ตื่นตาการประกวดควายยักษ์ แต่ละตัวน้ำหนักมากกว่า 1 ตัน รูปร่างบึกบึน ในเทศกาลควายไทย ครั้งที่ 12 ที่อุทัยธานี 

นักท่องเที่ยวทั่วสารทิศ แห่ชมควายงามจำนวนมากบางตัวมูลค่านับสิบล้านบาท ที่ไปรอเข้าประกวดควายในรุ่นต่างๆ ระหว่างวันที่ 9-10 มีนาคม ที่ผ่านมา ที่สนามการประกวดบริเวณแก้มลิงเขื่อนวังร่วมเกล้า อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี โดยควายทั้งหมดในงานมาจากจังหวัดต่างๆ หลายภาคของไทย ในงานนอกจากการประกวดควายงามแล้ว ยังเป็นพื้นที่ติดต่อ ค้าขาย แลกเปลี่ยนควาย แลกเปลี่ยนความรู้การพัฒนาพันธุกรรมควายไทย และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเลี้ยงควาย คาดจะมีเงินสะพัดในงานนี้นับร้อยล้านบาท

สำหรับ "งานเทศกาลควายไทยอุทัยธานี" ครั้งที่ 12 นี้ ภายในงานจัดให้มีการประกวดกระบือ ประกอบด้วยการประกวดกระบือลุ่มน้ำสะแกกรัง (เฉพาะกระบือในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี) จำนวน 16 รุ่น, การประกวดกระบือทั่วไป จำนวน 16 รุ่น และการประกวด 2 การประกวดกระบือแกรนด์แชมป์ (Grand Champion) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 4 ถ้วย และชิงถ้วยรางวัล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ 

แต่เหตุการณ์ที่ดูจะเป็นปัญหาอย่างของการประกวดควายงามในครั้งนี้ เห็นจะเป็นเรื่องสภาพอากาศที่ร้อนจัดในยามบ่ายที่อุณหภูมิสูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส ทำให้เจ้าของควายต้องคอยป้อนน้ำแก่ควาย เพื่อแก้กระหาย และนำควายไปเข้าคิวอาบน้ำระบายความร้อนอย่างต่อเนื่อง

...

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ทำการเปิดงานแล้วนั้น ยังมีการทำพิธีส่งมอบควายหรือซื้อขายกระบือกัน โดยมีคนที่มาร่วมเชียร์เป็นพยานในการซื้อขาย กับดีลช็อกโลก เมื่อ "พ่อเลี้ยงเจ" เจ้าของวนาสุวรรณฟาร์ม จากจังหวัดเชียงราย หอบเงิน 18 ล้านบาท มาสู่ขอกระบือเผือกเพศผู้ชื่อ "โก้เมืองเพชร" กับเจ้าของเดิมคือ นายดำรงศักดิ์ มรกฎ เจ้าของฟาร์ม 9 มรกฎฟาร์ม เพื่อไปพัฒนาพันธุ์กระบือต่อไปให้ดียิ่งขึ้น

ซึ่งจุดเด่นของ "โก้เมืองเพชร" นั้น ยืนหนึ่งในบรรดาควายเผือก เพราะตอนนี้โก้อายุ 4 ปี 10 เดือน ความสูง 157 เซนติเมตร และยังไม่หยุดโต หากโตเต็มที่ความสูงอยู่ที่ 180 เซนติเมตร และโก้ยังเคยเล่นภาพยนตร์เรื่องมนต์รักลูกทุ่ง เป็นควายของไอ้คล้าว และน้ำเชื้อของโก้นั้นทำรายได้ให้กับเจ้าของเดิมปีหนึ่ง 7-10 ล้านบาท

นอกจากนี้ สิ่งที่น่าจับตา คือการแข่งขันควายยักษ์ ซึ่งมีค่ายหรือฟาร์มควายจากทั่วประเทศส่งเข้าชิงชัยกัน โดยเริ่มจากการแข่งขันกระบือเพศเมีย ก่อนซึ่งในรุ่นควายยักษ์นั้น มีฟาร์มควาย ส่งเข้าร่วมประกวด รวม 26 ตัว ซึ่งควายแต่ละตัวก็สร้างความลำบากใจให้กับคณะกรรมการเป็นอย่างมาก เพราะมีน้ำหนักและรูปร่าง เกือบจะเท่ากันเลย

ซึ่งการประกวดควายยักษ์ กติกาคือ ควายที่ส่งเข้าประกวดนั้น จะต้องมีน้ำหนัก 1 ตันขึ้นไป มีรูปร่างสมส่วนต้องสูงใหญ่ ดูบึกบึน สมกับชื่อที่ประกวด โดยควายแต่ละตัว ก็มาเดินอวดโฉมให้คนที่มาร่วมงานได้ตื่นตาตื่นใจ ซึ่งรางวัลชนะเลิศ เป็นของ "แม่หยาดฟ้า" จากชัยฟาร์มโคราช อายุ 6 ปี สูง 160 หนักกว่า 1 ตัน ซึ่งก็มีคนเสนอราคาให้สูงถึง 20 ล้าน แต่ทางเจ้าของไม่ขาย ส่วนตัวที่ครองแชมป์ความใหญ่ คือ "เจ้าทองสุก" จากบ้านเป้ควายไทยฟาร์ม อายุ 5 ปี น้ำหนัก 1.4 ตัน สูง 178 

ขณะที่ นายชาดา เผยว่า อยากให้มีการจัดตลาดประมูลควายเกิดขึ้นในจังหวัดอุทัยธานี เพื่อให้ผู้เลี้ยงกระบือนั้น มาพบปะพูดคุยกันเพื่อซื้อขายหรือประมูลกระบือกัน เพื่อเป็นการต่อยอดและพัฒนาสายพันธุ์กระบือที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้นและเป็นการสร้างมูลค่าให้กับผู้ที่เลี้ยงต่อไป.