ครอบครัวเศร้า พบร่างเด็กชายวัย 14 ปี เสียชีวิต หลังได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เช็กกล้องวงจรปิดช่วงเกิดเหตุ พบถือปืนเข้าไปในห้องนอน

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน 67 ร.ต.อ. ธนภัทร์ พงษ์สถิตย์ สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเกิดเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณร้านค้าอาหารตามสั่ง ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกตัญญู

ในที่เกิดเหตุภายในห้องนอนพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นเด็กชาย 1 ราย ชื่อเด็กชาย ชยุต อิ่มสุวรรณ อายุ 14 ปี สวมใส่ชุดนอนสีเขียว พิงอยู่กับเตียงนอนสภาพมีบาดแผลบริเวณหน้าผาก 1 นัด มีเลือดออกมาและยังพบอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ข้างกายด้านขวา 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามยาย นางณัฏฐ์นรี อิ่มสุวรรณ อายุ 60 ปี เล่าว่าผู้ตายชื่อ น้องพุทธ เรียนอยู่ระดับชั้น ม.2 โรงเรียนประจำจังหวัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองอยุธยา น้องจะอยู่กับตนเองและสามี ซึ่งเป็นตา โดยเมื่อช่วงเย็น ตาได้นอนอยู่หน้าห้องของน้อง ตอนนั้นตนก็ไม่ได้คิดอะไร และก็ได้ยินเสียงดังเหมือนปืน 1 นัด ก็ตกใจอยู่เหมือนกัน แต่พอผ่านไประยะหนึ่ง ก็เรียกน้องพุทธซึ่งอยู่ในห้อง แต่น้องพุทธไม่ได้มีขานตอบรับ จึงเปิดประตูเข้าไป แต่ลูกบิดล็อกจากด้านใน จึงได้ไปไขกุญแจห้องเข้าไปก็แทบช็อก เมื่อเห็นน้องพุทธนอนพิงอยู่กับเตียง และที่หน้าผากมีเลือดไหลออกมา

ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตนจึงตะโกนเรียกแม่และป้าของน้องพุทธซึ่งอยู่อีกบ้านอีกหลังหนึ่งมาดู ก็มาเจอปืน .38 ตกอยู่ข้างตัวของน้องพุทธ ทุกคนก็แปลกใจว่าปืนมาได้อย่างไร จึงไปเปิดกล้องวงจรปิดดูที่อยู่บนบ้านอีกหลังหนึ่ง ก็พบว่าน้องพุทธเดินขึ้นไปบนบ้าน เมื่อเวลา 17.20 น. แล้วเข้าไปในห้องก่อนจะออกมาจากห้อง แต่ก็ไม่ได้เห็นว่านำปืนออกมาซึ่งปืน .38 เป็นปืนของสามีของตนเอง เป็นปืนมีทะเบียนและเก็บไว้ในกระเป๋านานแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าน้องพุทธทำไมถึงทำแบบนี้

...

ทางด้านแม่ของน้องผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุ ตนกำลังอาบน้ำอยู่บนบ้านอีกหลังหนึ่งแล้วได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แต่ตอนนั้นคิดว่าเป็นเสียงประทัดจึงไม่ได้เอะใจอะไร สักพักได้ยินเสียงแม่ร้องกรี๊ดลั่น ตนจึงรีบปิดก๊อกน้ำแล้วฟังเสียงและบอกให้สามีไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น จนสามีไปดูและมาบอกกับตนว่าให้ทำใจ น้องพุทธเสียชีวิตแล้ว ตนเองก็ตกใจว่าเกิดเหตุได้อย่างไร แต่พอมาทราบอีกทีก็รู้ว่าน้องพุทธไปเอาปืนของตามา

ส่วนเรื่องสาเหตุนั้นน้องพุทธก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเกี่ยวกับที่โรงเรียน แต่มีมาบ่นกับคุณแม่ว่าโดนคุณแม่บ่นบ่อยเรื่องการตื่นสายหรือการเล่นเกม ซึ่งเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่น ซึ่งคุณแม่ก็เพียงแค่สอนลูก ตอนนี้ทางครอบครัวก็เสียใจ ส่วนพี่สาวของน้องพุทธก็เสียใจสงสารน้อง ตนก็ปลอบใจไปว่าน้องไปสบายแล้วลูก ส่วนเรื่องทางคดีความทางครอบครัวไม่ได้ติดใจในการเสียชีวิต

ทางพนักงานสอบสวนจึงได้สอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด โดยทางญาติของผู้เสียชีวิตไม่ติดใจในการตาย จึงมอบร่างให้กับทางครอบครัวเพื่อบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป.