พระนครศรีอยุธยา เร่งยกแผงเหล็กทำเขื่อนชั่วคราวหน้าวัดไชยวัฒนาราม เพื่อปกป้องโบราณสถานสำคัญ หลังแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชลประทานเตือนที่ลุ่มต่ำ อ.เสนา บางบาล และผักไห่ เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2566 นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายกฤษณ์ แก้วทองหลาง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวันชัย ปังพูนทรัพย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา พ.อ.ภัทราวุธ ทิพโกมุท รอง ผอ.รมน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักศิลปากรที่สามพระนครศรีอยุธยา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่วัดไชยวัฒนาราม ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดตามความคืบหน้าการ ยกแผ่นเหล็กหรือแผ่นบังเกอร์ ป้องกันนั้นท่วมแบบสำเร็จรูป โดยแผ่นบังเกอร์มีความสูง 1.90 เมตร กว้าง 1.20 เมตร รวม 138 แผ่น อยู่ในแนวฐานเขื่อนถาวรทำจากอิฐและปูนสูงกว่า 50 ซม. ยาวตลอดแนวลำน้ำเจ้าพระยา 165 เมตร บริเวณหน้าวัดไชยวัฒนาราม โบราณสถานและสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัด โดยมีกำลังพลจาก มณฑลทหารบกที่ 18 ม.4 พัน 11 รอ เจ้าหน้าที่ อส. เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรมาร่วมดำเนินการยกแผ่นบังเกอร์ครั้งนี้ พบว่าระดับน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น โดยเหลืออีกประมาณ 150 ซม.จะท่วมถึงสันเขื่อน
...
ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มสูงขึ้นในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำ 1,449 ลบ.ม ต่อวินาที เริ่มส่งผลกระทบกับพื้นที่นอกคันกั้นน้ำของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเขตอำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอเสนา และอำเภอบางปะอิน โดยได้เน้นย้ำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกาศแจ้งเตือนรวมถึงเตรียมความพร้อม ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหากเกิดสถานการณ์น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนโดยเร็วที่สุด
นายนิวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ส่วนพื้นที่อุตสาหกรรมมีการยกคันกั้นน้ำขึ้นสูงกว่า 1.8 เมตร จากระดับน้ำท่วมสูงสุดปี 2554 ส่วนในด้านของการท่องเที่ยวพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นถนนสายต่างๆ ยังสามารถเดินทางเข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ และยังสามารถท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ได้ มีเพียงเรือท่องเที่ยวที่ทางกรมเจ้าท่าได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้ระมัดระวังในการเดินเรือช่วงน้ำหลากเท่านั้น.