เกิดอุบัติเหตุทางแยกถนนสาย 304 อ.ศรีมหาโพธิ ปราจีนบุรี รถฉุกเฉิน รพ. เปิดไซเรนขอทาง ขับฝ่าสัญญาณไฟแดงไปชนกับรถบรรทุกที่ได้สัญญาณไฟเขียว ผลเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บ 3 คน ด้านคนขับรถขนผัก อ้างปกติก็หลบทางให้รถฉุกเฉินตลอด แต่ครั้งนี้ไม่ได้ยินเสียงไซเรน
เวลา 19.30 น. วันที่ 6 พ.ย. 66 พ.ต.ท.สุวิทย์ ซุยจรูญ พนักงานสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยว่า รถฉุกเฉินของโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 อินเตอร์ ถูกรถปิกอัพที่บริเวณแยกสัญญาณไฟแดง ถนนสาย 304 บริเวณสี่แยกกรอกสมบูรณ์หมู่ที่ 1 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ส่งผลให้คนในรถฉุกเฉินได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย
หลังจากรับแจ้งจึงได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ตู้ของกู้ชีพกู้ภัยของโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 อินเตอร์ ทะเบียน กท 7176 ปราจีนบุรี พลิกตะแคงอยู่กลางถนน ภายในรถมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย คือ นายเอกพันธ์ ชาริดา (คนขับรถพยาบาล) แขนขวาหัก น.ส.เจนจิรา กองสุข ขาซ้ายหัก และนายเพทาย เพชรยอดศรี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้นก่อนนำผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถยนต์ปิกอัพ อีซูซุ สีขาว ดีแม็กซ์ ทะเบียน บย 4629 สระแก้ว บรรทุกผักเต็มคันรถพลิกตะแคงอยู่บนถนน สภาพหน้ารถพังเสียหาย
จากการสอบสวนทราบว่า ทางโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 ได้รับแจ้งจากสายด่วน 1669 ให้รีบเดินทางไปรับผู้ป่วยในพื้นที่ ต.กรอกสมบูรณ์ จึงได้รีบเดินทางไปพร้อมเจ้าหน้าที่พยาบาล 2 คน และคนขับรวม 3 คน โดยเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินตลอดทาง เมื่อขับรถมาถึงบริเวณแยกสัญญาณไฟ รถจากโรงพยาบาลกำลังเลี้ยวขวา เป็นช่วงที่รถปิกอัพวิ่งทางตรงเกิดชนกันเข้าอย่างแรง ส่งผลให้คนในรถโรงพยาบาลได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คน
...
ด้าน นายวิรัตน์ คำวิเลิศ อายุ 49 ปี คนขับรถกระบะบรรทุกผักอยู่หมู่ 2 ต.บ้านกิ่ง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี กล่าวว่า ขับรถมาจากอำเภอวังน้ำเย็นจะไปราชบุรี เมื่อถึงที่เกิดเหตุรถผมไฟเขียว และผมไม่เห็นรถพยาบาล ถ้าผมเห็นผมก็ชะลอให้ ผมชะลอให้ทุกครั้ง ผมก็เบี่ยงให้ทุกครั้ง ถ้าผมได้ยินเสียงไซเรน ตอนที่ได้ยินก็ตอนรถมาถึงหน้ารถผมแล้ว ผมก็ว่าชนแน่ๆ ผมพยายามจะหักหลบก็หลบไม่ได้ บรรทุกผักชีฝรั่งมาประมาณตันกว่า เกือบ 2 ตัน จากวังน้ำเย็น จะไปราชบุรี
ล่าสุด เวลา 11.00 น. ของวันที่ 7 พ.ย. พ.ต.อ.พงษ์อนันต์ รักษาชาติ ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ กล่าวว่า ได้ให้พนักงานสอบสวนสอบถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นว่ารถโรงพยาบาลที่ฝ่าสัญญาณไฟนั้น ไปรับผู้ป่วยจริงหรือไปด้วยสาเหตุใด ส่วนผู้ใช้รถใช้ถนน หรือผู้ที่มีสัญญาณไฟก็ควรที่จะคำนึงถึงความปลอดภัย และผู้ที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกันด้วย
ด้านผู้บริหารระดับสูง แถลงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทางโรงพยาบาลได้รับแจ้งจากศูนย์สั่งการทางการแพทย์ 1669 ว่ามีผู้ป่วยหญิงอายุ 80 กว่าปี มีอาการไข้ขึ้นสูง คาดว่าจะเกี่ยวกับการติดเชื้อในกระแสเลือด จึงได้ให้รถกู้ชีพของโรงพยาบาลเดินทางไปรับ ในขณะที่เดินทางวันนั้นมีฝนตกในระหว่างทาง พอถึงจุดที่เกิดเหตุจังหวะนั้น รถของโรงพยาบาลได้มีการเปิดสัญญาณไฟเพื่อจะข้ามไปอีกฝั่งของถนน และอีกฝั่งของถนนมีต้นไม้ปิดบังทัศนียภาพจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งผู้บริหารและทางโรงพยาบาลรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นอุบัติเหตุที่ใครก็ไม่อยากให้เกิด ทางโรงพยาบาลและทางผู้บริหารพร้อมยินดีที่จะดูแลผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นบุคลากรของโรงพยาบาล ส่วนในเรื่องของคดีความมอบให้เป็นอำนาจหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