ดีเอสไอลุยค้น 5 จุด ทั้งใน จ.นครปฐม และ จ.ราชบุรี คลี่ปมฮั้วประมูลบริษัท “กำนันนก” มูลค่าเกิน 30 ล้านบาท รวม 19 โครงการ ตั้งเป้าลากคอกลุ่มผู้จัดฮั้วประมูลโครงการรัฐ เก็บหลักฐานเอกสาร โทรศัพท์มือถือ ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงินมัดตัว ยันมีพยานยอมให้การว่าถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าเสนอราคาประมูลแล้ว จัดเข้าโครงการคุ้มครองพยานไว้ก่อน เตรียมเดินหน้าสอบปากคำเจ้าหน้าที่รัฐทั้ง อบจ.และกรมทางหลวงก่อนพิจารณาดำเนินคดี สุดท้ายถึงคิวสอบปากคำกำนันคนดังในคุก

กรณีกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ “กองคดีฮั้วประมูล” กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการสืบสวนสอบสวนบริษัทนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ “กำนันนก” ฐานะกรรมการบริษัท รับโครงการจากหน่วยงานภาครัฐตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน วงเงินสัญญาตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไปรวม 19 โครงการ ต้องสงสัยว่าจะมีการฮั้วประมูลโครงการหรือไม่ ความคืบหน้าจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 ต.ค. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้นายธีรนิติ จันทร์ประวิตร ผู้ช่วยโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูลฯ แถลงความคืบหน้ากรณีปฏิบัติการตรวจค้นหาพยานหลักฐานคดีฮั้วประมูลเครือข่ายกำนันนก

นายธีรนิติ จันทร์ประวิตร กล่าวว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกองคดีฮั้วประมูลฯ มีเหตุอันควรสงสัยว่าบริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด รวมทั้งบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องใช้สถานที่ดังกล่าวข้างต้นทั้ง 5 แห่งกระทำผิด และน่าเชื่อว่ามีทรัพย์สิน เอกสาร สิ่งของ หรือข้อมูลโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือในระบบคอมพิวเตอร์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆไว้เพื่อกระทำความผิด ขออนุมัติหมายค้นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุดเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีดีเอสไอ นำกำลังตรวจค้น 1.บ้านของนางพร (นามสมมติ) อ.เมืองนครปฐม ตรวจยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่ 8 เครื่อง และเอกสารความเคลื่อนไหวทางบัญชี สมุดบันทึก 2.ร้านของนายอ้วน (นามสมมติ) อ.เมืองนครปฐม ตรวจยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 เครื่อง และสมุดบันทึกซึ่งปรากฏหมายเลขบัญชีธนาคารและชื่อบัญชี 3.บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด อ.เมืองนครปฐม ตรวจยึดเอกสารสัญญาจ้างมูลค่างานตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป 20 แฟ้ม 4.บริษัทเวฬา จำกัด อ.เมืองนครปฐม ตรวจยึดเอกสาร 5 รายการ และ 5.บ้านภรรยานายธนัญชัย หมั่นมาก หรือหน่อง ท่าผา (มือปืนยิงสารวัตรแบงก์) อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

...

“จากการตรวจค้นทั้ง 5 จุด คณะพนักงานสอบสวนจะนำพยานหลักฐานที่ได้ไปเชื่อมโยงกับพยานหลักฐานที่ได้จากการสืบสวนสอบสวน ขยายผลดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป หากพบว่ามีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด” นายธีรนิติกล่าว

ด้าน ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ กล่าวว่า สำหรับ 19 โครงการที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษผ่านความเห็นชอบจากพนักงานอัยการ เพราะมีพฤติการณ์น่าสงสัยหลายประการ ทั้งประเด็นการเสนอราคาและการยื่นซื้อซองเสนอราคา รวมถึงการเข้าร่วมประมูลราคาวันเปิดซอง (e-bidding) พอถึงวันประมูลเหลือผู้ยื่นซื้อซองน้อยราย และยังชนะราคากันด้วยจำนวนเงินไม่มาก ราคาเหมือนกันหลายโครงการ จากการมีพนักงานอัยการเข้าร่วมประชุมหารือกำหนดทิศทางทำคดี เห็นชอบให้ค้นเป้าหมาย เชื่อว่ามีการจัดให้ฮั้วประมูลทั้ง 5 จุด 4 จุดแรกตำรวจไม่เคยเข้าค้น การเข้าตรวจยึดเอกสารครั้งนี้เพื่อค้นหาว่า ใครเป็นผู้ดำเนินการให้ ใครเป็นคนยื่นราคา หรือกำหนดราคา ใครทำหน้าที่วิศวกรกำหนดราคา เป็นต้น ทั้ง 4 จุดดีเอสไอเชื่อว่า เป็นกลุ่มจัดฮั้วประมูลให้กำนันนก ได้เอกสารสำคัญหลายรายการ อยู่ระหว่างรอผลตรวจพิสูจน์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เป็นความลับ ยังสรุปไม่ได้ ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐาน

“จาก 5 จุดที่ดีเอสไอเข้าค้น 2 จุดรับหน้าที่เป็นผู้จัดฮั้วประมูล 1 จุดเป็นของภรรยามือปืน (นายธนัญชัย หมั่นมาก) อีกจุดคือ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด และจุดสุดท้ายคือ บริษัทเวฬา จำกัด ของน้องชายกำนันนก กลุ่มต่างๆที่ดำเนินการจัดให้ฮั้วประมูลนี้จะใช้โทรศัพท์สื่อสารกัน ดีเอสไอเชื่ออยู่อย่างหนึ่งที่พบตามเอกสารทั้ง 19 โครงการเห็นตรงกันว่าแต่ละโครงการมีคนเข้าซื้อซองเสนอราคาจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการสุดท้ายปี 65 มีคนยื่นซื้อซองเสนอราคาถึง 52 ราย แต่เหลือเพียงหนึ่งรายที่เข้าเปิดซองคือ บริษัทกำนันนก เป็นพฤติการณ์ที่เราต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า ใครบ้างเป็นผู้อยู่ในกระบวนการจัดฮั้วประมูล” ผอ.กองคดีฮั้วประมูลฯกล่าว

ร.ต.อ.สุรวุฒิกล่าวต่อว่า 4 กลุ่มที่ดีเอสไอ
เข้าค้นไม่อยู่ในการให้ปากคำของพยานทั้ง 58 ราย แต่เป็นกลุ่มดำเนินการเรียกว่า “ผู้จัดฮั้ว” คอยทำหน้าที่เป็นผู้หาข้อมูลเรื่องกลุ่มคนที่เสนอราคาซื้อซอง ทำหน้าที่กีดกันไม่ให้เข้าร่วมการเสนอราคา มีการตกลงราคาเรื่องการให้ผลประโยชน์ตอบแทน เพื่อไม่ให้คนซื้อซองเข้าร่วมเปิดซองเสนอราคาในวันประมูล ทำให้ได้มาซึ่งผู้ชนะการประมูลเพียงเจ้าเดียวคือ 19 โครงการที่กำนันนกชนะนั่นเอง อีกทั้ง 4 กลุ่มดังกล่าวเป็นเอกชนรู้จักกับกำนันนก นอกจากนี้ดีเอสไอยังมีพยานหลายส่วน ส่วนที่ยืนยันว่าจริง เราให้เข้าสู่โครงการคุ้มครองพยาน ดีเอสไอดำเนินการรวบรวมพยานหลายส่วน และตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วย แต่ยังดำเนินการไม่ถึงขั้นตอนที่เห็นว่า เส้นทางการเงินมีการทำธุรกรรมกับกำนันนกอยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวม

ถามว่าที่ผ่านมามีพยานเข้าให้ปากคำกี่บริษัท (จากหมายเรียก 58 บริษัท) ร.ต.อ.สุรวุฒิกล่าวว่า เข้าให้ปากคำ 54 บริษัท ส่วนอีก 4 บริษัทขอเลื่อน บางส่วนใช้วิธียื่นเอกสารแทน แต่จะออกหมายเรียกพยานอีกครั้ง เพราะในหลายโครงการยื่นเสนอราคาซ้ำจริง และจะเรียกให้เข้ามารับทราบข้อมูลว่าวันที่ยื่นซื้อซองถูกกีดกันหรือไม่ มีโทรศัพท์เข้ามาอย่างไร สุดท้ายดีเอสไอจะตรวจเส้นทางการเงินว่าเกี่ยวข้องในส่วนใดบ้างหรือไม่ ทั้งนี้มีพยานบางรายจากทั้ง 58 บริษัทให้การยอมรับว่าถูกข่มขู่จริง ถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมประมูล ดีเอสไอคุ้มครองพยานเรียบร้อยแล้ว1ราย

ร.ต.อ.สุรวุฒิปิดท้ายว่า ที่ผ่านมาดีเอสไอออกหมายเรียกพยานหลายกลุ่ม ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มที่เป็นเจ้าของโครงการ ไม่ว่าจะเป็นองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หรือกรมทางหลวง เป็นต้น หลายหน่วยงานส่งเอกสารมาให้พนักงานสอบสวน หลังจากนี้จะเรียกกลุ่มผู้เคยยื่นซื้อซองเสนอราคา มีจำนวนมาก ทยอยดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าจนถึงตอนนี้ดีเอสไอยังไม่ได้เข้าไปสอบปากคำกำนันนกในเรือนจำ

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่