ตามลากคอนางโจรสาวบุกเดี่ยวจี้ร้านทองในเคหะเมืองใหม่บางพลี สวมหมวกกันน็อกอำพรางโฉมม้วนเสื้อกันฝนทำเป็นปืนบุกจี้พนักงานร้าน กวาดสร้อยทองหนัก 1 สลึงไป 33 เส้น มูลค่ากว่า 3 แสนบาท ซิ่ง จยย.เผ่นหนีไปได้วันเดียวถูกตามจับกุม สารภาพทำงานเป็นพนักงานบริษัทขนส่งสินค้า รายได้ไม่พอใช้จ่ายในครอบครัว มีภาระผ่อนบ้านผ่อนรถแถมเลี้ยงดูลูกน้อยอีกคน จนปัญญาหาทางออกตัดสินใจก่อเหตุ ตอนแรกไปกระชากสร้อยหญิงสูงวัยไม่สำเร็จเลยคิดการใหญ่ตัดสินใจบุกร้านทอง แต่สุดท้ายหนีไม่รอดถูกจับจนได้
พฤติกรรมอุกอาจนางโจรสาวบุกจี้ชิงทรัพย์ร้านทองรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 4 ส.ค. ร.ต.อ.วิฑูรย์ เพ็งบุปผา รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นหญิงบุกจี้ชิงทรัพย์ที่ห้างทองเจริญกรุง เยาวราช เลขที่ 4/3 ซอย C4 การเคหะเมืองใหม่บางพลี ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ นำกำลังตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบพนักงานหญิงของร้านทอง 2 คนอยู่ในอาการตื่นตระหนก สอบสวนให้การว่า คนร้ายเป็นหญิง 1 คน สวมหมวกกันน็อกสีดำและไอ้โม่งสีดำปิดบังใบหน้า เสื้อแจ็กเกตสีเขียวขี้ม้า นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ใส่ถุงมือ รองเท้าผ้าใบ มือขวาถือวัตถุคล้ายอาวุธปืน ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีน้ำเงิน เดินเข้ามาจี้ข่มขู่บังคับให้พนักงานร้านหยิบทองให้ ด้วยความตกใจพนักงานร้านเปิดตู้โชว์ด้านหลังเคาน์เตอร์หยิบถาดสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 สลึงยื่นให้คนร้าย ก่อนที่คนร้ายจะใช้มือซ้ายกวาดสร้อยคอทองคำ 33 เส้น น้ำหนักรวมเกือบ 9 บาท มูลค่าประมาณ 3 แสนบาท วิ่งเผ่นหนีออกจากร้านไปขึ้นรถ จยย.สีแดงดำ ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ที่จอดอยู่หน้าร้านขี่หลบหนีไปทางท้ายซอยซึ่งมีทางออกไปถนนเทพารักษ์ หลังเกิดเหตุพนักงานร้านกดสัญญาณแจ้งภัยไปยังตำรวจวิทยุสกัดจับแต่ไม่พบวี่แวว ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ชัดเจน
...
จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ชม. โจรสาวรายเดียวกันนี้ก่อเหตุพยายามวิ่งราวทรัพย์หญิงสูงอายุคนหนึ่งที่อาคารหมู่บ้านเอื้ออาทรบางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยคนร้ายสะกดรอยตามเหยื่อที่เดินกลับจากซื้อของในตลาดชุมชนมาถึงห้องพักที่อยู่ชั้น 1 ขณะไขประตูห้อง คนร้ายเดินปรี่เข้าประชิดตัวพยายามกระชากสร้อยคอทองคำที่สวมใส่ แต่เหยื่อหันมาเห็นก่อนรีบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้คนร้ายตกใจวิ่งหนีไปขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ข้างตึกขี่หลบหนีไปโดยไม่ได้ทรัพย์สิน ก่อนจะไปบุกจี้ชิงสร้อยที่ร้านทองในพื้นที่ อ.บางเสาธง ที่อยู่ห่างไปประมาณ 6 กม.
ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 5 ส.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ร้านทองที่เกิดเหตุปิดให้บริการ พบเจ้าของร้านเป็นหญิงวัย 43 ปี เผยว่า ขณะเกิดเหตุไม่อยู่ที่ร้าน ทราบเรื่องจากบริษัทที่ติดตั้งระบบเตือนภัยโทร.มาแจ้งพร้อมประสานตำรวจเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐาน ตนเปิดร้านมา 20 ปี มีอยู่ 3 สาขา ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้ ก่อนลงมือคนร้ายมานั่งเฝ้าสังเกตการณ์อยู่นานกว่า 30 นาที ที่ร้านมีการอบรมพนักงานเรื่องแผนเผชิญเหตุ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์จริงๆอาจตกใจทำอะไรไม่ถูก หลังจากนี้คงต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น อาจต้องจ้างเจ้าหน้าที่ รปภ.เพิ่มเติม ฝากถึงตำรวจขอให้ติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็วเพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุที่อื่นอีก
ด้าน พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ เผยว่า มอบหมายให้ พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ เป็นหัวหน้าชุดรับผิดชอบคดี ลงพื้นที่เกิดเหตุ บูรณาการนำทีมชุดสืบสวนหลายภาคส่วนเร่งหาเบาะแสไล่ล่าโจรสาวรายนี้ กระจายกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางทั้งก่อนและหลังก่อเหตุ มั่นใจจะได้ตัวเร็วๆนี้ ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุให้น้ำหนักเรื่อง หนี้สิน คนร้ายต้องการชิงทอง น่าจะร้อนเงิน ฝากไปถึงคนร้ายที่ผ่านมาใครปล้นชิงทองไม่เคยหนีรอดสักราย ขอให้เข้ามอบตัวดีกว่า ส่วนเจ้าของร้านทองมีมาตรการป้องกันตัวตามระบบดีแล้ว แต่คนร้ายอาจเห็นช่องว่างเรื่องความหวาดกลัวของพนักงาน จึงข่มขู่ให้กลัวแล้วก่อเหตุ ส่วนประชาชนที่ชอบสวมใส่สร้อยคอทองคำควรระมัดระวังตัวให้ดีและอย่าประมาท ไม่เช่นนั้นอาจตกเป็นเหยื่อโจรได้
ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน ตำรวจสืบสวนนำกำลังเข้าจับกุมตัว น.ส.วนิดา ครองแสนเมือง อายุ 30 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุอยู่บ้านเลขที่ 298/457 หมู่บ้านพฤกษาโครงการ 3 ต.บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จับกุมตัวได้หน้าหมู่บ้านก่อนนำตัวเข้าค้นภายในบ้านพบสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 สลึง 28 เส้น ส่วนอีก 5 เส้นผู้ต้องหาอ้างว่านำไปขายที่ร้านทองในห้างเมกาบางนา นอกจากนี้ยังตรวจยึดเสื้อผ้าที่สวมใส่ก่อเหตุ หมวกกันน็อก ถุงมือ และรถ จยย.ยามาฮ่าแอร์ล็อก สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนนำตัวไปสอบปากคำดำเนินคดีที่ สภ.บางเสาธง
สอบสวน น.ส.วนิดา ผู้ต้องหา ให้การว่า ทำงานเป็นพนักงานบริษัทขนส่งสินค้าแห่งหนึ่งใน อ.บางเสาธง แรงจูงใจก่อเหตุมาจากภาระหนี้สินผ่อนบ้านผ่อนรถและยังต้องเลี้ยงดูลูกน้อยอีก 1 คน ทำให้หมุนเงินไม่ทันตัดสินใจก่อเหตุ ตอนแรกไปวิ่งราวสร้อยที่หมู่บ้านเอื้ออาทรบางโฉลง อ.บางพลี แต่ไม่สำเร็จ เลยไปบุกจี้ชิงสร้อยร้านทองที่ อ.บางเสาธง โดยเอาเสื้อกันฝนม้วนพันให้เหมือนปืนบุกเข้าไปจี้ขู่บังคับพนักงานร้านทอง เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี