หนุ่มวิ่งหนีเข้าป่ากก หลังถูกจับได้ขโมยของในร้านสะดวกซื้อ ญาติตามหาหลังหายตัวไป 3 วัน พบเป็นศพ มีร่องรอยถูกสัตว์เลื้อยคลานกัด
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 พ.ต.ท.นราธิป สุทนต์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.บางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งพบชายเสียชีวิตอยู่ภายในป่ากก ด้านหลังหมู่บ้านสินทิวาธานี ม.2 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ไปให้การสนับสนุน
ที่เกิดเหตุพบเป็นลานดินกว้างติดกับด้านหลังหมู่บ้านสินทิวาธานี ลักษณะมีบ่อน้ำเป็นป่ากกขึ้นอยู่หนาแน่น มีความสูงประมาณ 3 – 4 เมตร มีกลิ่นซากศพคลุ้งไปทั่ว ภายในป่ากก ซึ่งเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ พบศพผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อแขนยาวสีดำที่ถลกขึ้นมาจนเห็นแผ่นหลัง มีรอยสักที่แขนและขา มีรอยถูกสัตว์เลื้อยคลานกัดกิน บางส่วนเหลือแต่กระดูก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน ยังพบตัวเงินตัวทองขนาดใหญ่เดินวนเวียนไปมาใกล้กับศพที่พบ ญาติๆ พร้อมเจ้าหน้าที่ต้องมาคอยไล่ แต่ก็ไม่ยอมไปไหน
เจ้าหน้าที่ได้ลงไปนำร่างขึ้นมาอย่างทุลักทุเล เนื่องจากความมืด ประกอบกับเป็นน้ำมีโคลนต้องช่วยกันดึงขึ้นมา ตรวจสอบตามร่างกายแขนขวาถูกกัดกินเหลือแต่กระดูก ที่น่องขาทั้ง 2 ข้างถูกกัดกิน มีรอยกัดแทะตามร่างกายจำนวนมาก ภายในเสื้อแจ็คเก็ตพบกาแฟสำเร็จรูป 1 กระป๋อง ปลาส้มสำเร็จรูป 1 ถุง หมูหมัก 1 ถุง ถั่วจำนวน 2 ถุง ซึ่งเป็นสินค้าของร้านสะดวกซื้อที่ขโมยมา
...
นายสายชล จ่ายพอควร อายุ 47 ปี พี่ชาย ผู้ที่มาพบศพคนแรก รอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่พร้อมกับให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตที่พบคือนายคณาธิป จ่ายพอควร อายุ 44 ปี เป็นน้องชาย ตนเองติดตามหาน้องชายมาช่วงเย็นของวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีคนเห็นปีนกำแพงหนีออกมาด้านหลังหมู่บ้านสินทิวาธานี แล้วหายไปในป่ากก เมื่อช่วงเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา ประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย ระดมค้นหาเมื่อวันเสาร์ แล้วไม่เจอจึงหยุดค้นหาไป 1 วัน
แต่ตนตั้งใจจะมาหาทุกวัน วันนี้จึงมาเดินตามหาน้องชาย จนพบร่างของน้องชาย จำรอยสักเต็มแผ่นหลังได้ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องรายละเอียดของการที่น้องชายเข้าไปป่ารกมาก และไม่น่าจะออกมาได้ หน่วยกู้ภัยมาช่วยกันค้นหาแล้วไม่เจอ ส่วนตามร่างกายที่มีบาดแผล น่าจะถูกสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่กัด
นางสาวน้ำทิพย์ ขุดปิ่น อายุ 37 ปี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ตนเองเลิกทำงาน กลับมาถึงบ้านก็ 2 ทุ่ม แต่แชทคุยกันตลอด จน 6 โมงเย็น ก็ไม่มีการตอบกลับ คิดว่าคงพาหมามาซื้อไก่ย่าง รอเขาตามหาแล้วไม่เจอจนถึง 3 ทุ่ม จึงโทรไปสอบถามจากญาติ บอกว่าออกมาตั้งแต่ 6 โมงเย็นแล้ว แต่ตอนนี้ก็ไม่กลับมาเสียที
ตอนแรกคิดว่ารถเสีย จึงยืมรถญาติขี่ตามหาที่ที่เคยพาหมามาวิ่ง จนทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาติดตาม ว่าผู้เสียชีวิตได้ไปก่อเหตุหยิบสินค้าภายในร้านสะดวกซื้อแล้วไม่จ่ายเงิน ทิ้งรถกับสุนัขไว้ แล้ววิ่งหนีปีนกำแพงหนีออกมาในป่ากก แล้วสูญหายไป หลังเกิดเหตุได้ช่วยกันตามหาแล้ว แต่ไม่พบ ส่วนผู้เสียชีวิตเคยทำงานโรงงานอุตสาหกรรม แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่ว่างงานอยู่ ไม่เคยก่อเหตุขโมยของหรือลักทรัพย์ ยังไม่ทราบว่าสาเหตุที่ไปก่อเหตุเพราะอะไร เพราะวันนี้เป็นวันที่เขาต้องทำงานที่ใหม่วันแรกด้วย
ด้านนายปัญญา ชูมะณี เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ กล่าวว่า ตนเองได้รับแจ้งมีชายก่อเหตุลักทรัพย์ร้านสะดวกซื้อแล้ววิ่งหนีออกมาจากร้าน ปีนกำแพงหนีลงมาในบ่อน้ำที่มีป่ากกขึ้นรกมีความสูง แล้วสูญหายไป ทางญาติพยายามติดต่อตามหาแล้วไม่พบ จึงได้มีการประสานของกำลังระดมกำลัง ช่วยกันตามหาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันเสาร์ แต่ไม่พบมีรอยแนวกำแพงเป็นป่าราบ พยายามค้นหา ใช้โดรนบินก็ไม่พบร่องของการหลบหนี ไม่มีรอยต้นปรือล้มหรือแหวก
การค้นหายากลำบากมาก เพราะช่วงกลางบ่อน้ำลึกมาก และพบเห็นมีตัวเงินตัวทองหลายตัวขนาดใหญ่ สันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเดินหลบหนีจนหมดแรงไป หรือถูกสัตว์มีพิษกัด หรือจมน้ำกลางบ่อ หาทางออกไม่ได้แล้วจนถูกสัตว์เลื้อยคลานลากศพมากัดกินที่บริเวณคันดินริมบ่อจนมีญาติมาพบดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ปทุมธานี ก่อนจะมอบให้ญาติรับร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป.