สท.คลองหลวง รวมตัวยื่นหนังสือถึง “อนุทิน” ติดตามผลการพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีคลองหลวง ของ “เอกพจน์ ปานแย้ม” หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด และแจ้งข้อหาทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง ผวจ.ส่งเรื่องไปกระทรวงมหาดไทยแล้ว แต่ยังไม่มีคำสั่งลงมา ส่วนเจ้าตัวก็ยังมาสั่งให้จนท.เซ็นหนังสือ หวั่นซ้ำรอยกรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์
วันที่ 5 สิงหาคม 2567 ที่เทศบาลเมืองคลองหลวง ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี นายวรเชษฐ บุญคุ้ม ประธานสภาเทศบาลเมืองคลองหลวง นายชัยวัฒน์ ยิ่งยวด สมาชิกสภาเทศบาลฯ และ สท.คลองหลวง เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปที่กระทรวงมหาดไทยพร้อมทนายความและ สท. ทั้งหมด 9 คน เพื่อยื่นหนังสือให้กับ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ติดตามความคืบหน้ากรณี นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง เจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้เกี่ยวข้อง ทุจริตถุงยังชีพตามที่ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลควมผิด
สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ไต่สวนและวินิจฉัยชี้มูลความผิดเป็นจนเสร็จสิ้นกระบวนความแล้ว โดยได้มีมติให้นายเอกพจน์ ปานแย้ม นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวงพ้นจากตำแหน่ง หรือถอดถอน ฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลย ไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ จึงได้เดินทางมายื่นหนังสือติดตามความคืบหน้าที่ศูนย์ดํารงธรรมกระทรวงมหาดไทย โดยมีหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รับหนังสือแทนรัฐมนตรีกระทรวงไทย
นายชัยวัฒน์ ยิ่งยวด สมาชิกสภาเทศบาลเมืองคลองหลวง กล่าวว่า “ผมในฐานะหน่วยงานเทศบาลฯ เป็นผู้ร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของนายกเทศมนตรีฯ วันนี้ได้มาติดตามเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างถุงยังชีพ โดยได้ทราบว่าการจัดซื้อจัดจ้างดังกลาวทาง ป.ช.ช. ได้ชี้มูลแล้ว โดยส่งให้ผู้ที่มีอำนาจคือ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ซึ่งได้รับหนังสือจาก ป.ป.ช. ต่อมาทราบว่าท่านได้ส่งเรื่องไปที่กระทรวงมหาดไทย ผมจึงได้มาติดตามเรื่องการชี้มูลของ ป.ป.ช.”
...
ด้านนายสิรภัทร กาฬสิงห์ อดีตนิติกรชำนาญการ เทศบาลเมืองคลองหลวง กล่าวว่า “ผมถูก ป.ป.ช.ชี้มูลพร้อมนายเอกพจน์เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา ต่อมามี ผอ.ช่าง ผอ.คลัง ได้มาปรึกษากับผมว่า ท่าน(เอกพจน์)ยังมาวุ่นวายก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานประจำ ผมจึงกลัวว่าเพื่อนๆ จะโดนเหมือนผมเรื่องถุงยังชีพ ปัจจุบันยังมีเรื่องการดำเนินการสร้างเขื่อนถนนเลียบคลอง ซึ่ง ผอ.ช่างได้แจ้งความดำเนินคดีไปก่อนแล้ว ผมจึงมาร้องข้อความเป็นธรรมให้เพื่อนๆ และพี่ๆ ข้าราชการโดยร้องเรียนผ่านประธานสภาเทศบาลเมืองคลองหลวงให้ติดตามเรื่องนี้”
ขณะที่นายวรเชษฐ บุญคุ้ม ประธานสภาเทศบาลเมืองคลองหลวง กล่าวว่า ได้ทราบจากนิติกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่ถูกผู้บังคับบัญชากลั่นแกล้งให้เซ็นนั่นเซ็นนี่ จึงได้ร่วมเดินทางไปที่กระทรวงมหาดไทย เนื่องจากทราบว่ามีหนังสือจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ส่งมาที่กระทรวงมหาดไทยนานแล้ว จึงได้มาร่วมติดตามผล
นายเสรี สุวรรณ์ ทนายความผู้ดูแลเรื่องร้องเรียน กล่าวว่า เนื่องจากได้รับทราบข้อมูลจากผู้ถูกร้องเรียน จากคณะกรรมการ ป.ป.ช. และผู้ถูกชี้มูลความผิด ในเรื่องการทุจริตถุงยังชีพของเทศบาลแห่งหนึ่งที่ปทุมธานี หลังจากนั้นทราบว่าเรื่องได้ส่งมาที่กระทรวงมหาดไทย ณ ปัจจุบันได้เลยระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้ว ทางผู้ร้องและผู้ที่ติดตามผลการร้องเรียนก็อยากจะทราบว่า ผลการดำเนินการตามกฎหมายในส่วนของมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นอย่างไร อยู่ในขั้นตอนไหน จึงอยากให้ทางกระทรวงมหาดไทยแจ้งผล ให้ทราบภายในกำหนด 7 วัน
นายประเทือง ลิ้มรสสุคนธ์ ประชาชนชาวคลองหลวง กล่าวว่า “ผมในฐานะของประชาชนไม่อยากเห็นคดีซ้ำเหมือนที่ปทุมธานี กรณีนายก อบจ. ซึ่งถูกชี้มูลแล้วยังมาสมัครอีก ถ้าล่าช้าไปก็จะหมดวาระ เราอยากจะให้ทุกอย่างเสร็จ ยิ่งล่าช้า ความยุติธรรมก็จะไม่เกิด อยากจะให้ทางกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโปรดช่วยสั่งการให้เร็วที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและไม่ให้ราชการได้เสียหายไปมากกว่านี้