สลด! 2 เด็กสาวระยอง แอบผู้ปกครองไปเล่นน้ำในฝายกักน้ำประจำหมู่บ้าน ก่อนถูกกระแสน้ำซัดจมหายต่อหน้าเพื่อน กู้ภัยลงค้นหาพบลอยไปติดกอไม้-แอ่งน้ำวน 

เวลา 14.00 น. วันที่ 3 ต.ค. ร.ต.อ.สมบัติ สาระลึก ร้อยเวร สภ.แกลง ระยอง ได้รับแจ้งมีเหตุเด็กจมน้ำหายไปบริเวณฝายเก็บน้ำคลองป่าไม้ ม.2 ต.กระแสบน อ.แกลง ระยอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานนักประดาน้ำกู้ภัยพุทธศาสตร์สงเคราะห์และแพทย์เวร รพ.แกลง เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังทยอยกันเข้าไปในฝาย ซึ่งเป็นฝายน้ำกักเก็บน้ำประจำหมู่บ้าน ที่มีน้ำไหลเชี่ยว พบ น.ส.สุภัตรา (สงวนนามสกุล) อายุ 15 ปี ยืนโศกเศร้าอยู่ริมฝั่ง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและเพื่อนอีก 2 คนที่จมน้ำหายไป คือ น.ส.วิภาดา ทองมาก อายุ 17 ปี และ ด.ญ.สุพรรษา จำปาแก้ว อายุ 14 ปี ได้บอกผู้ปกครองว่าจะไปโรงเรียน ก่อนแอบมาเล่นน้ำ แต่ตนไม่ได้ลงไปเล่น เพราะมีประจำเดือน

น.ส.สุภัตรา เล่าต่อว่า ขณะที่ทั้งสองคนลงไปเล่นพบว่าน้ำไหลเชี่ยว จึงพยายามตะเกียกตะกายขึ้นฝั่ง แต่ก็ต้านทานความแรงของน้ำไม่ไหว ถูกกระแสน้ำพัดหายไปต่อหน้า พยายามวิ่งไปช่วยแต่ก็ไม่ทัน เมื่อตั้งสติได้จึงรีบไปตามคนในหมู่บ้านมาช่วย ทางชาวบ้านจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเพื่อมาช่วยค้นหาทันที

หลังจากที่ทางนักประดาน้ำทราบจุดที่ทั้งคู่สูญหายไป ก็เริ่มลงค้นหา โดยต้องใช้เชือกขึงเพื่อประคองตัว เพราะน้ำไหลเชี่ยวมาก หลังค้นหาไปประมาณ 30 นาที ก็พบร่างของผู้สูญหายห่างจากตัวฝายประมาณ 100 เมตร ลอยไปติดกอไม้ จึงช่วยนำร่างขึ้นมา เป็นศพของ ด.ญ.สุพรรษา จำปาแก้ว อายุ 14 ปี เมื่อแม่ของ ด.ญ.สุพรรษา มาเห็นศพลูก ก็ร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ

...

ต่อมาทางนักประดาน้ำและหน่วยกู้ภัยฯ ก็ระดมกันค้นหาอีกรอบบริเวณรอบฝาย แต่ยังไม่พบร่าง น.ส.วิภาดา ก่อนที่พ่อของ น.ส.วิภาดา จะจุดธูปขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยให้หาศพบุตรสาวเจอ เป็นจังหวะที่นักประดาน้ำได้ลงค้นหาแบบปูพรมจากจุดที่หายไปประมาณ 500 เมตร ก็พบศพ น.ส.วิภาดา ไปติดอยู่ในแอ่งน้ำวน จึงได้ช่วยกันนำร่างขึ้นมาได้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงนำศพทั้งสองส่งพิสูจน์ต่อที่ รพ.แกลง จ.ระยอง ต่อไป

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ทั้งสองคงจะไม่สามารถต้านกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวได้ จึงถูกน้ำซัดหายไปตามกระแสน้ำจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งทางผู้ปกครองของผู้เสียชีวิตทั้งสองรายก็ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอผลการพิสูจน์อย่างละเอียดจากแพทย์อีกครั้ง.