เจ้าหน้าที่ชี้แจง กรณีนักท่องเที่ยวเหยียบฐาน "พระพุทธรูป" เก็บ "มะม่วง" ในวัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา เผยมาตรการป้องกัน-แก้ไข จะนำป้ายเตือนมาติดเพิ่ม
จากกรณีที่โลกออนไลน์ ได้มีการแชร์คลิปนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ กำลังเหยียบไปที่บริเวณฐานองค์พระพุทธรูป ซึ่งตั้งอยู่รอบกำแพงพระเจดีย์ชัยมงคล วัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเก็บลูกมะม่วงที่ย้อยเข้ามาในกำแพง โดยมีหญิงนักท่องเที่ยวอีกคน เตรียมถุงพลาสติกยืนรอรับอยู่ด้านล่าง ซึ่งเมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากนั้น
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปบริเวณจุดเกิดเหตุ ที่วัดใหญ่ชัยมงคล ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าบริเวณรอบๆ กำแพงพระเจดีย์ชัยมงคล มีการปลูกมะม่วงไว้จำนวนมาก แต่พบว่าต้นมะม่วงที่นักท่องเที่ยวปีนขึ้นไปเก็บ มีลูกดกกว่าต้นอื่น
สอบถามชาวบ้านที่เห็นคลิป เผยว่า พอเห็นคลิปดังกล่าว ก็รู้สึกสะเทือนใจถึงความไม่เหมาะสม ไม่น่าจะทำ เพราะอะไรก็ตามที่อยู่ภายในวัด ถือเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่น่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว เรามาท่องเที่ยวได้ ถ่ายภาพได้ ทำบุญได้ แต่ไม่สมควรไปแตะต้องสิ่งของที่อยู่ในวัด ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูป ผลไม้ หรือสิ่งต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งของต้องห้าม
...
ด้าน นางอรุณี โนนศรี อายุ 64 ปี เจ้าหน้าที่วัด เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นเมื่อช่วงหยุดที่ผ่านมา ตนเองก็ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ แต่มีไกด์นำคลิปมาเปิดให้ดู ซึ่งตนเองเห็นก็ยังรู้สึกตกใจถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากนักท่องเที่ยว 2 ราย น่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวกันเอง โดยไม่มีไกด์
ซึ่งปกตินักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในวัด ก็จะมีไกด์นำมาและก็จะแนะนำถึงการประพฤติ และปฏิบัติตัวในวัดเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่เหมาะสม ประกอบกับทางวัดก็มีเจ้าหน้าที่ของวัดคอยดูแล และก็คอยแนะนำอยู่แล้ว มีการติดป้ายประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวภายในวัด และการแต่งกายและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ถ้าเจ้าหน้าที่วัดเห็นก็จะมีการตักเตือนและห้ามปราม
แต่เหตุการณ์น่าจะเกิดขึ้นช่วงประมาณเย็นๆ มีนักท่องเที่ยวน้อย เจ้าหน้าที่วัดก็ต้องไปดูแลส่วนอื่น รอบๆ วัด จึงไม่เห็นนักท่องเที่ยว 2 รายปีนขึ้นไปเก็บมะม่วง ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ก็จะระมัดระวังและก็ดูแลให้ถ้วนถี่มากกว่านี้ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
ล่าสุดวันที่ 4 มี.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบว่าทางวัดได้มีการดำเนินการให้เจ้าหน้าที่วัดมาตัดกิ่งมะม่วงที่ย้อยเข้ามาในกำแพงออก เพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวแล้ว
ด้าน นายปวรุตม์ ฐิติพงศิริกุล ผู้อำนวยการกลุ่มอำนวยการและกิจการคณะสงฆ์ สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เผยว่า บริเวณพระเจดีย์ชัยมงคลขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน สำนักกรมศิลปากร ที่ 3 และอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นผู้ดูแล โดยในเคสนี้ ทางกรมศิลปากรแจ้งว่าจะต้องมีผู้เสียหายไปแจ้งกับกรมศิลปากร เพื่อให้กรมศิลปากรในฐานะผู้ดูแลโบราณสถาน เข้าไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน หรือดำเนินคดี โดยจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และจะมีการทำป้ายมาติดเพิ่ม เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ แนะนำนักท่องเที่ยว
ด้าน พ.ต.ท.ธนากร ธรรมเมธา สวญ.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท. สถานีตำรวจท่องเที่ยว เผยว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นเมืองท่องเที่ยว และมีโบราณสถานสวยงาม ซึ่งมักจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นจำนวนมาก แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจจะไม่ทราบประเพณีของชาวไทย จึงฝากประชาสัมพันธ์ไป หากใครพบเห็นพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวไม่เหมาะสม ก็สามารถตักเตือนได้แต่หากตักเตือนแล้วไม่หยุดทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ก็สามารถแจ้งไปยังตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ของวัด และเจ้าหน้าที่กรมศิลป์ได้ซึ่งจะอยู่ประจำวัดเพื่อคอยดูแล.
...