ไวยาวัจกรวัดเสือ จวกกรมอุทยานฯ หูเบาเชื่ออาสาสมัครสาวชาวต่างชาติ แฉอยู่วัดเสือเพียงแค่ 15 วัน ตั้งข้อสังเกต ทำไมเข้าเยี่ยมเสือไม่ได้ อ้างก่อนหน้านี้ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เคยให้สัมภาษณ์ ประชาชนสามารถเข้าเยี่ยมได้ ห่วงเสือป่วย...

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 3 ก.ค.59  ที่วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หรือวัดเสือ หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นายศิริ หวังบุญเกิด ไวยาวัจกร พร้อม นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความ ได้นำเอกสารหลักฐานพร้อมรูปภาพที่คัดลอกมาจากเว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มาโชว์ให้สื่อมวลชนดู ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นภาพขณะที่ นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำนาง Sybelle Foxcroft นักวิชาการด้านสัตว์ป่าจากประเทศออสเตรีย อดีตอาสาสมัครที่เคยเลี้ยงดูเสือโคร่งอยู่ที่วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน เข้าพบ พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ปทส. และภาพที่นายเอนโน่ โดรเฟนิก เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐออสเตรียประจำประเทศไทย พร้อมผู้แทนองค์กร Vier Pfoten หรือ Four Paws ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และมีการดำเนินงานเพื่อคุ้มครองสิทธิของสัตว์และช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทำร้าย เข้าหารือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำเสนอความร่วมมือด้านการอนุรักษ์และสวัสดิภาพสัตว์ตระกูลเสือขนาดใหญ่ (Big Cats) ซึ่งภาพดังกล่าวมี นายสัตวแพทย์สมชัย วิเศษชัยมงคล อดีตนายสัตวแพทย์ ที่ดูแลเสือโคร่งของกลาง และเป็นผู้ที่ออกมาเปิดโปงกรณีเสือโคร่ง 3 ตัวถูกขโมยออกไปจากวัด มาให้สื่อมวลชน จึงเป็นเหตุทำให้กรมอุทยานฯ ต้องเข้ามาตรวจสอบพร้อมกับดำเนินการขนย้ายเสือของกลางจำนวน 147 ตัวออกไป นอกจากนี้ ยังมีเอกสารใบเสร็จการสั่งซื้อไมโครชิพที่มีนายสัตวแพทย์สมชัยเป็นผู้ดำเนินการสั่งซื้ออีกด้วย

...

โดย นายศิริ ไวยาวัจกร เปิดเผยว่า วันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยทนายความและอาสาสมัครชาวต่างชาติที่เคยเลี้ยงดูเสือโคร่งอยู่ที่วัดเดินทางไปที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เนื่องจากทุกคนทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่า เสือโคร่งได้ล้มป่วยและตายไป 1 ตัว จึงเกิดความเป็นห่วง แต่เมื่อเดินทางไปถึงทุกคนต้องพบกับความผิดหวัง เนื่องจากเจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าทั้ง 2 แห่ง ไม่อนุญาตให้พวกตนเข้าไป โดยให้เหตุผลว่าจะต้องได้รับการอนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เสียก่อน ซึ่งทุกคนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอาสาสมัครชาวต่างชาติ ที่เคยเลี้ยงดูเสือโคร่งของกลางเหล่านี้มาตั้งแต่ตัวยังเล็ก การไปเยี่ยมเสือของกลางก็เพียงแค่ต้องการที่จะไปดูสุขภาพและจิตใจของเสือเท่านั้น เพราะหากพบว่าเสือโคร่งตัวไหนไม่ยอมกินอาหาร จิตอาสาเหล่านี้ก็สามารถช่วยได้ทันที เพราะทั้งคนและเสือต่างคุ้ยเคยกันเป็นอย่างดี หากเขาได้พบกันสักครั้งหนึ่งเชื่อว่าเสือคงจะมีอาการตื่นเต้นและยอมกินอาหารอย่างแน่นอน

