เกิดเหตุไฟไหม้บ้านพัก สจ. คนดัง สุพรรณบุรี หลังเพลิงสงบ พบเสียชีวิตทั้งครอบครัว 4 ศพ เพื่อนเล่าหลังทราบข่าว พยายามติดต่อ คาดติดเหล็กดัด ทำให้หนีขึ้นดาดฟ้าไม่ได้

ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อเวลาประมาณ 05.25 น. วันที่ 11 ม.ค. 68 พ.ต.ท.นิคม ขุนสะอาดศรี สว.สอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 3 คูหา 3 ชั้น ขายอุปกรณ์ไฟฟ้า-ก่อสร้าง บริเวณสี่แยกนางพิม ถนนพระพันวษา ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมืองสุพรรณบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ประสานรถดับเพลิง จากเทศบาลเมืองสุพรรณ นำรถกระเช้าสำหรับอาคารสูง และใกล้เคียง กว่า 10 คัน ไปตรวจสอบพร้อมนายวิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี รักษาการผู้กำกับ สภ.เมืองสุพรรณบุรี และนายเอกพันธ์ อินทร์ใจเอื้อ นายกเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 3 คูหา ขายอุปกรณ์ก่อสร้าง และเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่กลางตลาดเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี พบแสงไฟจากเปลวเพลิง และกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากด้านในตัวอาคารจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องทุบกุญแจล็อกประตูด้านหน้า ใส่อุปกรณ์ผจญเพลิงบุกเข้าไปด้านใน และระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้างไปห้องข้างเคียง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ

...

ตรวจสอบเบื้องต้นพบทรัพย์สินที่อยู่ภายใน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ก่อสร้างประเภทฮาร์ดแวร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด มูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

นายเอกพันธ์ อินทร์ใจเอื้อ นายกเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังพร้อมประสานหน่วยงานข้างเคียงเข้าตรวจสอบ และพยายามติดต่อเจ้าของบ้านแต่ไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อพบว่าประตูปิดจึงทำการงัดประตูบ้านเข้าไป พบเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ภายในมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว จึงเร่งทำการฉีดน้ำดับเพลิง และส่งชุดผจญเพลิงเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งสามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัดเหลือเพียงกลุ่มควันที่ยังอยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่เร่งทำการระบายควันออก เพื่อจะตรวจสอบว่ามีบุคคลตกค้างอยู่ด้านในหรือไม่ ส่วนความเสียหายมีมาก และสาเหตุคงต้องรอทางตำรวจมาตรวจสอบต่อไป

โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังระดมฉีด มีนายพูลศักดิ์ รุ่งโรจน์ชัยพร อายุ 78 ปี บิดาของ นายภูษิต อดีต สจ. เดินทางมาดูที่เกิดเหตุด้วยอาการช็อก บอกกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่รู้ว่ามีคนอยู่ภายในหรือไม่ จากนั้นก็มีญาติของ นายภูษิต ซึ่งเดินทางมาดูที่เกิดเหตุยืนยันว่า ที่เกิดเหตุมีคนอาศัย 4 คน คือ สจ.ภูษิต รุ่งโรจน์ชัยพร ภรรยา และลูกอีก 2 คน

ด้าน นางวาสนา มาตรศรี อดีต สจ.อู่ทอง ผู้สมัคร สจ.เขต 3 อำเภออู่ทอง เพื่อนสนิทกับครอบครัว สจ.ภูษิต เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ในบ้านนี้อาศัยอยู่กัน 4 คน ซึ่งหลังทราบข่าว ตนเดินทางมา ก็พยายามโทรหาทั้ง 2 คนตลอด โทรศัพท์ของ สจ. โทรติด แต่ไม่รับสาย จึงโทรหาภรรยา สจ.ภูษิต เหมือนแบตหมด ตัดสัญญาณไป ก็ตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงที่เข้าไปช่วยดับไฟในอาคาร กล่าวว่า เมื่อเข้าไปในอาคารพบเพลิงลุกไหม้จากชั้นล่างขึ้นไปสู่ชั้นบน และพบร่างผู้เสียชีวิต 4 ราย ที่ชั้น 2 ตรงบันได 1 ราย ชั้น 3 จำนวน 3 ราย ซึ่งคาดว่าติดประตูและหน้าต่างเหล็กดัด จึงไม่สามารถหนีออกสู่ด้านบนดาดฟ้าได้ จึงอยากฝากเตือนประชาชนที่ติดเหล็กดัดไว้ควรทำช่องประตูฉุกเฉินเอาไว้ด้วยเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดจะได้หลบหนีออกทัน

ซึ่งเมื่อไฟสงบและระบายควันไฟออกแล้ว เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปลำเลียงผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คนออกมา ประกอบด้วย นายภูษิต รุ่งโรจน์ชัยพร อายุ 52 ปี (อดีต ส.อบจ.สุพรรณบุรี และเป็นว่าที่ผู้สมัครด้วย) นางกนกวรรณ รุ่งโรจน์ชัยพร อายุ 49 ปี ภรรยา และลูกอีก 2 คน คือนายถิรวัตย์ รุ่งโรจน์ชัยพร อายุ 26 ปี และ นางสาววรสิริ รุ่งโรจน์ชัยพร อายุ 24 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นพ่อแม่ลูก

...

ด้าน นายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 3 ชั้น 3 คูหา เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 4 รายเป็นชาย 2 หญิง 2 อยู่ระหว่างการลำเลียงไปชันสูตร ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้เป็นอาคารที่มีเครื่องมืออุปกรณ์ค่อนข้างเยอะ อย่างไรก็ตามต้องรอผลตรวจพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง ซึ่งต้องให้อาคารเซ็ตตัวก่อน เพราะยังเป็นพื้นที่อันตราย