รวบยกแก๊งควงระเบิดปลอมดูมาจากคลิปยูทูบ ชิงเงินแบงก์ธนชาต พ่อเพิ่งออกจากคุกชวนลูกชายมีประวัติก่อเหตุ ให้เพื่อนอีกคนขับรถพาหลบหนี เสร็จงานแบ่งเงินกันคนละแสนบาท ตร.ตามจับได้เหลือเงินเพียง 2 พันกว่าบาท...
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิตรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี แถลงข่าวจับกุมตัวนายสมเกียรติ หรือบี อุดมปีติสุขกุล อายุ 37 ปี นายวันชัย หรือชัย ขุนศรี อายุ 37 ปี และเยาวชนชายวัย 17 ปี ลูกชายนายสมเกียรติ พร้อมของกลางระเบิดปลอมใช้สายไฟผูกติดกับโทรศัพท์ 1 ชุด อาวุธปืนปลอมแบบลูกโม่สีขาว 1 กระบอก รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์ สีเทาดำ ทะเบียน กต 9172 ปทุมธานี เงินสด 2,880 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง 1 เส้น โทรศัพท์มือถือ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้อื่นโดยมีหรือใช้อาวุธหรือวัตถุระเบิดโดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 เม.ย. เวลา 14.00 น. คนร้ายใช้ระเบิดขู่บังคับพนักงานธนาคารธนชาต สาขาเซ็นเตอร์พ้อยท์ ติดกับห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้เงินสดไปจำนวน 301,660 บาท ก่อนวิ่งหลบหนีไป โดยภาพกล้องวงจรปิดพบมีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์ สีเทาดำ ทะเบียน กต 9172 ปทุมธานี จอดรอรับที่หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กคิง ฝั่งตรงข้ามกับธนาคาร ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปบางบัวทอง ขาออก สอบสวนปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในธนาคารและตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี กล้องสามารถบันทึกภาพของคนร้ายและรถยนต์ที่ใช้หลบหนีได้ จึงได้นำทะเบียนรถที่คนร้ายใช้หลบหนีไปตรวจสอบ พบว่านายวันชัย 1 ในผู้ต้องหาเป็นเจ้าของรถ จึงขออนุมัติหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าทำการจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่บ้านพักใน ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี พร้อมรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.บางใหญ่
...
จากการสอบสวนนายวันชัยให้การว่า คนที่ลงมือก่อเหตุคือนายสมเกียรติและลูกชาย ส่วนตนมีหน้าที่ขับรถพาทั้ง 2 คนหลบหนีหลังก่อเหตุ โดยได้ส่วนแบ่ง 1 แสนบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 29 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสืบทราบว่านายสมเกียรติและลูกชาย ได้หลบหนีไปเช่าห้องพักอยู่ในซอยสายไหม 50 แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม. จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัว ซึ่งทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพ โดยนายสมเกียรติให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้วางแผนปล้นธนาคารในครั้งนี้ ได้ชักชวนนายวันชัยให้เป็นคนขับรถ และให้ไปซื้อระเบิดปลอมกับปืนปลอมมาจากตลาดคลองถม นำมาให้นายสมเกียรติและลูกชายใช้ก่อเหตุ
นายสมเกียรติยังสารภาพว่า ที่ต้องใช้ระเบิดเพราะเจ้าหน้าที่ธนาคารจะกลัวไม่กล้าขัดขืน โดยดูมาจากคลิปในยูทูบ ซึ่งหลังก่อเหตุได้แบ่งเงินกันคนละ 1 แสนบาท ก่อนแยกย้ายกันหลบหนีจนมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุครั้งนี้เนื่องจากนำเงินของแม่มาใช้จำนวนหลายแสน แล้วต้องหามาคืนให้กับแม่ จึงตัดสินใจก่อเหตุครั้งนี้ และที่ลงมือก่อเหตุที่ธนาคารธนชาต เพราะเห็นว่าไม่มี รปภ.อยู่
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายสมเกียรติ หรือบี อุดมปิติสุขกุล มีประวัติเคยก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง ข้อหาชิงทรัพย์และลักทรัพย์ จำคุกอยู่เรือนจำจังหวัดปทุมธานี ปล่อยตัวออกมาเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2559 ส่วนลูกชาย มีประวัติถูกจับกุมในข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติด สน.ดอนเมือง ปี 2557 และนายวันชัยเคยถูกจับกุมตัวในคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ พื้นที่ สภ.ปากคลองรังสิต ปี 2553 ถูกปล่อยตัวเมื่อปี 2558.