ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ สัปเหร่อเฒ่าที่อ่างทอง ผ่าศพสาววัย 19 ปี ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จยย. ล้ม ตายทั้งกลม ร่างเด็กนำไปฝัง ส่วนแม่นำไปเผา ชี้เป็นความเชื่อทำกันมาแต่ครั้งโบราณ ไม่อย่างนั้นจะอยู่ไม่เป็นสุข มีแต่เรื่องเดือดร้อน...

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 59 ที่บริเวณมูลนิธิการกุศลวิเศษชัยชาญ หน้าวัดสิงห์ ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง นางอารีย์ ช้างไผ่วงค์ อายุ 66 ปี พร้อมญาติพี่น้องได้นำร่างของ น.ส.นทวรรณ ศรีอวยพร อายุ 19 ปี ชาวบ้าน ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ ขณะมีลูกน้อยอยู่ในครรภ์ ซึ่งเป็นการตายทั้งกลม นำมาผ่าเอาลูกในท้องออก ตามความเชื่อของชาวบ้านที่นี่

ทั้งนี้ ผู้ที่ลงมือทำพิธี คือ นายสนม ผิวบาง อายุ 73 ปี อาสาสมัครมูลนิธิฯ ที่มีอาชีพเป็นสัปเหร่อ เป็นผู้ทำพิธีกรรมในการผ่าเด็กออกจากท้องแม่ที่เสียชีวิต เพื่อนำไปฝัง ส่วนร่างของผู้เป็นแม่นั้น จะนำไปทำพิธีตามประเพณี ก่อนจะเผาตามความเชื่อของชาวบ้านที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ

นายสนม กล่าวว่า ตนเองเป็นทั้งสัปเหร่อ และยังเป็นอาสากู้ภัยของมูลนิธิการกุศลวิเศษชัยชาญ ได้รับการติดต่อจากทางญาติของ น.ส.นันทวรรณ ผู้ตาย ด้วยความยินยอมพร้อมใจ ให้ช่วยผ่าศพนำเด็กทารก อายุ 4 เดือน เพศชาย ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุพร้อมกับแม่ คือ น.ส.นันทวรรณ เนื่องจากทางญาติจะนำร่างของ น.ส.นันทวรรณ ผู้เป็นแม่ไปประกอบพิธีฌาปนกิจ ที่วัดอ่างทองวรวิหาร ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง ในเย็นของวันนี้ (25 ม.ค. 59) ซึ่งเรื่องนี้เป็นความเชื่อมาตั้งแต่สมัยโบราณ ว่า หญิงที่ตายทั้งกลมนั้น ก่อนที่จะทำการเผาศพ จะต้องผ่านำเอาร่างของทารกที่เป็นลูกออกมาก่อน แล้วนำไปแยกฝัง ไม่ให้เผาศพรวมกับผู้เป็นแม่ หากใครไม่ทำตามแล้วครอบครัวนั้นจะอยู่ไม่เป็นสุข จะมีเรื่องเดือดร้อนตามมาอีกมากมายไม่สิ้นสุด

...

"การผ่าศพผู้เสียชีวิตตายทั้งกลมนั้น ได้ทำพิธีกรรมที่ได้ร่ำเรียนมาแล้ว จึงเริ่มผ่าด้วยมีดที่ได้รับสืบทอดมา เสร็จแล้วนำศพเด็กทารกไปฝังไว้ในพื้นที่ข้างศูนย์กู้ภัยที่ทำงานอยู่ แล้วจะทำการตั้งศาลเพียงตา พร้อมเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ นำไปไว้ให้ ซึ่งศพที่ผ่าแบบนี้ ทำมาเป็นศพที่ 20 แล้ว" สัปเหร่อ กล่าว

ส่วนนางอารีย์ ยายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเอง และญาติๆ ได้ทำตามคำพูดของคนโบราณที่พูดสืบต่อกันมาว่า หากครอบครัวใดมีญาติที่ตายทั้งกลม ก่อนจะทำการเผาศพก็จะต้องผ่าเอาลูกออก นำไปฝังเสียก่อน จึงจะสามารถนำศพของผู้ตายไปเผาได้ หากว่าไม่ทำ ก็จะทำให้ครอบครัวอยู่อย่างไม่มีความสุข จะมีแต่ความเดือดร้อนเข้ามา ตนเองเลยติดต่อขอความช่วยเหลือจากสัปเหร่อที่เป็นอาสากู้ภัยด้วย ส่วนศพของหลานสาวก็จะทำพิธีเผาที่วัดต่อไป.