อนุทิน นำทีมตรวจที่เกิดเหตุเครื่องบินเล็กตกโหม่งโลก หลังวัดเขาดิน อ.บางปะกง เสียชีวิต 9 ศพ บอกในฐานะผู้เชี่ยวชาญการบิน สงสัยทำไมถึงไม่ร่อน ทั้งที่หากเครื่องขัดข้องก็สามารถร่อนลงได้ ล่าสุดพบภาพจากกล้องวงจรปิดชาวบ้าน เห็นเครื่องตกในแนวดิ่ง 90 องศา และไม่มีการระเบิดก่อนถึงพื้น
บ่ายวันที่ 23 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดของชาวบ้านในพื้นที่อำเภอบางปะกง สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่เครื่องบินเล็กตก ร่วงลงสู่พื้นดินในแนวดิ่ง โดยไม่มีการระเบิดแต่อย่างใด โดยล่าสุดมีชิ้นเนื้อที่สามารถนำขึ้นมาได้วันนี้อีกจำนวน 28 ชิ้น นำส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ 17 ชิ้น เหลืออีก 11 ชิ้น ที่ฝากไว้ที่โรงพยาบาลพุทธโสธร
โดยก่อนหน้านั้น เวลา 11.00 น. วันที่ 23 ส.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การค้นหาซากเครื่องบินเล็ก ร่างผู้โดยสารและนักบิน ที่ตกในพื้นที่ หมู่ 6 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ณ จุดเกิดเหตุ โดยมี นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์บัญชาการ ให้การต้อนรับและให้ข้อมูล
...
สถานการณ์ปัจจุบันดำเนินการค้นหาผู้ประสบอุบัติเหตุตามแนวทางที่ คณะกรรมการสอบสวนกรณีอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักร (AAIC) กำหนด ปรากฏว่าพบเศษชิ้นส่วนของมนุษย์จำนวน 6 ราย นำส่งเศษชิ้นส่วนดังกล่าวไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ทั้งนี้ได้ยุติการค้นหาเมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ซึ่งคาดว่าผู้โดยสารและลูกเรือ จำนวน 9 คน เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นักบินชาวไทย 2 ราย ลูกเรือชาวไทย จำนวน 2 ราย นักท่องเที่ยวชาวจีนสัญชาติจีน จำนวน 5 ราย ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานจุดเกิดเหตุมีสภาพเป็นป่าแสม มีโคลน และน้ำท่วมขัง และมีแนวต้นไม้ที่สูง ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ส่องสว่างได้อย่างเต็มที่
นายพงษ์เทพ ศิริสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการปฏิบัติการบินเครื่องบินสำนักงานคณะกรรมการสอบสวนกรณีอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักร (AAIC) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการเก็บกู้ซากเครื่องบินลำเล็กที่เกิดเหตุเครื่องบินตกในพื้นที่อำเภอบางปะกง (22 ส.ค. 67) ว่า ขณะนี้สามารถเก็บกู้เศษซากเครื่องบินลำที่เกิดเหตุได้แล้วกว่า 30% ซึ่งต้องรอการเก็บกู้ให้ครบ หรือให้ได้ชิ้นส่วนมากที่สุด เนื่องจากเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นเครื่องบินขนาดเล็กไม่มีกล่องดำ มีเพียงกล่องสำหรับการป้อนข้อมูล อีกทั้งไม่มีพยานบุคคลที่รอดชีวิตจากเหตุที่เกิดขึ้น จึงต้องอาศัยพยานวัตถุและพยานแวดล้อม รวมถึงประวัติการซ่อมบำรุงของเครื่องบิน ในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงและตั้งสันนิษฐานสาเหตุของการเกิดเหตุได้ในลำดับถัดไป
ทั้งนี้หากมีบุคคลในพื้นที่มีพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด คำให้การจากผู้เห็นเหตุการณ์ หรือมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องสามารถแจ้งได้ที่ AAIC หรือติดต่อที่ตนเองได้เลยที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-6888-9777 ทุกข้อมูลที่เกี่ยวข้องล้วนมีประโยชน์ต่อการนำมาสันนิษฐาน เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เหตุในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในอนาคต
นอกจากนี้ขอความร่วมมือหากพบเห็นชิ้นส่วนเครื่องบิน แจ้งได้ที่ศูนย์อำนวยการเหตุฯ ณ บริเวณพื้นที่เกิดเหตุ หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ควรนำไปเก็บไว้ เพราะมีความผิดตามกฎหมาย
นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังดูพื้นที่เกิดเหตุ ระบุว่า ขณะนี้พบชิ้นส่วนมนุษย์แล้ว แต่ยังไม่ครบ และยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นชิ้นส่วนใคร เพราะมีการกระจายของชิ้นส่วนมนุษย์ รวมถึงชิ้นส่วนเครื่องบิน ซึ่งมองว่าการค้นหาไม่มีอุปสรรคปัญหาอะไร และต้องชื่นชมชาวบ้านที่มีคำให้การของพยานแวดล้อมต่างๆ และมีสมาคมกู้ภัย ผู้ใหญ่บ้าน มานำอุปกรณ์เข้าช่วยเหลือ ส่วนสาเหตุต้องรอผู้เชี่ยวชาญมาพิสูจน์จริงๆ และเชื่อว่าจะสามารถสรุปได้ โดยต้องขอความร่วมมือไปที่ FAA ด้วย เพราะเป็นผู้ผลิตเครื่องบินลำดังกล่าว คาดว่าจะมีการส่งตัวแทนมาช่วยพิสูจน์หาสาเหตุ ซึ่งชิ้นส่วนทั้งหลายส่วนใหญ่แหลกละเอียด กู้มาได้ประมาณ 40% แต่ไม่มีส่วนไหนที่คงสภาพอยู่ เป็นสิ่งที่น่าเศร้าสลด ทำให้ต้องหาสาเหตุให้ได้ว่าทำไมเครื่องถึงตกมาลักษณะนี้ เพราะเครื่องบินต้องร่อน แต่จากการทิ่มลงมาคือเครื่องบินไม่ได้ร่อนเป็นฟรีฟอร์ จึงต้องหาสาเหตุ ต้องรอสรุปสาเหตุ และต้องดูเครื่องขึ้นที่ระดับเท่าไร มีการเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาอย่างไร มีการดีแคลร์เครื่องยนต์อย่างไร ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องขยายผลต่อไป ขณะเดียวกันยังต้องสอบปากคำพยานแวดล้อมที่พบเห็นมาประกอบการวิเคราะห์ เนื่องจากเป็นเครื่องบินขนาดเล็ก ไม่มีกล่องดำ ทั้งนี้ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการบิน ตนเองก็สงสัยว่าทำไมไม่ร่อน แต่ก็ชาวบ้านบอกว่าได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังมากแล้วตุบ เท่ากับเครื่องยนต์ยังทำงานอยู่ ดังนั้นต้องหาสาเหตุว่าชิ้นส่วนใดชำรุดบกพร่องหรือไม่ ซึ่งก็คงต้องไปล้างดินที่เคลือบส่วนประกอบเครื่องบิน และนำมาประกอบหาสาเหตุ
...
นายอนุทิน ยังบอกอีกว่า เครื่องบินลำนี้ขอบินไว้ที่ความสูง 5,000 ฟิต หรือประมาณ 1 กิโลครึ่งจากพื้นดิน เพราะเป็นเครื่องใบพัดเล็ก ไต่สูงมากไม่ได้ ซึ่งระยะนี้ก็เพียงพอสำหรับการร่อนลง ดังนั้นคงต้องดูหลายอย่างว่าทำไมขาดการทรงตัวบังคับไม่ได้ เพราะปกติกัปตันเป็นนักบินชั้นครู ต้องทราบลักษณะภูมิประเทศอยู่แล้ว รวมถึงมีการบินในทุกวันด้วย
“การตก เรียกว่าร่วง ไม่ได้ร่อนลงมา ที่ความเร็วสุดท้ายน่าจะ 70-80กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะเครื่องบินอัดลงไปด้วยความลึก ปักลงไปเลย รวมถึงต้นไม้ไม่มีรอยถูกตัดร่อนลงเลย ส่วนข้อสงสัยที่ว่าเกิดจากสภาพเครื่องบินเก่าหรือไม่นั้น สภาพของเครื่องบินใช้คำว่าเก่าไม่ได้ เพราะเครื่องบินจะวัดจากการบำรุงรักษา เมื่อชิ้นส่วนไหนครบระยะเวลาใช้งานก็ต้องเปลี่ยนตามกำหนด แม้จะยังใช้งานได้อยู่ก็ตามตรงนี้จึงไม่มีความน่าห่วงใย เพราะช่างเองจะไม่ยอมปล่อยให้ใช้อุปกรณ์อะไรที่ครบรอบเวลาแล้วแน่นอน และจะต้องเปลี่ยนทั้งหมดแม้จะยังใช้งานได้ ดังนั้นจึงจะต้องไปตรวจสอบว่าเกิดจากอะไร ส่วนจะกระทบกับการท่องเที่ยวหรือไม่นั้น มองว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ และเราต้องประเมินความเสี่ยงซึ่งก็มั่นใจว่าบริษัทผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามระเบียบ ไม่มีใครละเมิดกฎระเบียบการบินที่ค่อนข้างเข้มมาก และทั้งหมดก็คงต้องให้รอผลการสอบสวนก่อน ซึ่งคิดว่าไม่นาน หากได้ชิ้นส่วนมาครบก็จะนำไปจำลอง แล้วเชื่อว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติก็จะมาร่วมกันตรวจสอบอีกทั้งเครื่องบินมีประกัน ก็จะมีการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายบุคคลที่ 3 อยู่แล้ว ส่วนกรณีที่เจอยาในกระเป๋าของกัปตันนั้น คงต้องส่งไปให้หมอตรวจสอบเช่นกันว่าเป็นยาอะไร”.