หนุ่มวัย 24 ปี ตีเนียนเป็นพลเมืองอาสาพายายวัย 97 ปี ไปถอนเงินที่ธนาคาร ก่อนแอบเปิดแอปฯ โยกเงินเข้าบัญชีตัวเอง ต่างกรรมต่างวาระ รวมโอนเงินทั้งหมด 127 ครั้ง กว่า 3.4 ล้านบาท นำไปซื้อรถ ซื้อทอง ใช้หนี้
วันที่ 16 ม.ค. 67 พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมชุดสืบสวน คุมตัว นายธนภัทร จ่ายเพ็ง อายุ 24 ปี อยู่หมู่ 3 ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง หลังก่อเหตุลักทรัพย์ของนางเอ (นามสมมติ) อายุ 97 ปี พร้อมของกลางเป็นเงินสด จำนวน 1.2 ล้านบาท ทองรูปพรรณและทองแท่ง น้ำหนักรวม 22 บาท รถยนต์เก๋งยี่ห้อ BMW สีขาว ทะเบียน ฌข 9053 กรุงเทพมหานคร รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นฟอร์ซ่า สีเทา ทะเบียน 2 ขภ 408 กรุงเทพมหานคร สลากกินแบ่งรัฐบาล 23 ฉบับ และสลากออนไลน์อีกกว่า 140 ฉบับ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 3.4 ล้านบาท
นายเจษฎา ชะอ้อนชม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.สวนกล้วย เปิดเผยว่า ยายเอเป็นลูกบ้านของตน ไม่มีญาติใกล้ชิด เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา ว่าจ้างให้นายธนภัทรพาไปเบิกเงินที่ธนาคารแห่งหนึ่งที่ตลาดบ้านโป่ง ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 67 ยายเอไปทำธุระที่ธนาคารอีกครั้ง จนทราบว่ามีเงินหายไปจำนวนมาก จึงพายายเอไปตรวจสอบบัญชีกับธนาคาร จนทราบว่านายธนภัทรเป็นผู้ก่อเหตุ จึงแจ้งอายัดบัญชีไว้ ก่อนเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านโป่ง
...
ด้าน ยายเอ อายุ 97 ปี เปิดเผยว่า ตนเกิดที่ อ.บ้านโป่ง ก่อนย้ายตามสามีไปทำมาหากินอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่อายุ 25 ปี โดยสามีทำงานเป็นผู้รับเหมา ส่วนตนเปิดร้านขายของ สามีจะโอนเงินให้เดือนละ 20,000-30,000 บาท จึงเก็บสะสม กระทั่งสามีเสียชีวิตลง จึงกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิด มีเงินที่สะสมมาทั้งชีวิตเป็นค่าอยู่ค่ากิน และแบ่งทำบุญตามวัดต่างๆ เนื่องจากตนไม่มีลูกและญาติใกล้ชิด อีกทั้งอายุมากเรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยมี ต้องอาศัยไหว้วานคนรู้จักให้พาไปธนาคาร แต่มาถูกนายธนภัทรขโมยเงินไป ยอมรับว่า ทีแรกไม่ไว้วางใจนายธนภัทร เพราะพอจะทราบมาว่า มีประวัติไม่ค่อยจะดี แต่มันจำเป็นทำให้พลาด ซึ่งหลังจากที่ทราบว่าเงินหายออกไปจากบัญชีกว่า 3 ล้านบาท ตกใจมากจนถึงกับเป็นลมล้มพับ
จากการสอบสวน นายธนภัทร ไม่ยอมตอบถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ แต่รับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง ไม่มีผู้ร่วมขบวนการ โดยอาศัยช่วงเวลาที่พายายเอไปทำธุรกรรมบนธนาคาร แอบเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ในชื่อของยายเอไว้ แล้วโอนเงินผ่านแอปฯ เข้ามาที่บัญชีของตัวเองทุกวัน วันละประมาณ 200,000 บาท โดยจะโอนครั้งละ 20,000-40,000 บาท นำเงินไปใช้หนี้สินและซื้อของ อาทิ ทองคำ สลากกินแบ่งรัฐบาล รถยนต์เก๋งมือสอง ราคา 330,000 บาท และรถจักรยานยนต์มือสอง ราคา 145,000 บาท
พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง เผยว่า หลังรับแจ้งเหตุ สั่งการให้ชุดสืบสวนประสานกับผู้ใหญ่บ้าน ตรวจสอบจนทราบว่า นายธนภัทรเป็นผู้ก่อเหตุจริงจึงไปควบคุมตัวไว้ได้ที่บ้านพัก ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลว่า มีผู้ร่วมขบวนการหรือไม่ โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำมาตรวจสอบพบว่า ทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณเป็นของจริงทั้งหมด รวมมูลค่ากว่า 7 แสนบาท อย่างไรก็ตาม การกระทำของผู้ก่อเหตุ เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ นับรวมการโอนเงินได้ทั้งหมด 127 ครั้ง เจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน