เด็กหญิง 4 ขวบ รื้อลิ้นชัก หยิบปืนปากกาของพ่อเลี้ยงมาประกอบเล่น ก่อนปืนลั่นกระสุนฝังต้นขา นอนร้องลั่นอยู่กลางบ้าน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 เม.ย. 2568 พ.ต.ท.สุนทร พิมพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีเด็กผู้หญิงถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ภายในบ้านหลังหนึ่ง ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ต.วีระพันธ์ บุญหนัก สว.สส. สภ.พระสมุทรเจดีย์ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น บริเวณลานหน้าบ้านพบ ด.ญ.ไอ (นามสมมติ) อายุ 4 ขวบ นอนร้องไห้ครวญครางอยู่หน้าบ้าน โดยมี นายปนวิตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี พ่อเลี้ยงคอยนั่งปลอบอยู่ บริเวณต้นขาขวามีบาดแผลถูกยิงเป็นรูโหว่กระสุนฝังใน เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ภายในบ้านพบอาวุธปืนปากกาจำนวน 1 กระบอก และลูกกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 1 นัด และหัวกระสุนปืนขนาดเดียวกันจำนวน 1 หัว ถูกถอดแยกชิ้นส่วนใส่ในกล่องพลาสติก

จากการสอบถาม นายปริญญา (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี หลานภรรยาของนายปนวิตน์ เล่าว่า น้องไอ เป็นนักเรียนในศูนย์เด็กเล็กแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ในคลองบางปลากด ก่อนเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมได้เล่นอยู่กับเด็กผู้ชายวัย 8 ขวบ และเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ภายในบ้าน ซึ่งทั้งหมดเป็นญาติกัน ในระหว่างที่ตนนั่งอยู่ในห้องนอน ได้ยินเสียงดังปังคล้ายประทัด แต่ดังกว่ามาก จึงออกมาดู และได้ยินเสียงเด็กร้อง พบน้องไอ นอนร้องไห้ครวญครางอยู่กลางบ้าน พร้อมมีเลือดไหลออกมาจากต้นขาข้างขวา โดยข้างลำตัวพบปืนปากกาและกล่องใส่ปืนวางอยู่ ส่วนเด็กอีก 2 คน ยืนร้องไห้ด้วยความตกใจจนขวัญผวา ตนจึงรีบห้ามเลือด ก่อนจะเรียกเพื่อนบ้านให้ช่วยโทรศัพท์แจ้งรถพยาบาล พร้อมโทรศัพท์แจ้งน้าเขยให้รีบมาดูน้อง

...

ส่วนปืนนั้นตนทราบเพียงว่าเพื่อนของน้าเขยมาฝากไว้ เพราะเกรงว่าจะนำปืนไปทำเรื่องไม่ดี เนื่องจากเขาเป็นคนใจร้อน ซึ่งก่อนเกิดเหตุจากการถามเด็กที่เล่นอยู่ด้วยกันทราบว่า น้องไอ ได้เข้าไปในห้องพ่อกับแม่ ก่อนไปรื้อค้นลิ้นชักหัวเตียง กระทั่งพบกล่องพลาสติกที่ใส่ปืนไว้ จึงนำออกมาเล่น และลองประกอบดู ก่อนที่ปืนจะลั่นใส่ต้นขาบาดเจ็บดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดปืนไว้ตรวจสอบ ก่อนจะบันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ซึ่งหลังจากนี้จะเดินทางไปสอบปากคำนายปนวิตน์ และน้องไอ ที่โรงพยาบาล ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป