อบต.เกาะช้างใต้ สั่งระงับการก่อสร้าง ค่ายมือถือยักษ์ลักไก่ ตั้งเสาส่งสัญญาณ ในพื้นที่ตั้งศาลยุทธนาวีเกาะช้าง หลังชาวบ้านรวมตัวกันโวย...
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 7 ส.ค.60 นายจักรกฤษณ์ สลักเพชร นายก อบต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางอบต.ได้รับการร้องเรียนจากผู้นำชุมชนและชาวบ้านเจ็กแบ้ หมู่ 3 ต.เกาะช้างใต้ว่า ได้มีผู้รับเหมาใช้เครื่องจักรทำการขุดหลุมขนาดใหญ่ เพื่อจะทำการก่อสร้างและติดตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือของบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในบริเวณติดกับที่ตั้ง ศาลยุทธนาวีเกาะช้าง หาดยุทธนาวี หมู่ 3 ต.เกาะช้างใต้ ซึ่งชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างขึ้น เพื่อกราบไหว้สักการบูชา ทำพิธีบวงสรวงทุกๆ วันที่ 17 ม.ค.ของทุกปี ขณะเดียวกันชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยที่จะมีการตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือในพื้นที่บริเวณดังกล่าว
นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ตนเองพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของอบต.จำนวนหนึ่งได้ลงพื้นที่นำหนังสือเป็นคำสั่งของอบต.เกาะช้างใต้ เลขที่ 1/2560 ให้ระงับการก่อสร้าง ตามมาตรา 40 วรรคหนึ่ง หรือให้ระงับการรื้อถอนอาคารตามมาตรา 41 วรรคหนึ่งตามที่ปรากฏจะทำการก่อสร้างเสาส่งสัญญาณสื่อสารขนาดสูง 47 เมตร (กรณีที่กระทำโดยไม่ได้รับใบอนุญาต) ไปติดประกาศไว้บริเวณต้นไม้ใกล้ๆ กับที่มีการขุดหลุม พร้อมกันนี้ก็ได้มีการติดประกาศหนังสืออีก 1 ฉบับ เป็นคำสั่งให้ทางบริษัทดังกล่าวได้ยื่นคำขอใบอนุญาตก่อสร้างต่อทางท้องถิ่นและได้ส่งหนังสือประกาศทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว ลงทะเบียนทางไปรษณีย์ไปยังสำนักงานใหญ่ให้ทราบอีกทางหนึ่งด้วย สำหรับพื้นที่บริเวณดังกล่าวทางอบต.เกาะช้างใต้ ได้มีการนัดกับทางเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน จ.ตราด เพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ในวันที่ 15 ส.ค.60 แต่ก็มาเกิดปัญหาเสียก่อน
...
นายจักรกฤษณ์ กล่าวขณะที่ทางด้าน นายมนู อนันทกร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.เกาะช้างใต้ ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ พร้อมกับได้กล่าวว่าที่ผู้นำชุมชนและชาวบ้านไม่เห็นด้วย เนื่องจากสถานที่บริเวณดังกล่าวมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ในช่วงปี 2552 ชาวเกาะช้างเคยรวมตัวกันต่อต้านและร้องเรียนนายทุนรายหนึ่งที่ได้พยายามยื่นออกเอกสารสิทธิทับที่ดินบริเวณที่ตั้งศาลยุทธนาวีมาตั้งแต่ในอดีต เพื่อหวังจะครอบครอง สุดท้ายในปี 2553 ทางกรมที่ดินก็ได้พิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิราว 8 ไร่เศษ และก็เป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ในปัจจุบันกำลังพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อน และถ้าหากทางบริษัทดังกล่าว ยังไม่หยุดดำเนินการ ก็อาจจะต้องมีการทำหนังสือร้องเรียนไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป.