แฉ “เสธ.โจ้” กินค่าหัวคิวการจัดทำเสื้องาน “ไบค์ ฟอร์ ราชภักดิ์” เกือบ 6 ล้านบาท ในบัญชี ขณะที่โฆษก ตร.เผยสำนวนคดีแก๊งหมอหยองหมิ่นสถาบันฯที่เหลือ หลังกองปราบฯส่งให้คณะพนักงานสอบสวน “ศรีวราห์” ต้องขอเวลาตรวจสอบอีกระยะ ด้าน “สรรเสริญ” เลขาธิการ ป.ป.ช.ชี้ช่องสอบปมทุจริตโครงการราชภักดิ์ แนะต้องมีผู้มายื่นเรื่องเอาผิด ขณะนี้รอผลสอบของกองทัพบก สอดรับกับประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมสอบการโกงถ้ามีคนร้อง ส่วนเด็กเพื่อไทยเชื่อปมราชภักดิ์กระทบความรู้สึกคนไทย และสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาล

กรณีศาลทหารอนุมัติหมายจับ พ.อ.คชาชาต บุญดี ฝสธ.ทภ.3 หรือเสธ.โจ้ ข้อหาแอบอ้างเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์จาก 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ในกิจกรรมสำคัญที่ผ่านมา และที่กำลังจะเกิดขึ้น ร่วมกับนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด และนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท ชัตเตอร์มหาเทพ คนสนิทหมอหยอง ผู้ต้องหาทั้งสามที่จับกุมได้ก่อนหน้าส่งคุมขังอยู่ในเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี (พัน.ร.มทบ.11) ต่อมาสารวัตรเอี๊ยดผูกคอตาย และหมอหยองติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้ระบบหายใจล้มเหลว เสียชีวิต ระหว่างถูกคุมขัง ขณะที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.รอง ผบ.ตร. ได้สรุปสำนวนคดีแก๊งหมอหยอง 1 ใน 16 คดี สั่งฟ้องในความผิดฐานหมิ่นสถาบันฯ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เสธ.โจ้ได้หลบหนีไปประเทศเมียนมา นอกจากนี้ นายตำรวจสังกัด บช.ก. 4 นาย ที่สนิทสนมกับ พ.ต.ต.ปรากรม ได้ยื่นใบลาออกจากราชการ ท่ามกลางข่าวความไม่โปร่งใสในการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่กลุ่มผู้ต้องหาคดีหมิ่นฯเข้าไปเกี่ยวข้องร่วมกับเซียนพระคนหนึ่ง ต่อมา พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. มอบหมายให้ พล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบโครงการดังกล่าว โดยให้ส่งผลการตรวจสอบให้ พล.อ.ธีรชัย วันที่ 18 พ.ย.นี้

...

ความคืบหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 18 พ.ย. พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การดำเนินการสอบสวนการทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์ เป็นเรื่องที่ส่วนราชการแยกส่วนกันทำต้องรอผลการสอบสวนของกองทัพบก ยังไม่ได้ยินว่ากรณีดังกล่าวมีความผิดจริง ได้ยินแต่เพียงว่ากองทัพบกตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ส่วนกรณีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 มี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ได้รับรายงานว่า สำนวนการสอบสวนที่ส่งมาจากกองปราบปราม ให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์พิจารณา คงต้องรอเวลาในการตรวจสอบสำนวนสักระยะหนึ่ง หลักจากผ่านขั้นตอนนี้จะเข้าสู่คณะกรรมการที่มี พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นประธาน โดยจะมีคณะกรรมการกลั่นกรองสำนวนอีกครั้งหนึ่ง และส่งความเห็นเสนอ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อลงนามความเห็นทางคดี จากนั้นจะส่งให้อัยการพิจารณา สำนวนคดีนี้ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบอย่างสูง ส่วนการติดตามตัว พ.อ.คชาชาต บุญดี จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่า พ.อ.คชาชาตหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านก่อนที่จะมีหมายจับ แต่ยังไม่ทราบว่าได้หลบหนีเข้าไปยังประเทศใด

