เผยการบูรณะวัด มีปัญหาผิดเพี้ยน
เตรียมย้ายเรือนจำพ้นเขตมรดกโลกพระนครศรีอยุธยา แฉพื้นที่แออัด สร้างกันไม่หยุด ยูเนสโกชี้ 16 วัดดัง“พระศรีสรรเพชญ์-มหาธาตุ-ราชบูรณะ-พระราม-ป่าสัก” บูรณะผิดเพี้ยนต้องแก้ไข ส่ง “พระธาตุพนม” ขึ้นมรดกโลกเผยมีคุณค่าทั้งเป็นต้นแบบที่มีวัดต่างๆ นำไปสร้างจำนวนมาก
การย้ายเรือนจำของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาพ้นเขตมรดกโลก เปิดเผยหลังจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม มีการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกและองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 23 พ.ย. โดยมีวาระสำคัญคือ การรายงานสถานภาพการอนุรักษ์นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและการนำเสนอพระธาตุพนมเพื่อขอบรรจุในบัญชีรายชื่อเบื้องต้นของศูนย์มรดกโลก ใช้เวลาประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง
จากนั้น พล.อ.ประวิตร พร้อมนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ ว่า ที่ประชุม ได้หารือกันถึงข้อกังวลและห่วงใยของคณะกรรมการมรดกโลกและยูเนสโก 5 ข้อ ซึ่งรัฐบาลได้รับมาแก้ไข ประเด็นที่ 1.ให้ประเทศไทยจัดอบรมด้านการอนุรักษ์โบราณสถาน เพราะหลังเกิดน้ำท่วมปี 2554 โบราณสถานได้รับความเสียหายมาก ต้องได้รับการบูรณะแก้ไขอย่างเร่งด่วน 2.อยากให้มีการทำแผนแม่บทการจัดการบริหารอนุรักษ์ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น เพราะแผนเดิมที่ทำอยู่ทำมา 20 ปีแล้ว ไม่มีความทันสมัย โดยจะมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติเข้าร่วม
นายวีระกล่าวอีกว่า 3.ให้ประเทศไทยเชิญผู้เชี่ยวชาญมาจัดการบริหารโบราณสถาน ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา 4.ให้มีการควบคุมสิ่งก่อสร้าง เพราะปัจจุบัน จ.พระนครศรีอยุธยา มีการก่อสร้างอยู่ตลอดเวลา ทั้งในพื้นที่ใกล้เคียงโบราณสถานและในหลายพื้นที่เป็นไปอย่างหนาแน่น ดูแล้วไม่สบายตา เดิมมีการกำหนดการขออนุญาตการสร้างตึกจากคณะกรรมการฯ ซึ่งตึกจะต้องสูงไม่เกิน 8 -15 เมตร แบ่งเป็นโซน รูปแบบหลังคาต้องเป็นจั่ว ปั้นหยา หรือทรงไทยประยุกต์ แต่หลังจากนี้จะต้องมีการพิจารณาเรื่องความหนาแน่นของพื้นที่ใหม่เป็นหลักด้วย โดยจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กระทรวงมหาดไทย กรมศิลปากร มาร่วมพิจารณาหลักเกณฑ์การอนุญาตอีกครั้ง
...
รมว.วัฒนธรรมกล่าวอีกว่า 5.มีผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมการมรดกโลกมาร่วมประเมินการบูรณะวัดที่อยู่ในแหล่งมรดกโลก พบว่ามีวัด 16 แห่ง มีรูปแบบการบูรณะผิดเพี้ยนไปจากเดิม ประกอบด้วย 1.วัดพระศรีสรรเพชญ์ 2.วัดมหาธาตุ 3.วัดราชบูรณะ 4.วัดพระราม 5.วัดป่าสัก 6.วัดสะพานนาค 7.วัดส้ม 8.วัดเจ้าพราหมณ์ 9.วัดมหาสมัน 10.วัดหลวงชีกรุด 11.วัดวังชัย 12.วัดโพง 13.วัดพระงาม 14.วัดชุมแสง15.วัดสังขปัต และ 16.วัดไตรตรึง ข้อผิดพลาดทั้งหมด กรมศิลปากรจะเข้าไปแก้ไขให้ถูกต้องตามแบบดั้งเดิม โดยจะมีการถ่ายภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังการบูรณะทั้งหมด ที่ประชุมยังมีมติให้ยื่นแผนแม่บทการจัดการบริหารพื้นที่มรดกโลก นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ เพื่อส่งไปให้คณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาภายในกำหนด 1 ธ.ค.
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้สถานะของมรดกโลกพระนครศรีอยุธยาอยู่ในสถานการณ์อย่างไร นายวีระกล่าวว่า อยู่ในสถานะปกติ โอกาสที่มรดกโลกพระนครศรีอยุธยาจะถูกขึ้นบัญชีภาวะอันตรายมีน้อยมาก เพราะประเทศไทยเป็นเด็กดี ทำตามข้อแนะนำทุกอย่างที่คณะกรรมการมรดกโลกแนะนำ เมื่อถามต่อว่า การควบคุมสิ่งก่อสร้างในพื้นที่มรดกโลกที่ว่ามีการก่อสร้างตลอดเวลา จนทำให้หลายพื้นที่มีความหนาแน่นไม่สบายตา จะต้องทำอย่างไร นายวีระกล่าวว่า ต้องมีการจัดระเบียบใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่เกาะเมือง มีความหนาแน่นมาก โดยมีการเสนอให้ย้ายเรือนจำ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่มรดกโลกออกไป ซึ่งทำได้ไม่ยากนัก เพราะเป็นหน่วยราชการเหมือนกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
รมว.วัฒนธรรมกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้ส่งพระธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อขอบรรจุบัญชีรายชื่อเบื้องต้นศูนย์มรดกโลก เนื่องจากถือว่า พระธาตุพนม มีคุณค่าด้านโบราณสถาน แม้ว่าพระธาตุพนมปัจจุบันจะไม่ได้เป็นองค์ดั้งเดิม ที่เคยพังทลายไปแล้ว และได้บูรณะใหม่ แต่ยังคงคุณค่าในความเป็นประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับโอเปร่าเฮาส์ ในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ที่ไม่ใช่ตึกเก่าโบราณ หรือวัดอีเซ ในประเทศญี่ปุ่น ที่จะมีการรื้อสร้างใหม่ทุกๆ 20 ปี เพื่อให้มีการสืบสานงานช่างฝีมือโบราณ ขณะที่พระธาตุพนม มีพระบรมสารีริกธาตุ มีการบรรจุพระพุทธรูปสำคัญ เป็นต้นแบบที่มีวัดต่างๆนำไปสร้างจำนวนมาก เพราะฉะนั้นพระธาตุพนมจึงมีคุณค่าสมควรได้รับการประกาศเป็นมรดกโลก