เสียงร่ำไห้ระงมร่วมส่งดวงวิญญาณครูและนักเรียนรวม 23 ร่าง เหยื่อรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ เข้าร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพอย่างโศกเศร้า เจ้าหน้าที่เคลื่อนศพเผาแบ่งออกเป็น 4 ชุด ชาวบ้านต่างมาร่วมไว้อาลัยนับหมื่นคน บางรายเหมารถข้ามจังหวัดเพื่อมาร่วมงาน เจ้าหน้าที่เก็บเถ้าอัฐิบรรจุในผ้าขาวส่งให้ญาติ ส่วน ด.ญ.14 ปี แพทย์แจงอาการดีขึ้นทีมจิตแพทย์เตรียมเยียวยา ขณะที่กรมขนส่งฯเรียกตรวจรถบัสทั่วประเทศฟรี กำหนดตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 พ.ย.
ประชาชนทั่วสารทิศต่างมาร่วมไว้อาลัยงานพระราชทานเพลิงศพครูและนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี รวม 23 ร่าง หลังเกิดเหตุรถบัสโดยสารของบริษัทชินบุตร ทัวร์ ทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี เกิดเหตุไฟไหม้วอดทั้งคัน ขณะไปทัศนศึกษาที่กรุงเทพฯ เหตุเกิดบนถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณหน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ช่วงสายวันที่ 1 ต.ค. สาเหตุจากแก๊ส NGV รั่วไหลคลอกครูและนักเรียนอย่างอนาถ เป็นเหตุสะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศ สำหรับรายชื่อครูและนักเรียนที่เสียชีวิต เป็นเด็กนักเรียนจำนวน 20 คน และครู 3 คน รวมทั้งหมด 23 คน แยกเป็นนักเรียนชั้น ป.1 ได้แก่ ด.ช.ธีระพงศ์ เพียรกสิวิทย์, ด.ญ.ปฏิณญา เทศจำปา และ ด.ญ.อัจฉรา จำนงค์สังข์ นักเรียนชั้น ป.2 ได้แก่ ด.ช.กฤษดา พุ่มทอง, ด.ช.สิริณัฏฐ์ แก้วใจ ชั้น ป.3 ได้แก่ ด.ช.ณัฐพงศ์ ขำกระแสร์, ด.ช.พัสกร พลีดี, ด.ช.พีรภัทร วังพลับ, ด.ช.องอาจ ใจแสน, ด.ช.อาชวิน วงษ์ดิษฐ์ และ ด.ญ.ธิติพา โฉมศรี ชั้น ป.4 ได้แก่ ด.ช.ชาคริต โยศรีธา, ด.ช.ณฐพัชร์ วังพลับ, ด.ช.ธนกฤต โพธิ์ตุ้ย, ด.ช.บวรศักดิ์ ถึงทรัพย์, ด.ช.พีรฉัตร บุญชื่น และ ด.ช.ฤตธวัช สืบสายจันทร์ นักเรียน ม.3 ได้แก่ ด.ญ.ปาณรินทร์ ชูประเสริฐ, ด.ญ.พิมชนก มีศรี และ ด.ญ.สุนิชา ยอดนิโรจน์ ครู 3 คน คือ ครูกนกวรรณ ศรีผง, ครูพิมพ์ทอง สมบัติ และครูสรินญา หอมเกศร (ฝึกสอน)
...
