ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญากับเจ้าของเพจดราม่าแอดดิท (Drama Addict) ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
วันที่ 26 ม.ค.2560 พ.ต.ต.จรัญ แสงสงวน สว.(สอบสวน) สภ.พระประแดง ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จาก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมกับนำเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของเพจดราม่าแอดดิท (Drama Addict) ในข้อหาหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณาและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่ละเมิดตามสิทธิ์ของตนเอง ด้วยข้อความในเพจดราม่าแอดดิท (Drama Addict) ดังกล่าว เป็นเท็จ เมื่อคนที่เข้าไปอ่านแล้วเข้าใจผิด คิดว่า ตนเป็นคนไม่ดีเข้าไปร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทุจริต เงินจำนวน 11 ล้าน วันนี้จึงออกมาเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเอง แล้วก็ดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว ซึ่งมีผู้ร่วมกันกระทำผิดทั้งหมด 2 ราย ซึ่งในเนื้อหาของเพจ คือ เขาไม่รู้ข้อเท็จจริงในคดี ว่า มันเป็นคดีต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบันนี้ มันมีการดำเนินคดีกับบุคคลที่หลอกลวงประชาชนต่อเนื่องมาถึงวันนี้ ศาลมีคำพิพากษาจำคุกมาแล้ว 2 คน คนละ 20 ปี และให้ชดใช้เงินให้กับผู้เสียหายทั้ง 8 ราย
ต่อมาผู้เสียหาย 3 ราย ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาทั้งสอง จึงพบว่า มีการโอนเงินจำนวน 50 กว่าล้านบาท ไปเข้าบัญชีของโจทก์ในคดีตามเอกสาร 1-3 ซึ่งต่อมา ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีอาญากับโจทก์ในคดีนี้ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้มีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ของโจทก์รายนี้
โดยที่โจทก์รายนี้ ไม่สามารถชี้แจงที่มาที่ไปของทรัพย์สิน ที่ได้จากการรับโอนเงินจากผู้ต้องหาทั้งสองได้ และ ปปง. ยังได้มีคำสั่งคุ้มครองสิทธิให้กับผู้เสียหาย จำนวน 3 ราย คือ นายณัฐพสิษฐ์ นางสาววิภาณี และนางสาวธนสร ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่แจ้งความดำเนินคดีที่กองปราบปรามคดีใหม่ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีเก่า ที่ศาลสั่งจำคุกผู้ต้องหาทั้งสอง แล้วต่อมา มีการหารือตามระเบียบของตำรวจกองปราบปราม กับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทุกขั้นตอน โดย ปปง. ยังใช้กฎหมายเก่า ที่สามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้เลย ตามคำสั่งของ ปปง. (ถ้าเป็นกฎหมายใหม่ ที่ ปปง.ประกาศใช้ มีผลเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2558 จะต้องส่งทรัพย์สินที่ยึดอายัดให้อัยการส่งให้ศาลเป็นผู้พิจารณา) หลังจากที่ ปปง.ยืนยันยอดแล้ว จำนวนตามภาพเช็ค ปปง.ก็ยังเป็นคนเพิกถอนอายัดบัญชีของโจทก์รายนี้ ไปยังธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ ทางตำรวจหรือผู้เสียหายในคดีนี้ ไม่สามารถทำได้เอง หาก ปปง.ไม่มีคำสั่งให้คุ้มครองและเพิกถอนเงินอายัด
...
ที่สำคัญ หลังจากที่ ปปง.เพิกถอนอายัดแล้ว เช็คที่สั่งจ่าย ก็เป็นเช็คที่จ่ายให้ผู้เสียหายโดยตรง ตามขั้นตอนของกฎหมาย และได้มีการลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานด้วย
ต่อมา ผู้เสียหายทั้ง 3 ได้ไปร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่าพบความผิดปกติในคดีนี้ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สมัยท่านสุวณา สุวรรณจูฑะ เป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยผ่านการตรวจสอบของรองปลัดกระทรวงยุติธรรม โดย พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เป็นผู้เสนอให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษ และทางดีเอสไอ ได้เรียกสำนวนคดีของกองปราบ มารวมไว้เป็นคดีพิเศษในคราวเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิดกับผู้ต้องหาขบวนการนี้
ขณะเดียวกันโจทก์รายนี้ ได้ให้ทนายความไปฟ้องต่อศาลอาญารัชดา ต่อจำเลยทั้ง 7 ราย ซึ่งศาลชั้นต้น ได้มีคำพิพากษายกฟ้อง ไม่รับไต่สวน ด้วยเหตุผลตามคำพิพากษา ซึ่งทนายความของโจทก์ ได้อุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นรับไต่สวน และได้โอนคดีไปให้ศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งได้รับไต่สวน จึงมีคำพิพากษาออกมาว่า ตามที่โจทก์ได้ฟ้องกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ม.157 ในส่วนที่มีการคืนเงินโดยมิชอบ ศาลพิจารณาแล้ว เห็นว่าเป็นการคืนเงินโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่ผิดตามที่โจทก์ฟ้อง โจทก์ฟ้องผู้เสียหายแจ้งความเท็จ ศาลก็มีคำพิพากษาว่า ผู้เสียหายไม่ได้ผิดตามที่โจทก์ฟ้อง มีประเด็นเดียว ที่ศาลติดใจสงสัย คือการจ่ายเงินเกินที่ ปปง.เป็นคนยืนยันยอด ที่ต้องจ่ายให้กับผู้เสียหาย ว่าตำรวจกองปราบปราม รู้ก่อนล่วงหน้าหรือไม่ และทางชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมไปรู้ก่อนล่วงหน้าหรือไม่ ที่สำคัญ ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย สูญเสียรวมกันทั้งหมด 37 ล้านบาท
ทั้งหมดนี้คือข้อเท็จจริง ที่อยู่ในสำนวนคำฟ้อง และคำพิพากษาของศาล ดังนั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างขั้นตอนเริ่มต้นของการสืบพยานที่จะแก้ต่าง ซึ่งเพจดังกล่าวมีการนำข้อความบางข้อความไปลงทำให้ตนเองเสียหายจึงเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเองและทำความจริงให้ปรากฏต่อสังคม
ด้าน พ.ต.ต.จรัญ แสงสงวน สว.(สอบสวน) สภ.พระประแดง หลังรับแจ้งความได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานและจะได้รวบรวมหลักฐานและจะติดต่อเจ้าของเพจดราม่าแอดดิท (Drama Addict) มาสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป