ชาวบ้านรวมตัวร้อง"ดีเอสไอ"ได้รับผลกระทบจากสารไซยาไนด์ของเหมืองทองในพื้นที่ วอนให้รับเป็นคดีพิเศษ หลังมีกลุ่มชาวบ้านในชุมชนตายแล้ว 54 ราย ด้าน ผบช.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เตรียมส่งทีมตรวจสอบ...

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 ม.ค. 59 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. นางธนัญธิดา ลิ้มนนทกุล พร้อมตัวแทนชาวบ้านจากจังหวัดพิจิตร เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผบช.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ นายพิเชฎฐ์ ศรีทองนุ่น พงส.คดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ ดีเอสไอ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีมีผู้ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองทองของ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร และ จ.เพชรบูรณ์

นางธนัญธิดา กล่าวว่า บริษัทดังกล่าวก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2544 ต่อมาได้มีการต่อเติมโรงงานส่วนขยายเพื่อเพิ่มการผลิต โดยทางบริษัทได้ทำก่อนขออนุญาตจากกระทรวงอุตสาหกรรม และชาวบ้านไม่ทราบ ทำให้มีการไปฟ้องร้องที่ศาลจังหวัดพิจิตรเพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แต่สุดท้ายศาลชั้นต้นตัดสินยกฟ้อง ส่วนศาลอุทธรณ์ชี้ว่ามีมูลและเรื่องระหว่างอยู่ในกระบวนการ

นางธนัญธิดา กล่าวอีกว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กับเหมืองทองได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจากบ่อทิ้งกากแร่แห่งที่ 2 ที่มีสารไซยาไนด์ปนเปื้อน เมื่อถูกความร้อนจะกลายเป็นมลพิษ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชุมชนเพียง 300 เมตรเท่านั้น ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและปัญหาสุขภาพของชาวบ้าน เมื่อสูดดมเข้าร่างกายในปริมาณมากจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงและแน่นหน้าอก

"หลังจากชาวบ้านเคยมาร้องเรียนที่ ดีเอสไอ ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 58 จนถึงวันนี้มีคนตายไปแล้ว 54 ศพจากสารไซยาไนด์ ซึ่งการเดินทางมาวันนี้เพื่อขอให้ ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากว่าไม่ต้องการสูญเสียคนในครอบครัวอีก นอกจากนี้ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้นำศพผู้เสียชีวิต 2 รายไปชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริงเพื่อนำไปเป็นหลักฐานในชั้นศาล แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผล"

...

พ.ต.ท.ประวุธ เปิดเผยว่า ทาง ดีเอสไอ ได้รับเรื่องเป็นคดีพิเศษพร้อมจะตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากชาวบ้านได้รับผลกระทบโดยตรงจากการทำเหมืองทอง ทำให้มีฝุ่นหรือสารพิษต่างๆ เข้ามาในชุมชน ดีเอสไอเคยตรวจสอบมาแล้วครั้งหนึ่งพบมีข้อมูลเบื้องต้น 2 ส่วน 1. ส่วนกิจการภายในเหมืองทอง อาทิ ถนนสาธารณะ ศาลาประชาคม และ โรงงานส่วนขยาย จะพิจารณารับเป็นคดีก่อน 2. ส่วนเรื่องผลกระทบต่อชีวิตและร่างกายนั้นอาจต้องใช้ระยะเวลา เพราะเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบ และเป็นข้อมูลเชิงวิชาการต้องตรวจเทียบเคียงในหลายพื้นที่และดูจากสภาพร่างกายของคนในแต่ละพื้นที่นำมาวิเคราะห์ อาทิ การตรวจเลือดคนในชุมชน ฯลฯ เพื่อเปรียบเทียบ เนื่องจากบริเวณโดยรอบพื้นที่เหมืองแร่ดังกล่าวไม่มีการทำฐานข้อมูลชุมชนก่อนจะทำเหมือง จึงต้องทำการเปรียบเทียบกับพื้นที่ที่มีโครงสร้างทางธรณีวิทยาคล้ายกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เลือกพื้นที่เอาไว้เรียบร้อยแล้ว