พระสังฆราชประทานพระอนุเคราะห์
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เปิดเผยว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานอนุเคราะห์ตามที่ เกิดอุบัติภัยแก่รถโดยสารของครูและนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม เมื่อวันอังคารที่ 1 ต.ค.2567 ทำให้มีครูและนักเรียนเสียชีวิตจำนวน 23 คน ความทราบตามข่าวสารที่ปรากฏแล้วนั้น เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงปลงธรรมสังเวช และโปรดประทานผ้าไตรเพื่อการบังสุกุลอุทิศแก่ผู้วายชนม์รายละ 1 ไตร พร้อมทั้งมีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์รายละเท่าจำนวน 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ประทานแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพื่อช่วยการบำเพ็ญกุศลศพทุกราย โอกาสนี้ มีรับสั่งประทานกำลังใจแก่ครอบครัวญาติมิตรของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบทางจิตใจจากเหตุการณ์นี้ เพื่อเป็นส่วนทุเลาความเศร้าโศกหม่นหมอง จงถึงพร้อมด้วยขันติ สติ และปัญญา ในอันที่จะฟื้นฟูสรรพกำลังให้กลับคืนมาอย่างเข้มแข็งมั่นคงสืบไป
“สันตะปาปา” ทรงเสียพระทัยอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้เว็บไซต์ของสำนักงานฝ่ายสื่อแห่งสันตะสำนักแห่งนครรัฐวาติกันเผยแพร่แถลงการณ์ของสมเด็จพระสันตะปาปา ผ่านโทรเลขลงนามโดยพระคาร์ดินัล ปิเอโตร ปาโรลิน เลขาธิการแห่งนครรัฐวาติกัน มีใจความระบุว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเสียพระทัยอย่างยิ่ง เมื่อทรงทราบถึงการเสียชีวิตของนักเรียนและครูจากอุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้นชานเมืองของกรุงเทพมหานคร พระองค์ทรงอธิษฐานเพื่อบรรเทาเยียวยาจิตใจผู้ที่กำลังทุกข์ระทมต่อการสูญเสียในโศกนาฏกรรมครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกครอบครัว ทรงปิดท้ายข้อความโดยทรงขอฝากวิญญาณผู้วายชนม์ไว้ในพระเมตตาของพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ และเหนือสิ่งอื่นใดสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงขอพระเจ้าโปรดประทานพรแห่งพละกำลังความเข้มแข็ง ความสงบสุขและปลอบประโลมแก่ทุกคน
ระดมกำลังเตรียมความพร้อม
เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 8 ต.ค. บรรยากาศที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี จิตอาสาต่างเร่งจัดเตรียมสถานที่พระราชทานเพลิงศพทั้ง 23 ร่างที่บริเวณสนามฟุตบอลมีเนื้อที่ 7 ไร่ จัดเตรียมเตาเผา 7 เตา มีเตาน้ำมันสำรองอีก 2 เตา ช่วงเช้าเริ่มมีฝนตกโปรยปรายลงมา คนที่มาร่วมงานต่างเศร้าโศกเหมือนฟ้าร่ำไห้กับนักเรียนและครูที่เสียชีวิตทั้ง 23 ร่าง มีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทยและ สส.จังหวัดอุทัยธานี เดินมาตรวจความเรียบร้อยบริเวณรอบงาน และมีจิตอาสาร่วม 1,000 คน ตำรวจ 500 นาย และอาสากู้ภัยมูลนิธิต่างๆ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน 300 นาย มาดูแลอำนวยความสะดวก นายชาดากำชับเจ้าหน้าที่ให้ช่วยกันอำนวยความสะดวกและดูแลงานให้ดีที่สุด กำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพจะเริ่มในช่วงเวลา 12.30 น. พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานประกอบพิธีพระราชทานเพลิง
เริ่มพิธีบวงสรวงหลังเตาเผา
เวลา 08.29 น. นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผวจ.อุทัยธานี และนายเนรมิตร ศรีเมือง สัปเหร่อไฮโซ ร่วมกันทำพิธีบวงสรวงบริเวณหลังเตาเผาเพื่อไหว้เจ้าที่เจ้าทางและไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ มีเครื่องเซ่นไหว้ หัวหมู ไก่ต้ม ขนม และอาหารคาว ที่โต๊ะทำพิธีมีมีดหมอและมะพร้าวจะนำมาทำพิธีล้างหน้าศพ นายเนรมิตร ศรีเมือง และทีม เจ้าพิธีกรรมหรือทีมสัปเหร่อร่วมกันทำน้ำมนต์ศาลเป็นความเชื่อที่สืบต่อกันมาตั้งแต่โบราณ เจ้าพิธีกรรมหรือสัปเหร่อที่มาร่วมงานเคยทำพิธีเผาศพสึนามิและเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงเด็กที่ จ.หนองบัวลำภูมาแล้ว ขณะเดียวกัน ประชาชนทยอยเดินทางมานั่งในเต็นท์โดมหน้าเตาเผา คณะจัดงานจัดเตรียมพัดเป็นของที่ระลึกในงาน คาดว่าในช่วงทำพิธีจะมีคนมาร่วมงานนับหมื่นคน
...
