5ปีก่อนโดนตรวจเจอ225ไร่ รอคดีเงียบลุยล้ำไม่แยแส! ทำรีสอร์ตแนวแอดเวนเจอร์

กองปราบฯ ร่วมเจ้าหน้าที่อุทยานฯเขาใหญ่ ฝ่ายปกครอง จ.ปราจีนบุรี ลุยตรวจสอบรีสอร์ตและสวนน้ำ พร้อมเครื่องเล่นต่างๆ แบบแอดเวนเจอร์ครบวงจรของนายทุนนิรนาม หลังสร้างรุกพื้นที่เขาใหญ่ ฝั่ง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เผยเสร็จไปแล้วกว่า 60% นอกจากนี้ ยังพบฝายทดน้ำที่ไหลจากอุทยานฯ ที่สร้างขึ้นเปลี่ยนเส้นทางน้ำให้ไหลเข้าพื้นที่ แฉอิทธิพลนายทุนคับป่า เมื่อปี 55 ดีเอสไอเคยตรวจพื้นที่ดังกล่าว 225 ไร่ พบความผิดรุกล้ำพื้นที่ แต่ข่าวเงียบหาย จนปัจจุบันตรวจพบยังลุยก่อสร้างไม่หยุด แถมรุกล้ำกินพื้นที่เขาใหญ่อีก 68 ไร่ เลยต้องประสานกองปราบฯ เข้าร่วมทวงคืนพื้นที่ป่า

หน.อุทยานฯเขาใหญ่ประสานกองปราบฯ ลุยค้นรีสอร์ตนายทุนปราจีนฯ สร้างรุกล้ำเขาใหญ่ โดยเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 ส.ค. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส พ.ต.ต.เอกพล ปัจจมานนท์ สว.กก.2.บก.ป. ประสานงานกับ นายทิวา วัชรกาฬ รอง ผวจ.ปราจีนบุรี นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผอ.ส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม นายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ์ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ (สนอ.ที่ 1 ปราจีนบุรี) นายชาติชาย ศรีแผ้ว หน.สปป.ที่ 1 ภาคกลาง กรมอุทยาน พ.อ.วินัย บุตรรักษ์ รอง ผอ.กอ.รมน. พร้อมกำลังตำรวจและทหาร กว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่การก่อสร้างรีสอร์ต และสวนน้ำ บุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ฝั่ง ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี จำนวนหลายร้อยไร่

จากการตรวจสอบพบว่า ภายในพื้นที่ดังกล่าวได้ก่อสร้างเป็นรีสอร์ต ที่พัก และสวนน้ำ พร้อมเครื่องเล่นต่างๆ แบบแอดเวนเจอร์ครบวงจร ดำเนินการไปแล้วกว่า 60% นอกจากนี้ จากการสำรวจลึกเข้าไปในพื้นที่ติดเชิงเขาใหญ่ ยังพบการสร้างฝายทดน้ำที่ไหลลงมาจากพื้นที่อุทยานฯ เป็นการเปลี่ยนแปลงการไหลของน้ำให้เข้ามายังพื้นที่ และเป็นการสร้างรุกล้ำเข้าไปในเขตพื้นที่อุทยานฯ ด้วย

...

พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. เปิดเผยว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลทั้งหมด นำกลับไปประกอบสำนวนส่งไปยัง พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์–พ่วง ผบก.ป. พิจารณาก่อนส่งเรื่องต่อไปยังกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของที่ต่อไป โดยจะเรียกสอบปากคำผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายก อบต. และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อสืบสวนขยายผลว่า มีใครที่ร่วมกระทำความผิดหรือเป็นพวกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่การก่อสร้างรุกพื้นที่ป่านานขนาดนี้จะไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็น

ด้านนายทิวา วัชรกาฬ รอง ผวจ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 54 เป็นต้นมา การสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในพื้นที่จะต้องแจ้งกับองค์การบริหารส่วนตำบลก่อนการปลูกสร้าง พื้นที่ดังกล่าวพบข้อมูลว่ามีการก่อสร้างมานานนับ 10 ปี จะต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบรายละเอียดว่าสิ่งปลูกสร้างใดก่อสร้างก่อนและหลังปี 54 และมีส่วนใดรุกล้ำเข้าไปในเขตอุทยานฯบ้าง อีกทั้งหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง จะหาผู้ที่ครอบครองที่ดังกล่าวมาดำเนินคดีตามในมาตรา 22 ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504

ขณะที่นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวรุกล้ำอุทยานเขาใหญ่ตั้งแต่ปี 50 จนกระทั่งปี 55 ดีเอสไอได้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ดินบริเวณดังกล่าว 22 แปลง รวม 225 ไร่ พบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ แต่ปัจจุบันคดียังไม่มีความคืบหน้าก่อนเรื่องจะเงียบหายไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ สปป.ที่ 1 ภาคกลาง ได้ตรวจข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศ พบว่ายังคงมีการสร้างสิ่งปลูกสร้าง รุกล้ำในเขตอุทยานฯเพิ่มเติมมากขึ้นอีก ได้รวบรวมข้อมูลก่อนที่จะเข้าตรวจสอบดังกล่าวอีกครั้ง โดยตรวจวัดพื้นที่ด้วยการจับค่าพิกัด 4 จุด พบว่าพื้นที่บุกรุกดังกล่าว ติดต่อกับแปลงที่ดินโฉนดเลขที่ 34082 ระวาง 5337 lll 7668-1 ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี

หัวหน้าอุทยานฯเขาใหญ่ กล่าวต่อว่า ภายในพื้นที่ก่อสร้างเป็นรีสอร์ต ที่พัก และสวนน้ำ พร้อมเครื่องเล่นต่างๆ แบบแอดเวนเจอร์ครบวงจร เมื่อสำรวจลึกเข้าไปในพื้นที่ติดเชิงอุทยานฯเขาใหญ่ ยังพบมีการสร้างฝายทดน้ำที่ไหลลงมาจากพื้นที่อุทยานฯ เขาใหญ่ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงการไหลของน้ำให้เข้ามายังพื้นที่ และเป็นการสร้างรุกล้ำเข้าไปในเขตพื้นที่อุทยานฯเขาใหญ่ อีก 2 งาน 38 ตารางวา บริเวณป่าบ้านเนินเป้า หมู่ที่ 9 ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี และยังพบว่า มีการรุกล้ำพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นจากเดิมรวมทั้งสิ้น 7 แปลง รวมจำนวน 68 ไร่ 1 งาน 64 ตารางวา อีกด้วย จึงให้พนักงานสอบสวน สภ.ประจันตคาม ดำเนินคดีในมาตรา 22 ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ข้อหาเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่อุทยานแห่งชาติผิดไปจากสภาพเดิม ทั้งนี้ มอบหมายให้นายอิสรินทร์ โสธรจิตต์ นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ เป็นผู้กล่าวโทษ แก่พนักงานสืบสวนสอบสวน สภ.ประจันตคาม ติดตามหาผู้กระทำความผิดต่อไป