ด้านการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีหมิ่นสถาบันฯ มีรายงานว่า คณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบสำนวนคดีทั้ง 12 คดี ที่มีความเกี่ยวข้องกับแก๊งหมอหยอง หลังพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามได้นำสำนวนส่งมอบให้คณะพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง มี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน โดยได้มีการประชุมแบ่งงานกันคาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้จะสามารถส่งให้กองคดีอาญาตรวจสอบได้ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานทางด้านเทคนิคต่างๆ เช่น วิทยุ ปืน รถยนต์ และเศษผม กองปราบปรามดำเนินการแล้วในส่วนของสำนวนอีก 3 สำนวน ที่ปรากฏชื่อของ พ.อ.คชาชาต บุญดี เป็นผู้ต้องหาร่วมอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ภายหลังจากพนักงานสอบสวนได้นำสำนวนส่งมอบให้คณะพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวัน มีใจความว่า ตามหนังสือ บก.ป. ที่ 0026.2/5389 ลงวันที่ 17 พ.ย.2558 เรียน พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.รอง ผบ.ตร. หัวหน้าพนักงานสอบสวน ตามคำสั่ง ตร.ที่ 578/2558 ส่งมอบสำนวนการสอบสวนคดีอาญา ของ บก.ป.ที่ 97, 99, 100, 101, 102, 103, 104, 105, 106, 107, 108, 109,/2558 จำนวน 12 คดี ของ กก.1 บก.ป. ซึ่ง ตร.ได้มอบหมายให้คณะพนักงานสอบสวน ตามคำสั่งที่ 578/58 เป็นคณะพนักงานสอบสวนรับผิดชอบ โดย ผบก.ป.มอบหมายให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามนำสำนวนทั้ง 12 คดี ส่งมอบให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ หน.พงส. ตามคำสั่ง ตร.รับมอบสำนวนเพื่อดำเนินการต่อไปแล้วจึงลงไว้เป็นหลักฐาน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแจ้งข้อหาเพิ่ม คดีที่ผู้กล่าวหา คือ พ.ต.ท.มนต์ชัย วงษ์ชาตรี สว.กก.1.บก.ป. ผู้ต้องหาคือ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ไว้ในความครอบครอง มีและใช้วิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ได้มีการตรวจค้นรถตู้โตโยต้า รุ่นเวนจูรี่ ทะเบียน ฮภ 1209 กรุงเทพมหานคร พบอาวุธปืน เอชเค 53 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 80 นัด ที่ยึดมาจากคอนโดมิเนียม ลาเมซอง ซอยพหลโยธิน 24 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. และบ้านเลขที่ 750/3 ซอยจันทร์ 34 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. รวมทั้งพนักงานสอบสวนได้เดินทางไปที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี (พัน.ร.มทบ.11) แจ้งข้อเพิ่มนายจิระวงศ์ วัฒนาเทวาศิลป์ หรืออาท ชัตเตอร์มหาเทพ คนสนิทหมอหยอง ในคดี 103-107/2558 ความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย รัชทายาท ตามความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 112

...

ส่วนเรื่องการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ รายงานข่าวแจ้งว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบความผิดปกติในการจัดซื้อ จัดจ้าง ตลอดจนการจัดทำของที่ระลึกเสื้อ ในงานไบค์ ฟอร์ ราชภักดิ์ จากการตรวจสอบพบความผิดปกติในการจัดทำเสื้อ มีการสั่งทำเสื้อ 27,000 ตัว โดยมีการสั่งทำ 3 ครั้ง ครั้งแรก 7,000 ตัว ครั้งที่สอง 10,000 ตัว และ 10,000 ตัว ตามลำดับ เป็นเงินกว่า 11,900,000 บาท จากการตรวจสอบพบว่าการจัดทำเสื้อดังกล่าว มีพ.อ.คชาชาต บุญดี เป็นผู้รับผิดชอบ ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบพบว่ามีการโอนจ่ายค่าเสื้อเพียง 6 ล้านบาท และมีเงินส่วนต่างที่ไม่ได้ถูกโอน เป็นเงิน 5.9 ล้านบาท อยู่ในบัญชีของนายทหารคนดังกล่าว ขณะนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบและขยายผลเส้นทางการเงินว่ามีความเชื่อมโยงกับใครบ้าง

นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงการเรียกร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบความไม่โปร่งใสการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่ราชการหรือไม่ เป็นเงินบริจาคหรืองบประมาณราชการต้องรอดูผลสอบจากกองทัพบกค่อยมาพิจารณาตามขั้นตอนของ ป.ป.ช. ตามหลักการของ ป.ป.ช.จะเข้าไปตรวจสอบได้จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และเป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือแสวงหาผลประโยชน์ต่อตำแหน่งหน้าที่ ขณะนี้ ป.ป.ช.ยังไม่ได้ทำอะไรอย่างเป็นทางการ ได้แต่เฝ้าดูข้อมูลข่าวสาร อย่างไรก็ตามระหว่างนี้หากมีผู้มายื่นเรื่องร้องเรียนให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ป.ป.ช.ก็สามารถดำเนินการตรวจสอบได้ทันที โดยจะเข้าไปตรวจสอบว่า เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ เป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ เพื่อส่งเรื่องให้ที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาว่าจะรับเรื่องไว้ตรวจสอบหรือไม่

ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีราชา วงศารยางกูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีการทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์ว่า ถ้าร้องเรียนมาผู้ตรวจการแผ่นดินก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ แต่ถ้าไม่มีการร้องเรียนการจะเข้าไปตรวจสอบเองจะทำให้มีปัญหา เพราะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงคือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่เมื่อเป็นการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดหากมีการร้องเรียนมายังผู้ตรวจการฯก็สามารถตรวจสอบได้ เมื่อถามว่า การอ้างว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินบริจาคไม่ใช่เงินงบประมาณจะสามารถตรวจสอบได้หรือไม่ นายศรีราชากล่าวว่า ต้องดูว่าการใช้เงินเป็นไปโดยถูกต้องตามระเบียบ กฎหมายที่กำหนดไว้หรือไม่ การกระทำนั้น กระทำขณะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ ส่วนประเด็นจริยธรรมก็อาจเกี่ยวข้อง

...

นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประชาชนกำลังจับตาดูว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร ภายหลัง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม อดีต ผบ.ทบ.ออกมายอมรับว่ามีการเรียกรับหัวคิวกันจริงในโครงการอุทยานราชภักดิ์ กฎหมายถือว่าความผิดสำเร็จเหมือนกับโจรปล้นเงิน ต่อให้บอกว่าเอาเงินไปคืนแต่ก็ยังเป็นโจรอยู่ดี เรื่องดังกล่าวทำลายความรู้สึกประชาชนที่จงรักภักดีต่อสถาบัน แม้รัฐบาลจะอ้างว่าไม่ใช่งบประมาณแผ่นดิน แต่เงินดังกล่าวก็เป็นเงินของประชาชนที่บริจาคด้วยความจงรักภักดี ทุกองค์กรแม้แต่ในกองทัพย่อมมีทั้งคนดีและคนชั่ว ที่ผ่านมามีความพยายามตราหน้าว่านักการเมืองเป็นพวกไม่ดี เป็นพวกขี้โกง ซื้อเสียง มาถึงโครงการอุทยานราชภักดิ์ อยากรู้ว่ารัฐบาลจะจัดการอย่างไร ที่ผ่านมาทั้งสีกากี สีแดง ก็โดนลงโทษหมดแล้ว ไม่รู้ว่าพอเป็นสีเขียวจะเป็นอย่างไร ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรม อย่าอ้างแต่ว่าเข้ามาปราบคอร์รัปชัน แต่ในทางปฏิบัติกลับทำสวนทาง ความน่าเชื่อถือจะไม่มี ส่งผลไปถึงเสถียรภาพของรัฐบาล