"เครือสารสาสน์" จัดเสวนาหัวข้อพิเศษด้านการศึกษา "ความคาดหวังของสถาบันอุดมศึกษาต่อนักเรียนระดับมัธยมศึกษา" หวังปรับหลักสูตรการเรียนการสอน อัพ skill นักศึกษาใหม่ เพิ่มทักษะป้อนlสู่ตลาดแรงงาน เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงออก-รู้จุดดี-จุดด้อยตัวเอง

เมื่อวันพุธที่ 8 พ.ค.67 ที่หอประชุมพิบูลย์สุวรรณภูมิ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นโรงเรียนในเครือสารสาสน์ จัดเสวนาพิเศษภายใต้หัวข้อ "ความคาดหวังของสถาบันอุดมศึกษาต่อนักเรียนระดับมัธยมศึกษา" โดยมี รศ.ดร.จรสวรรณ โกยวานิช ผู้อำนวยการสำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ดร.สุทธิพงศ์ วรอุไร อาจารย์จากสำนักนวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ รศ.ดร.สุภกร บุญยืน อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ นายมนัส อ่อนสังค์ (พี่ลาเต้ Dek-D) บรรณาธิการข่าวการศึกษาและแอดมิดชั่นบริษัท เด็กดี อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยน โดยมี ดร.วริศนันท์ เดชปานประสงค์ เป็นผู้ดำเนินรายการ

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มรายการ ดร.วริศนันท์ เดชปานประสงค์ ผู้ดำเนินรายการ ได้เกริ่นถึงปัญหาอัตราการเกิดลดลงอย่างต่อเนื่องของสังคม จากอดีตสู่ปัจจุบันจึงทำให้หลักสูตรในระบบไม่ตอบโจทย์ด้าน soft skills ไม่ทันต่อความต้องการในภาคอุตสาหกรรม และภาคธุรกิจ ปัญหาโครงสร้างตลาดแรงงาน Labor Market Structure Problems ที่แสดงถึงสัดส่วนของผู้สูงวัยมีอัตราที่เพิ่มขึ้น จึงมีแนวโน้มที่ต้องมีการเพิ่มทักษะผู้สูงวัย เพื่อให้กลับเข้าสู่ตลาดแรงงานได้ และวิธีการจัดการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยที่มีการเปลี่ยนแปลง ปรับตัวเข้าสู่รูปแบบของ Work integrated Learning ซึ่งเป็นการเรียนแบบบูรณาการ ที่เน้นให้ลงมือปฏิบัติจริง สูงขึ้น และการเพิ่มคอร์สระยะสั้นต่างๆ

...

เริ่มด้วยหัวข้อที่ 1 คือ โลกในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จากยุค 4.0 เข้าสู่ 5.0 ส่งผลต่อปัญหาการผลิตบัณฑิตออกจากรั้วสถาบันต่างๆ และยังไม่ตอบโจทย์กับความต้องการของโลกในศตวรรษที่ 21 สถาบันระดับอุดมศึกษามี ทิศทางในการผลิตบัณฑิตให้มี Hard Skill และ Soft Skill เพื่อตอบโจทย์ในศตวรรษนี้ได้อย่างไรบ้าง โดย ดร.สุทธิพงศ์ วรอุไร และผู้ทรงคุณวุฒิแต่ละท่านให้ความเห็นว่า ณ ปัจจุบัน ทักษะของผู้เรียนยังไม่ตอบโจทย์กับตลาดแรงงาน ควรจะพัฒนาผู้เรียนให้เกิดทักษะ เช่น การสื่อสาร การนำเสนอ เปิดโอกาสในผู้เรียนได้แสดงออก รู้จุดดี-จุดด้อยของตัวเอง เพื่อหาสิ่งที่ควรส่งเสริม พัฒนาและปรับปรุง โดยพี่ลาเต้ Dek-d ได้กล่าวเสริมว่า แต่ละมหาวิทยาลัยมีการเปลี่ยนแปลง และการรับรอบโควตาจะเป็นสิ่งที่สามารถสะท้อนความต้องการของแต่ละมหาวิทยาลัยได้ และระบบ TCAS ในปัจจุบันมีความเอื้อให้แก่นักเรียนและตอบโจทย์ความถนัดของแต่ละคนได้มากขึ้น

