ลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย แจ้งความดำเนินคดี ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล อ้าง โพสต์ข้อความในโซเชียลฯสร้างความกระทบกระเทือนจิตใจ พร้อมดูหมิ่นฯว่าเป็นผู้ที่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง เป็นผู้หลงงมงาย
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. นายวุฒิชาติ ศรีอัศวอมร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/98 หมู่ 5 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี พร้อมแนวร่วมกลุ่มรักพระพุทธศาสนากว่า 20 คน นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สวิช สืบเพ็ง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่า ตนเป็นตัวแทนในนามกลุ่มรักพระพุทธศาสนาขอแจ้งความดำเนินคดีกับ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล ในข้อหาความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1) หลังจากนำข้อความอันเป็นเท็จใส่ร้าย วัดพระธรรมกาย ลงในทวิตเตอร์ส่วนตัว เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา
โดยมีข้อความว่า “วัดพระธรรมกายมีลักษณะเป็นนิกายต่างหากสำหรับศาสนาพุทธในประเทศไทย ย่อมมีเสรีภาพที่กำหนดลัทธิความเชื่อของคนต่างไปจากนิกายใส่ร้ายของไทย มีความจำเป็นแล้วที่ คสช. จะต้องแก้ไขพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ เถรวาท มหานิกาย ธรรมยุต นิกายธรรมกาย ให้ชัดเจน อันความเป็นจริง วัดพระธรรมกายเป็นวัดในพระพุทธศาสนาเถรวาท สังกัดมหานิกาย มีการก่อตั้งวัดและการบวชพระทุกรูปตามแบบเถรวาททุกประการ อีกทั้งอยู่ภายในการดูแลของมหาเถรสมาคม อย่างถูกต้อง มีคำสอนตามหลักพระไตรปิฎกเช่นเดียวกับวัด ทั่วไป ที่มุ่งศึกษาเรื่องศีลสมาธิ ปัญญา ตามหลักไตรสิกขา หาใช่ลัทธิความเชื่อต่างไปจากเถรวาทของไทยแต่อย่างใดไม่”
โดยนายวุฒิชาติ เผยว่า จากข้อความดังกล่าว เป็นการนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ตนซึ่งเป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจ รวมทั้งทำให้ผู้อื่นดูหมิ่นว่า ข้าพเจ้านับถือผู้ที่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง เป็นผู้หลงงมงาย
...
ทางด้าน พ.ต.ท.ยศวิน เอี่ยมพุ่ม รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด เผยว่า สำหรับคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์กล่าวโทษตามที่ นายวุฒิชาติ มีความประสงค์เข้าแจ้งความ แต่ต้องตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานในโซเชียล ว่า ดร.สมเกียรติ ได้โพสต์ข้อความเข้าข่ายเป็นความผิดตามที่ผู้แจ้งหรือไม่ต่อไป.