เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเช่าริมแม่น้ำแม่กลองที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ผู้เช่าเป็นชายอเมริกันวัยเกษียณ อยู่กับภรรยาครูสอนภาษาชาวฟิลิปปินส์ เหตุเกิดช่วงที่ภรรยาไม่อยู่ กลับไปเยี่ยมครอบครัวที่บ้านเกิด พบศพสามีถูกไฟคลอกเสียชีวิต สภาพมือกำแท่งโลหะ เพื่อนบ้านบอกได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดตอนดึก
เวลา 01.30 น. วันที่ 3 ก.ค. 67 ร.ต.อ.ศุภกร พาณิชย์เจริญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าม่วง รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านริมแม่น้ำแม่กลอง ในพื้นที่บ้านหัวกรวด หมู่ 4 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จึงได้ประสานไปยังเทศบาลตำบลท่าล้อให้นำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ พร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิขุนรัตนาวุธ นำอุปกรณ์ส่องสว่างเข้าอำนวยความสะดวกในพื้นที่ทันที
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านยกพื้นชั้นเดียว มีจำนวน 3 หลัง ปลูกสร้างเรียงกันในพื้นที่เดียวกัน โดยเพลิงลุกไหม้ขึ้นหลังที่ 3 ด้านในสุด ซึ่งตัวบ้านมีไม้เป็นส่วนประกอบทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ระดมฉีดน้ำไม่ให้ไฟลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้
ต่อมา นายนพพล สุกิจปราณีนิจ นายอำเภอท่าม่วง มาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย นายบัณฑิต สำรองนก กำนันตำบลท่าล้อ พ.ต.ท.กฤตย์ วงษ์ศรีเมือง รอง ผกก.ป.สภ.ท่าม่วง นายชัยวัฒน์ ดอกบุก นายกเทศมนตรีตำบลท่าล้อ แพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 และ ตร.พิสูจน์หลักฐานกาญจนบุรี เข้าเก็บหลักฐาน
หลังเพลิงสงบได้เข้าตรวจสอบภายในตัวบ้านตรงบริเวณหน้าห้องน้ำ พบมีร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย ถูกไฟคลอก มาทราบชื่อ MR.STEFHEN ALAN WILSON (สตีเฟน อลัน วิลสัน) อายุประมาณ 70 ปี เป็นชาวอเมริกัน สภาพศพไหม้เกรียมทั้งตัว นอนตะแคงข้างขวา มือสองข้างกอดอก มือจับแท่งเหล็กขนาดเล็กไว้ ขาทั้งสองข้างถูกไฟไหม้จนถึงหัวเข่า ศีรษะเหลือแต่กะโหลก ท้องแตก ไส้ทะลัก โดยรอบที่เกิดเหตุพบเครื่องมือช่างเป็นจำนวนมาก คาดว่าผู้ตายมีความชอบทางช่างฝีมือ และรถบิ๊กไบค์จอดอยู่ 2 คัน
...
จากการสอบถามเพื่อนบ้านรายหนึ่ง บอกว่า ช่วงประมาณตีหนึ่งกว่าๆ ได้ยินเสียงระเบิดดังออกมาจากภายในตัวบ้านดังสนั่นหวั่นไหว ก่อนที่จะมีไฟลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาดับไฟ ต่อมาเพื่อนชาวอเมริกันของผู้ตายได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุพร้อมกับภรรยา โดยให้ข้อมูลว่าผู้ตายมาเช่าอยู่ที่นี่ได้เกือบ 2 ปี แล้วอาศัยอยู่ภรรยาเป็นชาวฟิลิปปินส์อายุประมาณ 50 ปี ภรรยามีอาชีพเป็นครูสอนภาษาที่กรุงเทพฯ โดยเมื่อ 2 วันก่อน ภรรยาของผู้ตายได้เดินทางกลับประเทศเพื่อไปเยี่ยมครอบครัว จะเดินกลับไทยได้ต้องครบ 10 วันก่อน และไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ผู้ตายอาศัยอยู่บ้านเพียงลำพัง มีนิสัยชอบดื่มเหล้าเป็นชีวิตจิตใจ
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เก็บเมมโมรี่กล้องวงจรปิดรอบบ้านที่เกิดเหตุไปตรวจสอบ ส่วนเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุและจุดที่พบศพ กล่องควบคุมไฟฟ้า แท่งโลหะที่ผู้ตายจับกอดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนศพแพทย์ให้ส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ และให้เก็บศพไว้ก่อน รอญาติมาติดต่ออีกครั้ง สำหรับสาเหตุการเกิดไฟไหม้ยังไม่สามารถสรุปได้.