หัวข้อที่ 2 คือ แนวโน้มเปลี่ยน แสดงว่าทางมหาวิทยาลัยต้องปรับวิธีการเรียนการสอน เพื่อให้ตอบโจทย์ตามความต้องการของโลกในศตวรรษที่ 21 ทุกมหาวิทยาลัยจะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอนให้เหมาะสมมากขึ้น โดยจะยึดผลลัพธ์การเรียนรู้ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือทำ มีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามลักษณะของผู้เรียน บรรยายให้น้อยลง จึงทำกิจกรรมให้มากขึ้น โดย รศ.ดร.สุภกร บุญยืน ได้กล่าวเสริมว่า ถ้าพบผู้เรียนที่มีปัญหาหรือจุดด้อย ให้คุณครูทุกรายวิชาเข้ามาพูดคุยร่วมกัน เพื่อหาทางแก้ปัญหาเป็นรายบุคคล เน้นให้ผู้เรียนเกิดความสุขในการเรียน เมื่อผู้เรียนมีความสุข ผลลัพธ์การเรียนก็จะดีขึ้นไปด้วย

หัวข้อที่ 3 คือ สถาบันอุดมศึกษาต่างๆ คิดว่าทางโรงเรียนควรจะเตรียมความพร้อมนักเรียนอย่างไร หรือคาดหวังว่านักเรียนมัธยมที่จะเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยของท่าน ควรมี Knowledge Skills Ethics Charactor อย่างไรบ้าง ที่จะมาต่อยอดในระดับอุดมศึกษาได้อย่างมีความสุข ประสบความสำเร็จในการเรียน อยู่ร่วมกับผู้อื่นและสามารถประกอบอาชีพในอนาคตได้ โดยไม่หลุดออกนอกกรอบหรือโดนรีไทร์ไประหว่างทาง รศ.ดร.จรสวรรณ โกยวานิช ระบุว่า ทางโรงเรียนควรที่จะสื่อสารกับผู้เรียนและผู้ปกครองว่า ผู้เรียนถนัดอะไร ด้านไหน แล้วควรเสริมว่าต้องเรียนแล้วเรียนอย่างมีความสุขด้วย ครูต้องแนะแนวไม่ใช่การชี้ทาง คณะที่ชอบ อาจจะไม่ใช่คณะที่ใช่เสมอไป ซึ่งในส่วนของพี่ลาเต้ Dek-d กล่าวว่า เห็นด้วย เนื่องจากการตัดสินใจเป็นสิทธิ์ของผู้เรียน คุณครูควรจะสนับสนุนและส่งเสริมมากกว่าชี้ทาง การแนะแนวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โดย รศ.ดร.สุภกร บุญยืน ได้กล่าวเสริมว่า นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว โรงเรียนควรจะเตรียมความพร้อมผู้เรียนเรื่องการตอบคำถามในรอบสัมภาษณ์ให้มากขึ้น โดยการฝึกบรรยาย เขียนบทความมากขึ้น เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารให้ได้ใจความ

นอกจากนี้ การจัดงานเสวนาในครั้งนี้ มุ่งหวังเพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกันระหว่าง ผู้บริหารและครู โดยเฉพาะครูในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่เป็น 1 ในกำลังสำคัญที่จะส่งต่อผู้เรียนที่มีความพร้อม มีคุณภาพ ทั้งด้าน Soft skill และ Hard skill ตัวผู้เรียน ผู้ปกครอง และสถาบันอุดมศึกษา