“เศรษฐา” มาร่วมฟังเทศน์
ที่อาคารอเนกประสงค์ ร.ร.วัดเขาพระยาสังฆาราม นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาฟังเทศน์ในพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทานออกเมรุ มีพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูปขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์ พระสวดพระพุทธมนต์จบประธานในพิธีจุดเทียนดูหนังสือเทศน์ให้เจ้าหน้าที่เชิญไปตั้งที่ธรรมาสน์ ประธานในพิธีจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสำหรับฟังธรรม ให้ผู้แทนญาติผู้วายชนม์ จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าหีบศพ สำหรับศพฟังธรรม พระสงฆ์แสดงธรรมเทศนาขึ้นธรรมาสน์ เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีล เจ้าหน้าที่อาราธนาธรรม พระสงฆ์แสดงธรรมเทศนาจบ ประธานในพิธีประเคนจตุปัจจัยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ พระสงฆ์แสดงธรรมเทศนา และพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป ถวายพรพระ เมื่อพระสงฆ์ถวายพรพระจบ ประธานในพิธีจะมายังสนามฟุตบอลเพื่อร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ
...
จัดพิธีเคลื่อนร่างเป็น 4 ชุด
สำหรับพิธีเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตออกเมรุมายังบริเวณสถานที่ตั้งเตาเผา แบ่งชุดในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพเป็น 4 ชุด ชุดที่ 1 และชุดที่ 2 นำนักเรียนชุดละ 7 ร่าง, ชุดที่ 3 นักเรียน 6 ร่าง และชุดสุดท้ายจะเป็นคุณครู 3 ร่าง พิธีพระราชทานเพลิงศพคาดว่าจะใช้เวลาชุดละ 1 ชั่วโมง จากนั้นจะเก็บอัฐิจนครบทั้ง 23 ร่าง ผ้าขาวที่ใช้เก็บอัฐิครอบครัวของผู้เสียชีวิตขอให้ใช้ผ้าขาวที่ใช้สำหรับการตัดเย็บชุดนักเรียนมาใช้เก็บอัฐิ
พระราชทานสงเคราะห์ครอบครัว
เวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานประกอบพิธีพระราชทาน เพลิงศพ 23 ร่าง มี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 เข้าร่วมพิธีและประชาชนกว่า 1 หมื่นคนมาร่วมไว้อาลัย ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรม ราชานุเคราะห์ และพระราชทานเพลิงศพแก่ผู้เสียชีวิตเป็นกรณีพิเศษ รวมทั้งพระราชทานถุงพระราชทาน และเงินสงเคราะห์ในการศพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และพระราชทานทุนการศึกษาแก่บุตรของครูที่เสียชีวิต โดยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
เริ่มเผาศพชุดที่ 1 เสียงร่ำไห้ระงม
เริ่มเผาชุดที่ 1 เจ้าหน้าที่นำโลงศพ 7 ร่างใส่ราชรถเข็นมาถึงที่ประกอบเตาเผา บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ครอบครัวของผู้เสียชีวิตร้องไห้กันระงมและเสียใจกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับมาของบุคคลอันเป็นที่รัก บางครอบครัวกอดรูปของผู้เสียชีวิตไว้แน่น บ้างก็กอดสิ่งของเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิต บางรายเป็นลมล้มทั้งยืน มีเจ้าหน้าที่คอยปฐมพยาบาลอย่างใกล้ชิด พิธีพระราชทานเพลิงศพ มีประธานชุดแรก 7 เตา ได้แก่ เตาที่ 1 น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เตาที่ 2 นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผวจ.อุทัยธานี เตาที่ 3 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย และ สส.อุทัยธานี เตาที่ 4 นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี เตาที่ 5 นายสนธิชัย จันทร์พานิช หัวหน้าศาลจังหวัดอุทัยธานี เตาที่ 6 นางเอมอร แดงบรรจง หัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานี และเตาที่ 7 นายวิฑูรย์ สิรินุกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ขณะทำพิธีมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ประชาชนเข้าแถววางดอกไม้จันทน์ ใช้เวลาการเผาร่างชุดแรกกว่า 3 ชม.