นายศิริ กล่าวต่อว่า และเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) ขณะที่ตนพร้อมคณะไปที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน ก็ได้รับการสอบถามจากสื่อมวลชนในพื้นที่ว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่ให้เข้าไป ซึ่งก็ได้ตอบไปว่าตนไม่ทราบ จะต้องไปสอบถามนายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ เอาเอง ว่าทำไม่ถึงไม่ให้พวกเราเข้าไป ทั้งๆ ที่ผ่านมานางเตือนใจ นุชดำรงค์ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเอาไว้ว่า ประชาชนสามารถเข้ามาเยี่ยมชมสัตว์ป่าที่สถานีเพาะเลี้ยงทั้ง 2 แห่ง ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ทำไมจึงไม่ยอมให้พวกตนเข้าไป ถึงแม้ตนจะเป็นไวยาวัจกรของวัดเสือก็ตาม แต่ทุกคนที่มาก็เป็นประชาชนเหมือนคนทั่วไป นี่คือคำถามของตนไปถึงนายอดิศร หรือมีอะไรต้องปกปิดหรือไม่ ตนทราบจากคณะสัตวแพทย์ว่าการขนย้ายเสืออาจจะมีการตายเกิดขึ้น เนื่องจากเสือเป็นสัตว์ใหญ่ ก่อนวางยาสลบอย่างน้อยจะต้องให้งดอาหารเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง แต่ครั้งนี้กรมอุทยานฯ ให้เสืออดอาหารเพียงแค่ 5-8 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะการที่เสือตายไปไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่ให้เหตุผลว่าเสือโคร่งเหล่านี้มันเป็นทรัพย์ของแผ่นดิน

นอกจากนี้นายอดิศรยังได้ประกาศอีกว่า มีสวนสัตว์จะมาขอสัตว์เหล่านี้ไป ซึ่งก็จะให้ไปทั้งๆ ที่คดีความต่างๆ ยังไม่เสร็จสิ้นเลย ตนจึงฝากถามไปว่าถ้าหากทางวัดจะขอซื้อเสือเหล่านี้กลับมาอยู่ที่วัด นายอดิศรจะให้หรือไม่

นายศิริ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีเรื่องของไมโครชิพนั้น หมอสมชัยบอกเอาไว้ว่า มีคนนำเสือไปแล้วฆ่า จากนั้นก็มีคนนำไปโครชิพของเสือทั้ง 3 ตัวกลับมาคืนให้กับหมอสมชัย ซึ่งตนและทนายได้ค้นพบหลักฐานเป็นเอกสารการสั่งซื้อไมโครชิพเมื่อปี พ.ศ.2555 ซึ่งขณะนั้นเสือโคร่งมีแค่ 97 ตัวเท่านั้น แต่ทำไมหมอสมชัยจึงสั่งซื้อไมโครชิพมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งจนถึงทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถสืบทราบได้เลยว่า ผู้ต้องหาที่เข้ามานำเสือจำนวน 3 ตัวออกไปนั้นเป็นใคร แต่ทางวัดกลับมาถูกกล่าวหาว่าเป็นเป็นแหล่งค้าสัตว์ป่ารายใหญ่เปรียบเสมือนซ่องโจรไปแล้ว และตนมองว่านายอดิศร พูดเร็วเกินไป เพราะเพียงแค่รับฟังข้อมูลจากนาง Sybelle Foxcroft นักวิชาการด้านสัตว์ป่าจากประเทศออสเตรีย อดีตอาสาสมัคร (Volunteer) ที่เคยอาสาเข้ามาเลี้ยงดูเสือโคร่งอยู่ที่วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน ได้เพียง 15 วันเท่านั้น และยังเชื่ออีกว่านาง Sybelle Foxcroft มาเป็นอาสาอยู่ที่วัดนานถึง 9 ปี ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นมันไม่ใช่ตามที่นาง Sybelle Foxcroft กล่าวอ้าง และยังเชื่อข้อมูลที่นาง Sybelle Foxcroft บอกว่าทางวัดนำเสือออกไปขายมากถึง 281 ตัวอีกด้วย ซึ่งในเร็วๆ นี้ตนจำเป็นจะต้องไปร้องเรียนการกระทำของนาง Sybelle Foxcroft ต่อสถานทูตประเทศออสเตรียประจำประเทศไทย เพราะการให้ข้อมูลนั้นเป็นการหมิ่นประมาทอย่างชัดเจน ซึ่งก็ขอให้สื่อมวลชนคอยติดตามต่อไป และใครที่มีส่วนร่วมก็ขอให้คอยดูเอาไว้เช่นกัน.