอาภัพความรัก หากรักผู้หญิงสักคนจะทุ่มเทเงินทองให้หมดเพื่อซื้อใจผู้หญิง แต่มักจะถูกตัดสัมพันธ์เพราะเสี่ยอ้วนเป็นคนเสพติดความรุนแรงมักจะทำร้ายแฟนสาวอย่างต่อเนื่องจนทำให้ผู้หญิงทนไม่ไหวเลยต้องตีตัวออกห่าง
...
พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต กล่าวว่า “ในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดและ สภ.ป่าตอง ลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านพักของเสี่ยอ้วนที่ถนนพระเมตตาและหมู่บ้านเบญจมาศทั้ง 2 หลัง เบื้องต้นพบว่าบ้านปิดทั้ง 2 หลังแต่ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเฝ้าเกาะติดที่บ้านของเสี่ยอ้วนทั้ง 2 หลัง หากพบว่ามีใครเข้าออกหรือพบเสี่ยอ้วนจะดำเนินการตามกฎหมายทันที เท่าที่ทราบเสี่ยอ้วนเป็นคนชอบปืน ก่อนหน้านี้มีคดียิงคนตายมาแล้วแต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง โดยเสี่ยอ้วนอ้างว่าผู้ตายจะมาชิงทรัพย์” พล.ต.ต.ธีระพลกล่าว
ที่ จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิจากจังหวัดชลบุรีได้นำศพของ น.ส.ปวีณา หรือปลาย นาเมืองรักษ์กับนายอนันตชัยหรือฟอส จริตรัมย์ ไปถึงบ้านเกิดเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 30 ก.ค. เมื่อไปถึงญาติได้แยกศพ น.ส.ปวีณา ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 1 บ้านนาตาล ต.นาตาล อ.ท่าคันโท ส่วนศพนายอนันตชัย นำไปตั้งที่บ้านเลขที่ 63 บ้านนาตาล หมู่ 12 ต.นาตาล ตั้งแต่เช้าชาวบ้านมาร่วมแสดงความเสียใจจำนวนมาก ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติ
นางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ อายุ 41 ปี แม่ของ น.ส.ปวีณากล่าวว่า น้องปลายกับฟอสเป็นเพื่อน ที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก น้องปลายเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีได้ประมาณ 1 เทอมแล้วลาออกเพราะต้องการหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัวด้วยการไปทำงานตามสถานบันเทิงโดยเฉพาะที่ จ.ภูเก็ต ไปทำงานตั้งแต่ต้นปี 2559 เพราะพี่สาวที่รู้จักกันในหมู่บ้านชวน และที่ผ่านมาน้องปลายส่งเงินกลับบ้านเดือนละ 2-3 หมื่นบาท น้องปลายเคยบอกว่าเสี่ยอ้วนมาติดพันและอยากได้น้องปลายเป็นเมียแต่ตนไม่ยอม หากต้องการไปเป็นเมียจริงต้องมาสู่ขอแต่น้องปลายไม่ชอบเพราะเสี่ยอ้วนเป็นคนอารมณ์รุนแรงและมีอิทธิพลในจังหวัดภูเก็ต
...
“ช่วงปลายปี 2559 น้องปลายโทร.มาเล่าให้ฟังตลอดว่าทุกครั้งที่เสี่ยอ้วนเห็นลูกสาวไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนจะเดินเข้าไปฉุดกระชาก บางครั้งเดินเข้าไปบีบคอ ทำร้ายร่างกาย กระทั่งปลายปี 2560 น้องปลายกับฟอสหนีไปทำงานที่ จ.นครปฐม แต่เสี่ยอ้วนยังออกตามหา ช่วงต้นปี 2561 น้องปลายอยากซื้อรถ พอเสี่ยอ้วนทราบบอกว่าจะโอนเงินให้ซื้อรถ 1 ล้านบาท และได้ปฏิเสธไป แต่ภายหลังพบมีเงินเข้ามาในบัญชี 1 ล้านบาทซึ่งเสี่ยอ้วนโทร.มาบอกว่าให้พ่อกับแม่นำไปซื้อรถ”
นางวันเพ็ญกล่าวอีกว่า ตนและน้องปลายไม่เคยคิดที่จะไปปอกลอกเลยแต่เสี่ยอ้วนให้เงินมาเหมือนกับเป็นการจะใช้เงินซื้อลูกสาวแต่น้องปลายไม่ชอบเพราะเสี่ยอ้วนเป็นผู้มีอิทธิพลจึงพยายามออกห่างแต่กลับต้องมาเจอเหตุเช่นนี้ ขอให้ตำรวจตามจับคนร้ายมาให้ได้และให้เสี่ยอ้วนชดใช้กรรม “หากฆ่าคนไม่ผิดกฎหมายฉันก็อยากจะฆ่ามันให้ตายเหมือนกัน สิ่งที่ห่วงขณะนี้คือความยุติธรรมเพราะเสี่ยอ้วนเคยโทร.มาขู่ว่าเป็นผู้มีอิทธิพล เงินสามารถซื้อได้ทุกอย่างและเคยซื้อตำรวจมาแล้วเพราะก่อนหน้าเคยยิงคนตายก็ไม่ติดคุก” นางวันเพ็ญกล่าว
ส่วนนางจอมศรี ชมพูพื้น อายุ 43 ปี แม่ของ นายอนันตชัยหรือฟอส กล่าวว่า พอทราบลูกชายถูกยิงตายกับน้องปลาย รู้สึกเสียใจมากและไม่เข้าใจว่ายิงลูกชายทำไมเพราะทั้งฟอสและปลายไม่ใช่คู่รักกันเป็นเพื่อนสนิทเป็นญาติด้วยซ้ำไปเพราะพ่อของตนกับพ่อของน้องปลายเป็นพี่น้องกัน ทั้งคู่เติบโตมาด้วยกัน อีกทั้งลูกชายมีนิสัยเป็นผู้หญิงและชอบแต่งหญิงไปรับจ้างรำหาเงินช่วยครอบครัวประจำ ก่อนจะเกิดเรื่องร้าย 2 วัน ยายของน้องฟอสฝันเห็นทั้งสองเดินมามีเลือดท่วมตัว ส่วนตนฝันว่ามีคนมาขอลูกชายไปอยู่ด้วย แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องร้ายของทั้งสอง
...
สำหรับ น.ส.ปวีณาชื่อเล่นว่าปลายแต่เพื่อนๆที่เรียนด้วยกันมักเรียกชื่อกันว่าสปายหรือปาย เป็นหญิงสาวที่หน้าตาดีเคยเข้าประกวดนางงามท่าคันโท และเดินสายไปประกวดตามเวทีต่างๆ แต่เนื่องจากเป็นคนตัวเล็กจึงไม่ชนะการประกวด ส่วนนายอนันตชัยหรือฟอสเป็นเด็กที่โตขึ้นมาด้วยนิสัยร่าเริงแต่มีจิตใจเป็นหญิงในหมู่บ้านจะเรียกกันว่า “สาวฟอส” สำหรับศพนายอนันตชัยหรือฟอสจะฌาปนกิจในวันที่ 1 ส.ค. ส่วนศพ น.ส.ปวีณา หรือสปาย นาเมืองรักษ์ จะฌาปนกิจในวันที่ 2 ส.ค.นี้ ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ตำรวจจัดกำลังเข้าดูแลความปลอดภัยให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายด้วย