...
ชุดที่ 2 เริ่มเข้าเตาเผาญาติเป็นลม
เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตั้งแถวทั้ง 2 ข้างทางเป็นแนวยาว ตั้งแต่อาคารอเนกประสงค์ไปจนถึงสนามฟุตบอลที่เป็นจุดเตาเผาเพื่อร่วมส่งดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต จากนั้นเคลื่อนโลงศพนักเรียนชุดที่ 2 รวม 7 ร่างมาที่เตาเผา มีสามเณรบวชหน้าไฟเดินนำหน้าญาติเดินตามระหว่างทางบางคนร่ำไห้จนเป็นลม เจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาปฐมพยาบาล ประธานนำไฟพระราชทานจุดที่เผา เจ้าหน้าที่ยกโลงศพเข้าเตาเผา ญาติเข้าไปดูร่างครั้งสุดท้ายเสียงร่ำไห้เสียงดัง เสียงวงปรี่พาทย์บรรเลงเพลงร่วมส่งดวงวิญาณาณขึ้นสู่สรวงสวรรค์ เจ้าหน้าที่ปิดประตูเตาเริ่มเผาศพชุดที่ 2 ใช้เวลาประมาณ กว่า 2 ชม. ส่วนชุดที่ 3 เป็นศพนักเรียน 6 ร่าง และชุดที่ 4 เป็นครูอีก 3 ร่าง คาดว่าจะเผาเสร็จในเวลา 22.00 น. จากนั้นเจ้าหน้าที่นำส่งอัฐิให้กับญาติต่อไป
แถลงการณ์อาการ ด.ญ.14
แถลงการณ์สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ มหาราชินี กรมการแพทย์ เรื่อง ผู้ป่วยเด็กหญิง 14 ปี เกิดเหตุเพลิงไหม้รถโดยสารทัศนศึกษา (ฉบับที่ 6) สืบเนื่องจากผู้ป่วยเด็กหญิงไทย อายุ 14 ปี ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี เกิดเพลิงไหม้บนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 และเข้ารับการรักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์นั้น จากการตรวจรักษาของวันที่ 8 ตุลาคม 2567 พบว่าอาการดีขึ้น บาดแผลไฟไหม้ทั้งหมดดีขึ้น ตอบสนองต่อการรักษา ไม่พบการติดเชื้อ ไม่มีปัญหาข้อติดยึด สามารถใช้งานมือ และแขนทั้ง 2 ข้างได้ปกติ ผลการประเมินด้านจิตใจ ผู้ป่วยมีอารมณ์คงที่ ผ่อนคลายมากขึ้น นอนหลับได้ ทั้งนี้ทีมจิตเวชจะดำเนินการประเมินด้านจิตใจผู้ป่วย และญาติอย่างต่อเนื่อง และติดตามอาการเป็นระยะต่อไป โดยสรุปผลการรักษาเป็นที่พึงพอใจของทีมแพทย์ อย่างไรก็ตามการรักษาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุไฟไหม้นั้น ต้องใช้เวลาในการรักษาและฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ ขอขอบพระคุณทุกท่านในความห่วงใยสุขภาพอาการของเด็ก ทางทีมแพทย์และพยาบาลของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ จะให้การดูแลรักษาเด็กอย่างเต็มที่
ด.ญ.7 ขวบมีแผลไหม้ลำตัวระดับ 2
ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ออกแถลงการณ์อาการของเด็กหญิง อายุ 7 ขวบ ทีมกุมารแพทย์แจ้งว่า อาการทั่วไป ไฟไหม้ใบหน้าและลำตัว แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 13%) สัญญาณชีพปกติ ผู้ป่วยหายใจผ่านท่อช่วยหายใจโดยการใช้เครื่องช่วยหายใจ สามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจ สามารถสื่อสารตามความต้องการ เปลี่ยนการให้ยาแก้ปวดและยานอนหลับจากทางหลอดเลือดดำเป็นการผ่านสายให้อาหารทางจมูก วางแผนถอดท่อช่วยหายใจวันพรุ่งนี้หลังจากเข้าห้องผ่าตัดเพื่อทำแผล ผู้ป่วยรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ดี ปัสสาวะออกปกติ ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้างเพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน ไม่มีไข้หลังให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำครบตามกำหนด แผลหน้า ปาก หู ยุบบวมชัดเจน ไม่มีลักษณะการติดเชื้อ แผลมือซ้ายคงที่ แผลมือขวามีสีคล้ำบางส่วน จะทำการตัดหนังตายและเก็บตัวอย่างเพาะเชื้อพรุ่งนี้ (9 ต.