เศียรพระสมัยอยุธยาที่ขุดพบได้มีอายุกว่า 300 ปี
ฮือฮา ขุดพบ"เศียรพระ"วัดเก่าสมัยกรุงศรีอยุธยา อายุกว่า 300 ปี ที่ ต.หัวไผ่ จ.อ่างทอง ลักษณะเป็นหินทราย ชาวบ้านรีบนำฝาก วิหารหลวงพ่อกลิ่น เจ้าอาวาสวัดกลาง เพื่อเก็บไว้ในที่ปลอดภัย
เมื่อวันที่ 20 เม.ย.57 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่ ม.4 ตำบลหัวไผ่ อ.เมือง จ.อ่างทอง ได้มีประชาชนพบเศียรพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยอยุธยา จึงรีบไปตรวจสอบ พบกับนายยงค์ พรหมพงษ์ อายุ 80 ปี เผยว่า เมื่อก่อนที่ดินตรงที่พบเศียรพระนี้ได้เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 200-300 ปี ชื่อว่า "วัดกะเชา" ชาวมอญได้เป็นผู้สร้างไว้ และตนก็ได้อยู่อาศัยแถวหน้าวัดนี้มาตั้งแต่เด็ก และตอนตายังเด็กๆ ได้มาเลี้ยงวัว-ควายแถววัดนี้ ซึ่งเป็นวัดร้าง และยังนำพระเก่าๆ ที่ถูกปล่อยวางทิ้งไว้ มาเรียงกันเป็นแถวๆ เล่นตามประสาเด็ก ประมาณกว่า 30 องค์ ตรงที่นำพระมาเรียงกันนั้น จะมีเจดีย์เก่าและวิหารเก่าอยู่ มีต้นโพธิ์ใหญ่ปกคลุมเจดีย์ ต่อมาต้นโพธิ์ตาย จอมปลวกก็มาทำรังคลุมเจดีย์ จนกระทั่ง พ.ศ. 2517-2522 วัดโดนรื้อ แล้วปล่อยให้รกร้าง ต้นไม้ใบหญ้าขึ้น
...
นายยงค์ กล่าวด้วยว่า กระทั่งก่อนหน้านี้ได้มีหน่วยงาน อบต. เข้ามาปรับปรุงพื้นที่บริเวณนี้ เพื่อจะทำเป็นแหล่งวัฒนธรรม แต่ช่วงกำลังปรับปรุงพื้นที่ได้มีการนำเอาดินเข้ามาถมทับที่รอยเดิมของวัดเก่า ปรากฏว่าชาวบ้านได้นำเลื่อยไฟฟ้าไปตัดต้นไม้ซึ่งมีขนาดใหญ่ บริเวณที่เป็นเจดีย์เก่า แต่ถูกจอมปลวกทำรังคลุมไว้ ปรากฏว่าเหลือบไปเห็นเศียรพระวางอยู่ใกล้ๆ กับเจดีย์ ขณะนั้นเองโซ่ของเลื่อยไฟฟ้าเกิดขาดขึ้นมาทันที ชาวบ้านถึงกับตกใจ ไม่กล้าที่จะทำอะไรในพื้นที่นั้นต่อ จึงได้ปรึกษากัน และนำเศียรพระดังกล่าวไปไว้ที่วัดกลาง โดยเศียรพระนี้มีขนาดกว้าง 8 นิ้ว สูง 20 นิ้ว และลักษณะเป็นหินทราย และได้นำไปฝากกับเจ้าอาวาสวัดกลาง เพื่อเก็บไว้ในที่ปลอดภัย และได้เก็บไว้ที่วิหารหลวงพ่อกลิ่น
นายชูชาติ ผดุงชัย รองปลัด อบต.หัวไผ่ เผยว่า ขณะนี้ทาง อบต.หัวไผ่ ก็จะดำเนินการดูแลเศียรพระเก็บไว้ในที่ปลอดภัย อีกทั้งอนาคตข้างหน้า อาจนำเศียรพระที่พบกลับไปไว้ที่เดิม เพื่อให้ชาวบ้านได้กราบไหว้บูชา.