ตำรวจน้ำ สกัดจับเรือประมงเวียดนาม 5 ลำ พร้อมลูกเรือ 23 ชีวิต ลอบเข้ามาทำประมงในน่านน้ำไทย นำขึ้นที่ท่าเรือ อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ส่งพนักงานสอบสวนท้องที่ดำเนินคดี


เวลา 13.30 น. วันที่ 6 พ.ค. 67 ที่ท่าเรือ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.นัฐพงศ์ ตาแก้ว รอง ผกก.4 บก.รน., พ.ต.ต.อภิภพ กิจพฤษ์ สว.ส.รน.6 กก.4 บก.รน. (ตำรวจน้ำบางสะพาน) รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการทางทะเล พร้อมกำลังตำรวจน้ำ ในสังกัดกองกำกับการ 4 และชุดปฏิบัติการพิเศษ (มัจฉานุ) กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจน้ำ ร่วมกันนำเรือตรวจการณ์ 630 และเรือ RHB-01 ออกจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนาม จำนวน 5 ลำ เข้าเทียบท่าเพื่อตรวจสอบ และนำผู้ต้องหาที่เป็นไต๋เรือและลูกเรือชาวเวียดนามรวม 23 คน นำขึ้นฝั่งเพื่อส่ง สภ.บางสะพาน ดำเนินคดี


พ.ต.ท.นัฐพงศ์ ตาแก้ว รอง ผกก.4 บก.รน. เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากยุทธการฟ้าสางที่ปลายด้ามขวานในพื้นที่อ่าวไทยตอนล่าง พื้นที่รับผิดชอบของ กก.6-7 บก.รน. เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พ.ต.อ.พยงค์ เอี่ยมสกุล ผู้กำกับการกองบังคับการตำรวจน้ำ จึงได้สั่งการมีการสืบสวนและขยายผลอย่างต่อเนื่อง โดยให้นำเรือตรวจการณ์ 630  ออกลาดตระเวน และพบข้อมูลในทางลับว่ามีความเคลื่อนไหวของกลุ่มเรือประมงเวียดนามลอบเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย พบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม จำนวน 5 ลำ กำลังลักลอบทำการประมง ในพิกัดห่างจากชายฝั่งประมาณ 50 ไมล์ทะเล จากชายฝั่งจ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ในเขตน่านน้ำไทย จึงได้ไล่ติดตามจับกุมตามแบบยุทธวิธี จนสามารถควบคุมเรือประมงได้จำนวน 5 ลำ พร้อมกับลูกเรือจำนวน 23 คน 

...


นอกจากนี้บนเรือพบสัตว์น้ำเป็นปลาเบญจพรรณจำนวนประมาณ 600 กิโลกรัมในเรือ จึงเข้าควบคุมนำเรือประมงเวียดนามทั้ง 5 ลำ มาจอดที่ท่าเทียบเรือใน อ.บางสะพาน พร้อมนำชาวประมงเวียดนามทั้ง 23 คนขึ้นมาควบคุม และทำการสอบปากคำเบื้องต้น เพื่อติดตามขยายผลหากลุ่มนายทุนของกลุ่มเรือประมงต่างชาติเหล่านี้ต่อไป ก่อนที่จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยตั้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้งหมดในข้อหาร่วมกันทำการประมงพาณิชย์ในน่านน้ำไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันใช้เรือไร้สัญชาติทำการประมง, ฝ่าฝืนใช้เรือที่มีสัญชาติต่างประเทศทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย มีและใช้เครื่องวิทยุโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมาย และผลักดันกลับประเทศต่อไป.