ค.67) ในห้องผ่าตัด ส่วนทีมจักษุแพทย์ แจ้งว่า หลับตาลืมตาตามสั่ง เปลือกตายุบบวม ไม่มีขี้ตา เยื่อรกและ corneal shield อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม แผนการรักษาพรุ่งนี้ (9 ต.ค.67) ไปพิจารณาเปิดแผลและประเมินในห้องผ่าตัด และเตรียมปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด วางเยื่อหุ้มรก เพื่อกระตุ้นการหายของผิวเยื่อตาให้ดีขึ้น
ด.ญ.9 ขวบ เข้าผ่าตัดปลูกถ่ายเซลล์
ส่วนอาการของเคสเด็กหญิงอายุ 9 ขวบนั้น อาการทั่วไป ไฟไหม้ใบหน้า คอ แขนและมือทั้ง 2 ข้าง แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 30%) สัญญาณชีพปกติ ผู้ป่วยยังคงหายใจผ่านท่อช่วยหายใจโดยการใช้เครื่องช่วยหายใจ สามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจ สามารถสื่อสารความต้องการได้ เปลี่ยนการให้ยาแก้ปวดและยานอนหลับจากทางหลอดเลือดดำเป็นการผ่านสายให้อาหารทางจมูก วางแผนถอดท่อช่วยหายใจวันพรุ่งนี้ หลังจากเข้าห้องผ่าตัดเพื่อทำแผลรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ดี ระดับเกลือแร่ฟอสฟอรัสและแมกนีเซียมต่ำ แก้เกลือแร่ฟอสฟอรัสผ่านสายให้อาหารทางจมูก แก้เกลือแร่แมกนีเซียมผ่านทางหลอดเลือด ภาวะน้ำเกินดีขึ้น ได้รับยาขับปัสสาวะทางหลอดเลือดดำ ยังคงมีอาการไข้สูง ให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง เฝ้าระวังภาวะติดเชื้อรุนแรง ปรับเปลี่ยนยาฆ่าเชื้อที่แรงขึ้น วันนี้จะเพิ่มสารอาหาร และให้สารโปรตีนเพิ่มขึ้น วางแผนเข้าห้องผ่าตัดพร้อมทีมจักษุ ศัลยแพทย์จะผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อตายส่วนบนออก ทีมจักษุแพทย์แจ้งว่า หลับตาลืมตาตามสั่ง เปลือกตายุบบวม ไม่มีขี้ตา ตาขวาเยื่อรกเริ่มละลาย กระจกตาด้านบนใสขึ้นมาก เห็นรายละเอียดม่านตาภายใน คนไข้เริ่มมองเห็นนับนิ้ว ตาซ้ายเยื่อรกและ corneal shield อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม แผนการรักษา พรุ่งนี้เข้าห้องผ่าตัดเพื่อประเมินแผล และเตรียมปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด วางเยื่อหุ้มรก เพื่อกระตุ้นการหายของผิวเยื่อตาให้ดีขึ้น
พม.มอบเงินเยียวยาครอบครัว
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ขณะนี้ พม. ระดมทีมเจ้าหน้าที่ทีมพม.จ.อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ สุพรรณบุรี และสิงห์บุรี เข้าไปทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพช่วยเหลือและเยียวยาจิตใจครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 36 ราย สำหรับการช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ต่างๆ ทาง พม. พิจารณาเป็น 1.เงินสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉินจำนวน 23 ครอบครัว 2.เงินสงเคราะห์เด็ก 25 ราย 14 ครอบครัว 3.เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุในภาวะยากลำบากจำนวน 21 ครอบครัว 4.โครงการปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุให้เหมาะสมและปลอดภัย จำนวน 1 ครอบครัว และ 5.เงินสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการจำนวน 2 ราย กรณีเด็กในครอบครัวยากจนจะได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัวอุปถัมภ์ค่าเลี้ยงดูหรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับเด็ก เช่น ค่ารถไปหาหมอ ค่าเครื่องอุปโภคบริโภค ค่าใช้จ่ายทางการศึกษาและอุปกรณ์การเรียนตามระดับชั้นอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกายอุปกรณ์แก่เด็กพิการและทุพพลภาพ เป็นต้น
ขส.เรียกตรวจรถบัสทั่วประเทศ
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมเดินหน้ามาตรการด้านความปลอดภัยสูงสุดสำหรับรถโดยสารที่ติดตั้งก๊าซ CNG และ LPG ออกประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสภาพรถตามเงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบการขนส่งสำหรับรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัด หรือก๊าซปิโตรเลียมเหลวเป็นเชื้อเพลิง พ.ศ.2567 เพื่อกำหนดให้ผู้ประกอบการรถโดยสารที่ใช้ก๊าซ CNG และ LPG ทั่วประเทศ ต้องนำรถเข้ามาตรวจสภาพรถ ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพ มหานคร พื้นที่ 1-5 สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดสาขา มาตรฐานการตรวจสภาพรถต้องตรวจผ่านตาม Check list อาทิ เครื่องอุปกรณ์และส่วนควบต้องมีความมั่นคงแข็งแรง ไม่ชำรุด เช่น ถังก๊าซต้องไม่บุบ บวม ผุกร่อน เหล็กรัดถังและสกรูยึดขาถังต้องยึดอย่างมั่นคงแข็งแรง ตัวถังก๊าซต้องไม่หมดอายุตามวันที่ผู้ผลิตกำหนด หมายเลขถังก๊าซและจำนวนถังก๊าซต้องตรงกับที่ปรากฏอยู่ในระบบงานตรวจสภาพรถของกรมฯ รวมถึงตรวจสอบอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย
ประสาน ศธ.งดใช้รถแก๊สทัศนศึกษา
นายจิรุตม์กล่าวว่า สำหรับการตรวจสภาพรถโดยสารในพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องด้วยมีปริมาณรถมาก กรมการขนส่งทางบกจัดทำแผนบริหารจัดการรถที่เข้าตรวจสภาพเพื่อบรรเทาการจราจรไม่ให้ติดขัด ดังนี้ 1.รถโดยสารไม่ประจำทางขนาดใหญ่ (CNG) +รถตู้/รถมินิบัส ไม่ประจำทางและประจำทาง (CNG) เฉพาะใน กทม. ให้ตรวจสภาพรถให้แล้วเสร็จภายใน 31 ต.ค.2567 2.รถโดยสารประจำทางขนาดใหญ่ (รถบัส CNG) ให้ตรวจสภาพรถให้แล้วเสร็จภายใน 30 พ.ย.2567 3.รถที่ติดตั้ง (LPG) ให้ตรวจสภาพรถ ให้แล้วเสร็จภายใน 30 พ.ย. 2567 ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ในกรณีที่โรงเรียนจะจัดทัศนศึกษาและเดินทางด้วยรถโดยสาร ขอความร่วมมืองดเว้นการใช้รถโดยสารในกลุ่มดังกล่าวในการเดินทางจนกว่ามาตรการตรวจรถ โดยสารนี้จะแล้วเสร็จ เพื่อความปลอดภัยรวมถึงจะบูรณาการร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ สถานศึกษาทั่วประเทศ ในกรณีมีความจำเป็นต้องใช้รถเช่าเหมาหรือรถโดยสารไม่ประจำทาง (30) นำนักเรียนไปทัศนศึกษาหรือเดินทางนอกพื้นที่ ขอให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบความพร้อมของรถ และซักซ้อมมาตรการความปลอดภัยก่อนออกเดินทางทุกครั้ง
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่