ชาวบ้านหว้าเอน บุกศูนย์ราชการจ.ปราจีนบุรี หลังพบ "กากอุตสาหกรรม" ถูกนำมากองสูงเป็นภูเขา หวั่นฝนตกลงมาชะสารพิษจะไหลลงแหล่งน้ำ ด้านบริษัทรับจ้างขน อ้างเป็นยิปซัม ไม่มีสารพิษ ขนมากองรอขายโรงงานทำปุ๋ย ล่าสุดรองผวจ.สั่งขนย้ายออกจากพื้นที่ทันที

กรณีชาวบ้านใน หมู่ 8 บ้านหว้าเอน ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ  จ.ปราจีนบุรี เรียกร้องให้หน่วยงานในพื้นที่แจ้งให้กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรัคเก็ต โฮลดิ้ง จำกัด หยุดนำวัสดุที่นำมาจากโรงงานของ บริษัท ซันชาย ไบโอเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มาทิ้งในพื้นที่หมู่ที่ 8 เนื่องจากชาวบ้านได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็น และในช่วงฤดูฝนจะทำให้วัสดุดังกล่าวไหลลงในแหล่งน้ำ จึงขอให้นำเอาวัสดุออกจากพื้นที่ภายใน 18 วัน

ต่อมา วันที่ 12 มิถุนายน 66 ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 บ้านหว้าเอน ได้จัดประชุมประชาคมชี้แจงข้อมูลตามที่ประชาชนร้องขอ โดยมีว่าที่ ส.ส.เขต 2 จ.ปราจีนบุรี, ปลัดอำเภอศรีมหาโพธิ, นายกอบต.ศรีมหาโพธิ, กำนันตำบลศรีมหาโพธิ, ส.อบต.ศรีมหาโพธิ พร้อมด้วยตัวแทน บริษัท ทรัคเก็ต โฮลดิ้ง จำกัด เข้าร่วมประชุม โดยตัวแทนจาก บริษัท ทรัคเก็ต โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวอ้างว่ามาหมู่ 8 บ้านหว้าเอน คือ แคลเซียมซัลเฟต (ยิปซัม) โดยอ้างว่าซื้อมาจาก บริษัท ซันชายไบโอเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อจะนำไปขายให้กับโรงงานปุ๋ยและโรงงานผลิตดินใช้ในการเกษตรทั้งยังแจ้งว่าบริษัทฯ ได้ส่งผลิตภัณฑ์นี้ไปตรวจสอบที่ห้องปฏิบัติการกลางแห่งประเทศไทย ผลตรวจพบว่า ไม่มีตัวไหนที่เป็นวัตถุมีพิษหรืออันตราย จึงดำเนินการขอใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (แบบ อภ.2) ต่อ อบต.ศรีมหาโพธิ พร้อมทั้งทำหนังสือชี้แจงไปยังนายอำเภอศรีมหาโพธิ สาธารณสุขอำเภอ กำนันตำบลศรีมหาโพธิ และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ตำบลศรีมหาโพธิ ก่อนที่จะนำมากองตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 66 

...

อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวอ้างดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจดจัดตั้งบริษัท (เอกสารแนบที่ 2) ที่จดจัดตั้งเป็นบริษัทขนส่งและขนถ่ายสินค้า ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ใบร.ง.4) จึงไม่มีศักยภาพในการซื้อกากยิปซัม วัตถุดิบในกระบวนการผลิตของบริษัทฯ และผลตรวจที่ทางบริษัทนำมาชี้แจง มีค่าสารโลหะหนัก มีค่าความเป็นกรดรุนแรง (เอกสารแนบที่ 3) นอกจากนั้น ในขณะนี้เป็นช่วงฤดูฝน การนำแคลเซียมซัลเฟต (ยิปชัม) มากองในที่โล่งแจ้งเป็นจำนวนมาก น้ำฝนจะซะกองยิปชัม (กากอุตสาหกรรม) ทำให้ปนเปื้อนลงสู่ดินและแหล่งน้ำ จนอาจทำให้มีค่าความเป็นกรดสูง เกิดสภาวะดินเปรี้ยว ดินไม่เหมาะสมกับการทำการเกษตร และ น้ำไม่สามารถนำมาอุปโภคบริโภค ผลิตเป็นน้ำประปาชุมชนได้

