ร่างทรงทักเพื่อนบอกลูกที่ตายโหง ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด เที่ยวขอส่วนบุญ ขออาหาร หิวโซ ทำให้เจ้าตัวเครียด ก่อนไปผูกคอตายที่ศาลาพักโดยสาร ขณะที่เมียเผย สามีหลังได้ยินเรื่องราว ก็มีอาการเหม่อลอย คงคิดที่ตัวเองไม่เคยไปทำบุญให้ลูก จึงมาก่อเหตุสลด
เมื่อเวลา 07.20 น. วันที่ 3 ส.ค. 66 ร.ต.อ.ศุภชัย กอกัน รอง สว.สอบสวน สภ.โคกตูม จ.ลพบุรี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบคนผูกคอตายที่ศาลาพักผู้โดยสาร ที่ซอย 10 ซ้ายสายตรี ต.โคกตูม จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยตำรวจงานสืบสวน สภ.โคกตูม แพทย์เวร รพ.อานันทมหิดล นคร 88 และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุศาลาพักผู้โดยสาร พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 4กต-4202 ลพบุรี จอดอยู่ที่กลางศาลา ใต้ศาลาพักผู้โดยสารพบร่าง นายศิระ ชัชวาลย์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/2 หมู่ที่ 5 ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ สะพายกระเป๋าสีเขียว ใช้เชือกไนลอนสีเขียวผูกโยงกับขื่อรัดคอตัวเอง ห้อยโตงเตงอยู่ใต้ศาลาพักผู้โดยสาร จากการชันสูตรพลิกศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย การต่อสู้คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7-8 ชั่วโมง โดยมีญาติและภรรยาผู้ตายร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา
...
จากการสอบถาม น.ส.ณัชชานันท์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่เดียวกันกับสามี ซึ่งเป็นภรรยาผู้ตาย เล่าด้วยเสียงสะอื้นว่า เมื่อคืนวันที่ 2 ส.ค. เวลา 2 ทุ่ม สามีได้ขี่จักรยานยนต์ออกจากบ้าน ซึ่งคิดว่าออกมาหาซื้อของกิน จนดึกก็ไม่กลับบ้าน จึงได้โทรตามแต่ไม่มีผู้รับสาย ด้วยความเป็นห่วงจึงออกตามหาตามบ้านเพื่อน โทรตามบ้านญาติก็ไม่มีผู้ใดพบเห็น จนมาทราบอีกทีว่าสามีผูกคอตายที่ศาลาพักผู้โดยสารแล้ว
น.ส.ณัชชานันท์ กล่าวต่อว่า ตนอยู่กินกับสามีได้ประมาณ 2 ปีเศษ ทำงานร้านขายวัสดุก่อสร้างที่เดียวกัน ไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง หรือทะเลาะเบาะแว้งกัน ก่อนหน้านั้นสามีเคยมีครอบครัว และได้หย่าร้างกันไป มีลูกชายวัย 17 ปี กับภรรยาเก่า 1 คน แต่มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปกว่า 2 ปีแล้วเช่นกัน และเมื่อวันที่ 2 ส.ค. ลูกค้าซึ่งเป็นเพื่อนของสามีและเป็นร่างทรงมาที่ร้าน เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันเข้าพรรษาได้ไปทำบุญที่วัดห้วยบง ต.พัฒนานิคม ในขณะที่กำลังตักบาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลตามประเพณี สายตาเหลือบไปเห็น (น้องมาร์ค) ลูกชายสามีที่ตายไป ลักษณะหิวโซมาขออาหาร มาขอส่วนบุญ บอกยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด เมื่อพนักงานหลายคนได้ยินถึงกับขนลุกซู่ ถามย้ำว่าเห็นจริงเหรอ ก็ได้รับคำตอบว่าจริงๆ ซึ่งตนเองก็ได้ยินด้วย
หลังจากนั้นสามีที่เคยรื่นเริงกลับเศร้าซึม เหม่อลอย ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าไม่เคยทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ลูกที่ประสบอุบัติเหตุตายโหงเลย ตนยังบอกว่า ว่างก็ไปทำบุญให้ลูก ถวายสังฆทานและให้พระช่วยทำพิธีสวดส่งวิญญาณ ซึ่งสามีก็ได้แต่เงียบขรึม จนหายตัวไปเมื่อคืน มาพบว่าผูกคอตายดังกล่าว
ทั้งนี้ ร้อยเวรสอบสวนได้นำร่างของนายศิระ ส่งพิสูจน์ที่ รพ.อานันทมหิดล อีกครั้ง เพื่อให้แพทย์ผ่าพิสูจน์ถึงสาเหตุการตายที่แท้จริง ก่อนที่จะมอบร่างให้กับญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.