นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เผยว่า จากการที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี ประสบความสำเร็จในการพัฒนาพันธุ์สับปะรดโรงงาน จนได้พันธุ์ใหม่ กวก. เพชรบุรี 2 เมื่อปี 2562 มีลักษณะเด่น มีอัตราส่วนน้ำหนักเนื้อ : น้ำหนักผลเฉลี่ย 0.29 สูงกว่าพันธุ์ปัตตาเวียที่เกษตรกรนิยมปลูก และยังแกนผลเล็ก ตาตื้น ความลึกตาเฉลี่ย 0.73-0.81 ซม. มีผลทรงกระบอกเหมาะสำหรับการบรรจุกระป๋อง มีค่าความหวานเฉลี่ย 13.9-17.9 องศาบริกซ์ หวานกว่าพันธุ์ปัตตาเวีย ให้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 9 ตัน สูงกว่าพันธุ์ปัตตาเวียที่ให้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 4.11 ตัน ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมแปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง
“เพื่อให้เกษตรกรได้ปลูกสับปะรดพันธุ์ กวก. เพชรบุรี 2 ได้แพร่หลายมากขึ้น ทดแทนสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียที่เกษตรกรปลูกเพียงพันธุ์เดียวต่อเนื่องมาเป็นเวลานานทำให้เกิดการกลายลักษณะไม่พึงประสงค์มากขึ้น เช่น เกิดหนามตลอดทั้งใบ ผลไม่เป็นทรงกระบอก สีเนื้อไม่สม่ำเสมอ อ่อนแอต่อโรค ผลขนาดเล็กลง
ส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำ จึงได้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรีเร่งขยายพันธุ์ให้เกษตรกรนำไปปลูกเพื่อป้อนอุตสาหกรรมแปรรูป ที่มีมูลค่าการส่งออกให้กับประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท”
...
ด้าน นางสาวมัลลิกา นวลแก้ว นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี กล่าวเสริมว่า การขยายพันธุ์สับปะรดด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เป็นวิธีการขยายพันธุ์สับปะรดที่ได้ปริมาณมากในระยะเวลาอันสั้น แต่เกษตรกรอาจจะต้องมีการดูแลมากและปฏิบัติได้ยาก
“ทางศูนย์จึงได้พัฒนาวิธีการขยายพันธุ์อย่างง่ายโดยวิธีการตัดช่อดอกอ่อน เพราะเป็นวิธีการที่ได้จำนวนหน่อปริมาณเพิ่มขึ้น ลดระยะเวลาการผลิตหน่อ และสามารถบังคับการออกดอกได้เมื่อต้นมีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม (อายุ 5-7 เดือนหลังปลูก) หลังการบังคับการออกดอกประมาณ 2 เดือน ก้านช่อดอกเริ่มยืดตัวจึงตัดช่อดอกอ่อนออกเพื่อให้เกิดการแตกหน่อ โดยสามารถเก็บเกี่ยวหน่อหลังจากการตัดช่อดอก 2-3 เดือน วิธีการนี้จะช่วยลดระยะเวลาการผลิตหน่อลงเหลือ 9-11 เดือน”
นางสาวมัลลิกา เผยอีกว่า การขยายพันธุ์สับปะรดพันธุ์ กวก. เพชรบุรี 2 ได้รับความสนใจอย่างมากจากเกษตรกร จากการสำรวจความต้องการเบื้องต้นได้รับการตอบรับจากเกษตรกร 8 กลุ่ม จำนวน 235 ราย, 975,000 หน่อ โดยทางศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรีจะจัดทำแผนการผลิตและแจกจ่ายต่อไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายหน่อพันธุ์ที่จะส่งมอบให้กลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกับได้จัดฝึกอบรมเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการสับปะรดพันธุ์เพชรบุรี 2 และการขยายพันธุ์อย่างง่าย เพื่อสร้างความเข้าใจให้เกษตรกรนำไปปรับใช้ โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการและผ่านการอบรมจะได้รับหน่อพันธุ์สับปะรดเพชรบุรี 2 จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรีไปสร้างแปลงพันธุ์เพื่อผลิตหน่อพันธุ์แบบการตัดช่อดอกอ่อนกระจายสู่เกษตรกรในกลุ่มเครือข่ายต่อไป.
คลิกอ่าน “ข่าวเกษตร” เพิ่มเติม