ขณะที่อุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมระบุว่า ทางกรมโรงงานฯ ได้แจ้งเบื้องต้นว่า เป็นการสำคัญผิดในประเด็นรายละเอียด กำลังจะยกเลิกหนังสือรับรองฉบับนี้ เพื่อแจ้ง อบต.ในพื้นที่ดำเนินการยกเลิกการอนุญาตต่อไป

ล่าสุดวันที่ 19 มิ.ย. 66 ชาวบ้านหว้าเอน ได้เดินทางไปที่ศูนย์ราชการจังหวัดปราจีน เพื่อยืนหนังสือให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เร่งดำเนินการ แก้ไขเรื่องดังกล่าวให้กับชาวบ้าน เนื่องจากพบว่าหลังจากที่มีคำสั่งให้หยุดการนำสารยิปซัมเข้ามาอีก แต่ยังมีรถขนเข้ามาทิ้งอีกหลายเที่ยว ซึ่งในวันนี้ชาวบ้านได้นำป้ายข้อความพร้อมยื่นหนังสือเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ บริษัทเร่งขนย้ายสารดังกล่าวออกนอกพื้นที่อย่างเร่งด่วน โดยมีนายพงษ์สิทธิ์ เนื่องจำนงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ออกมารับหนังสือจากตัวแทนชาวบ้าน 

นายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม ประธานพรรคก้าวไกล จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า "วันนี้ตามหนังสือกลุ่มชาวบ้าน หว้าเอน และบ้านสามขา ขอให้มีคำสั่ง ไม่มีการขนย้ายกากอุตสาหกรรม แคลเซียมซัลเฟต (ยิปซัม) ออกไปจากพื้นที่ ม.8 และ ม.11 โดยสามารถขนย้ายได้ทันที เนื่องจากมีการยกเลิกคำสั่งของผลิตภัณฑ์ ซึ่งทางบริษัทไปขอกับกรมโรงงาน ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่ง ที่ใช้ในการเกษตร แต่ตามข้อเท็จจริงแล้วมันไม่ใช่ จริงแล้วมันคือกากที่มาจากอุตสาหกรรม เพราะฉะนั้นการขออนุญาตประเภทนี้ ทำให้สำคัญผิดในตัวของข้อกฎหมาย และในตัวของผลิตภัณฑ์ด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วมันควรจะเป็นกากของอุตสาหกรรม เมื่อไม่ใช่ ตัวของผลิตภัณฑ์แล้วก็ไม่สมควรที่จะเอามากองไว้ ในเขตพื้นที่ไร่สวนของชาวบ้าน และอีกอย่างจะไหลลงไปในน้ำด้วย ซึ่งชาวบ้าน ในละแวกนี้ก็จะใช้ ทั้งน้ำประปาหมู่บ้านและบ่อบาดาล รวมไปถึงแหล่งน้ำธรรมชาติ วันนี้จึงขอให้ผู้ว่าฯ มีคำสั่งโดยด่วน เพื่อเร่งขนย้าย กากอุตสาหกรรมดังกล่าวออกให้หมดภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ซึ่งในทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี โดยนายพงษ์สิทธิ์ เนื่องจำนงค์ ได้ให้คำตอบกับชาวบ้านเป็นที่น่าพอใจ โดยมีคำสั่งให้ขนย้ายออกในวันนี้หรือพรุ่งนี้ซึ่งชาวบ้านจะติดตามต่อไปว่า มีการดำเนินการตามคำสั่งหรือไม่