สุดสลด ไฟไหม้ร้านเครื่องเขียน คลอกพ่อแม่และลูก รวม 3 ศพ ขณะนอนอยู่ที่ชั้นลอยของร้าน แผงไฟชั้นล่างระเบิดเกิดไฟลุก สะเก็ดไฟไหม้สินค้าอย่างรวดเร็วโหมขึ้นชั้น 2 หนีไม่ทันเสียชีวิตยกครัว ส่วน พฐ.ลงพื้นที่เก็บหลักฐานคาดสาเหตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ก่อนเกิดเหตุชาวบ้าน ได้ยินเสียงระเบิด 2 ครั้ง แล้วเกิดไฟลุกไหม้เผาวอด
เหตุไฟไหม้ร้านเครื่องเขียนคลอก 3 ศพรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 27 ธ.ค. ร.ต.อ.อชิชชิพงษ์ ตุนา รอง สว. (สอบสวน) สภ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ รับแจ้งเหตุไฟไหม้ตึกแถวเลขที่ 129/1 หมู่ 4 ต.โกรกพระ ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ป้องกัน ดับเพลิงเทศบาลโกรกพระ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลโกรกพระและรถดับเพลิง 10 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 2 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านจำหน่ายเครื่องเขียนชื่อ “เซฟ” กลุ่มควันสีดำทะมึนพวยพุ่งออกมาจากชั้นล่าง ไฟโหมลุกลามขึ้นชั้น 2 เพื่อนบ้านต่างขนของหนีออกมาวางไว้ที่ถนนกันอย่างอลหม่าน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำอย่างต่อเนื่องนานกว่า 2 ชม.เพลิงจึงสงบ ตรวจสอบภายในที่ห้องนอนชั้นลอยพบสภาพอนาถใจ มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ ทราบชื่อนายพลจักร ทับสุข อายุ 51 ปี นางเรือนทอง ทับสุข อายุ 46 ปี และนายกรวิศวะ ทับสุข อายุ 17 ปี ทั้ง 3 คนเป็นพ่อ แม่และลูก สภาพถูกไหม้ตามลำตัวบางส่วน คาดสำลักควันเป็นเหตุให้เสียชีวิต
จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 26 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ รปภ.ของธนาคารเพื่อการ เกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาโกรกพระ อยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุเป็นผู้แจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านเซฟ จำหน่ายเครื่องเขียน และได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง จากนั้นไฟลุกไหม้สินค้าที่วางอยู่ชั้นล่าง คนในบ้านยังออกมาไม่ได้ รีบประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งฉีดน้ำดับไฟ
...
ต่อมาช่วงเที่ยง วันเดียวกัน พ.ต.อ มาโนชณ์ สวนดอกไม้ ผกก.สภ.โกรกพระ พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และเก็บหลักฐานต่างๆเพื่อสรุปว่าเกิดจากสาเหตุใด เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากก่อนเกิดเหตุมีเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น จากนั้นเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะมีควันไฟและเปลวไฟพวยพุ่งออกมาจากบริเวณหลังร้าน ขณะเดียวกัน น.ส.ชุติพร เสชัง รอง ผวจ.นครสวรรค์ พร้อมด้วยนางวัชราภรณ์ แตงหมี ปลัดจังหวัดนครสวรรค์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ ครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้กับเพื่อนบ้านที่ได้รับผลกระทบ
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่