สสจ.ชัยนาท เตือนคนไทยช่วงอากาศร้อน ผิวหนังอาจคล้ำหรือเหี่ยวย่นก่อนวัย ถึงขั้นเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง แนะ วิธีการเลือกผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด เพื่อลดปริมาณรังสียูวีที่จะส่องถึงผิวหนัง...
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 59 นายแพทย์พูลสิทธิ์ ศีติสาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยต้องเผชิญกับอากาศที่ร้อนมาก ทำให้มีผู้ป่วยเป็นลมแดดเข้ามารักษาอยู่ทุกวัน ทั้งนี้ ประเทศไทยอยู่ในโซนเขตร้อนมีแสงแดดจัดเกือบตลอดทั้งปี จึงยากที่จะหลบเลี่ยงแสงแดดได้ ความจริงแสงแดดมีทั้งคุณและโทษ การได้รับแสงแดดวันละ 10-15 นาที เหมาะกับการสร้างวิตามินดีที่จำเป็นต่อกระดูก แต่หากได้รับแสงแดดมากเกินไปหรือได้รับในช่วงเวลาที่แดดจัด ในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. รังสีอัลตราไวโอเลต จะไปทำให้ผิวหนังคล้ำหรือเหี่ยวย่นก่อนวัย อาจทำให้เป็นโรคมะเร็งผิวหนัง ผลิตภัณฑ์กันแดดจึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการป้องกันภัยร้ายที่อาจเกิดจากแสงแดดสามารถลดปริมาณรังสียูวีที่จะมาถึงผิว ซึ่งสารป้องกันแดดแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มสารที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสง เช่น ซิงก์ออกไซด์ ไททาเนียมไดออกไซด์ สารกลุ่มนี้จะเคลือบบนผิวไม่ดูดซึมเข้าผิวหนัง ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติดูดซับรังสียูวี เช่น แอนทรานิเลต เบนโซฟีโนน หรือซินนาเมต ทำให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังน้อยลง แต่อาจทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองได้มากกว่าสารกลุ่มแรก ค่า SPF (Sun Protection Factor) จะเป็นตัวบ่งบอกให้ทราบว่า เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดนั้นแล้วจะช่วยป้องกันรังสียูวีบีจากแสงแดดได้นานแค่ไหนผิวจึงจะไหม้ โดยขึ้นอยู่กับความเข้มของแสงแดด โดยทั่วไปสามารถใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 เมื่ออยู่กลางแจ้งหรือขณะเล่นกีฬาอาจจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF 30 ซึ่งผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF สูง จะมีความเข้มข้นของสารป้องกันแสงแดดที่สูงตามไปด้วย อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้มากกว่าครีมกันแดดที่มีค่า SPF ต่ำ จึงต้องระมัดระวังในการใช้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน สำหรับค่า SPF สูงกว่า 50 (ในฉลากแสดงเป็น SPF 50+) ก็ไม่ได้แตกต่างไปจาก SPF 30 มากนัก แต่ราคาจะแตกต่างกันมาก ผู้บริโภคควรพิจารณาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม ส่วนค่า PA (Protection grade of UVA) หรือ PFA (Protection factor for UV-A) นั้น เป็นการช่วยป้องกันรังสียูวีเอที่เป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นและโรคมะเร็งผิวหนัง สามารถดูค่าบนฉลากที่จะแสดงระดับเป็น PA+ หรือ PA++ หรือ PA+++ ขึ้นกับระดับความสามารถจากน้อยไปหามากในการป้องกันรังสียูวีเอ
...
"ทั้งนี้ วิธีการป้องกันอันตรายจากแสงแดดที่ดีที่สุด ควรอยู่ในที่ร่ม สวมเสื้อผ้าให้มิดชิด สวมหมวกปีกกว้าง รวมทั้งสวมแว่นกันแดด เพราะรังสียูวี นอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งผิวหนังแล้ว ยังเป็นสาเหตุของโรคต้อกระจกได้ด้วย ดังนั้นก่อนซื้อผลิตภัณฑ์กันแดดทุกครั้งควรเลือกให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้และปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัดและทาก่อนออกไปกลางแจ้งอย่างน้อย 15-30 นาที ยกเว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด แต่ให้หลีกเลี่ยงแสงแดดแทน หากใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดแล้วมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ให้หยุดใช้ทันที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมทั้งให้นำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปปรึกษาแพทย์ด้วย" นายแพทย์พูลสิทธิ์ กล่าว