จนท.ช่วยเหลือสัตว์ป่าฯ นำลูกเสือโคร่งเพศเมีย ที่หลุดเดินในซอยที่บางปะกง ส่งไปดูแลที่บึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี หลังเจ้าของอ้างเป็นตุเป็นตะเป็นไลเกอร์ ที่นำมาเพ้นต์สีเพื่อเข้าฉากแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลุดออกไป ก่อนจะยอมรับในที่สุด พบไม่มีหลักฐานการได้มา ผิดกฎหมายโทษหนักจำคุกถึง 5 ปี


หลังจากจ้าของฟาร์มสิงโตบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าของลูกเสือโคร่งที่หลุดออกไปเดินในซอยที่ อ.บางปะกง แต่อ้างว่า ไลเกอร์ ถูกนำไปพ่นสี เพื่อเข้าฉากภาพยนตร์ฮอลลีวูด นำหลักฐานไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ และรับลูกเสือกลับมา ต่อมาจึงยอมรับว่าเป็นลูกเสือโคร่งจริง ไม่ใช่ไลเกอร์ตามที่อ้าง และนัดกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำเสือตัวจริงมามอบให้ที่ หอประชุมอำเภอบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา 

นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า จากการที่เจ้าหน้าที่ได้ลงไปตรวจสอบนั้น แบ่งเป็นสองกรณีทั้งเสือและสิงโต โดยเสือ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเสือผิดกฎหมายแน่นอน เพราะว่าไม่มีหลักฐานในการได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และในส่วนความผิดก็มีความผิดตามกฎหมาย โดยมีโทษจำคุก 5 ปีและปรับ 5 แสนบาท ในส่วนของสิงโตนั้นมีหลักฐานการได้มาตามกฎหมาย แต่ว่าการเคลื่อนย้ายจากฟาร์มต้นสังกัดนั้นไม่มีใบแจ้งการเคลื่อนย้าย ก็ถือว่าผิดกฎหมายฐานเคลื่อนย้ายโดยไม่ได้รับการอนุญาต มีโทษจำคุก 6 เดือน และปรับ 5 หมื่นบาท

...

"เสือตัวที่ได้มา คาดว่าเป็นตัวเดียวกับที่เป็นข่าว ด้วยขนาดรูปพรรณสัณฐานนั้นค่อนข้างใกล้เคียงกัน โดยจะแจ้งข้อหาครอบครองสัตว์คุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีการขยายผลต่อไปด้วยเพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าได้เสือมาจากชายแดนตามที่กล่าวอ้าง ส่วนเรื่องที่อ้างว่าเป็นไลเกอร์นั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเสือจริงๆ ไม่ใช่ไลเกอร์ตามที่บอกกับเจ้าหน้าที่ หลังจากตรวจสอบ ตรวจยึดแล้ว นำลูกเสือโคร่งตัวดังกล่าวไปดูแลต่อที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าที่บึงฉวาก”

ต่อมา เช้าวันที่ 18 พ.ค. 2567 เวลา 05.00 น. ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี นายอนันต์ ศรีผุดผ่อง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตวป่าบึงฉวาก สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากฯ ได้รับมอบลูกเสือโคร่ง เพศเมีย 1 ตัว อายุประมาณ 3-4 เดือน จากหัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) และเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนรายละเอียดอื่นเกี่ยวกับตัวสัตว์และคดี ต้องรอการบันทึกการตรวจยึดจับกุมจากเจ้าหน้าที่