ว่าที่ ส.ส.ก้าวไกลลงพื้นที่พบชาวบ้าน ในพื้นที่ "ทิ้งกากอุตสาหกรรม" ต.หว้าเอน ต.สามขา อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบกองเป็นภูเขาเลากา จี้ตรวจใบอนุญาตคนรับจ้างขนมาทิ้ง หากไม่มี โรงงานต้นทางที่ให้ขนออกมาต้องมีความผิด ด้านชาวบ้านถามหาความช่วยเหลือ หวั่นในอนาคตฝนตกลงมาสารพิษจะไหลลงแหล่งน้ำ

จากกรณีชาวบ้านใน หมู่ 8 บ้านหว้าเอน ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ  จ.ปราจีนบุรี เรียกร้องให้หน่วยงานในพื้นที่แจ้งให้ นายมนต์พจน์  คงคากุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ทรัคเก็ต โฮลดิ้ง จำกัด หยุดนำวัสดุที่นำมาจากโรงงานของบริษัท ซันชาย ไบโอเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มากองในพื้นที่หมู่ที่ 8 เนื่องจากชาวบ้านได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็น และในช่วงฤดูฝนจะทำให้วัสดุดังกล่าวไหลลงในแหล่งน้ำของประชาชน จึงขอให้นำเอาวัสดุออกจากพื้นที่ภายใน 18 วัน  

ต่อมา นายพัตทอง กิตติวัฒน์ อุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมกล่าวว่า ทางกรมโรงงานได้แจ้งเบื้องต้นว่า เป็นการสำคัญผิดในประเด็นรายละเอียด กำลังจะยกเลิกหนังสือรับรองฉบับนี้ เพื่อแจ้ง อบต.ในพื้นที่ดำเนินการยกเลิกการอนุญาตต่อไป

...

ล่าสุด วันที่ 15 มิ.ย. 66 ที่บริเวณกองวัสดุที่นำมาจากโรงงานบริษัท ซันชาย ไบโอเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กองในพื้นที่หมู่ 8 ชาวบ้านหมู่ 8 บ้านหว้าเอนและหมู่ 11 บ้านสามขา ได้มาเฝ้าระวัง ตรวจสอบในพื้นที่ตลอดเวลา เกรงว่าทางบริษัทจะลักลอบขนย้ายวัสดุดังกล่าวมาทิ้งอีก

นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ว่าที่ส.ส.ปราจีนบุรี เขต 2 พรรคก้าวไกล  กล่าวว่า ตัวโรงงานต้นทางเป็นโรงงานทำหัวเชื้อน้ำส้มสายชู  กระบวนการผลิตเกิดกากของเสีย และวัตถุดิบของโรงงานแห่งนี้จะมีอะไรที่จะทำให้เกิดยิปซัมได้ไหม เราต้องกลับไปตรวจสอบตรงนั้นด้วย อีกประเด็นทางโรงงานที่ผลิตน้ำส้มสายชู ที่มีการอำนวยการขนส่งให้บริษัทขนไปทิ้งในพื้นที่สามขาและบ้านหว้าเอน มีเลขทะเบียนการขนที่ชัดเจนไหม เท่าที่ดูในวันประชุมตนก็ไม่เห็น บริษัทอ้างว่ามีการขนกากอุตสาหกรรมอย่างถูกต้อง มีเอกสารในการขน ถ้าไม่มีเอกสารในการขน บริษัทต้นทางที่อนุญาตให้ขนออกมา จะมีความผิดตามกฎหมายของกรมอุตสาหกรรมฯ

ด้านนายยุคล ด่านดี ชาวบ้านหมู่ 11 บ้านสามขา กล่าวว่า ตอนนี้ชาวบ้านทั้ง 2 หมู่ คือบ้านหว้าเอนและบ้านสามขา ต.ศรีมหาโพธิ ประชุมกันแล้ว ชาวบ้านก็ไม่อยากให้นำกากวัสดุมาทิ้งที่นี่ เพราะเราไม่รู้ว่าวัสดุนี้เจือปนด้วยสารเคมีอะไรมาบ้าง ชาวบ้านได้รับผลกระทบ เมื่อฝนตกน้ำจะไหลลงแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งเราใช้บริโภคและทำน้ำประปาหมู่บ้านใช้ในทุกหลังคาเรือน กองวัสดุนี้ใกล้กับโรงเรียนประมาณ 400 เมตร (ทางตรง) ใกล้ชุมชน 2 หมู่บ้าน รวมประชากรพันกว่าคน ชาวบ้านต้องการให้นำวัสดุนี้ออกไป เพราะมีความวิตกกังวลว่าจะมีอันตราย ถ้ายังไม่เอาออกไปก็ต้องปรึกษากับทางฝ่ายปกครองและท้องถิ่นต่อไป

น.ส.อ้อมเดือน พรหมสาร ชาวบ้านหมู่ 8 บ้านหว้าเอน กล่าวว่า บ้านตนอยู่ห่างจากจุดที่ทิ้งสารประมาณ 1 กม. ก่อนบริษัทจะนำมาทิ้งก็ต้องมีการสำรวจ แต่ตนไม่เคยเห็นว่ามีใครมาสำรวจ ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาเทได้อย่างไร ครอบครัวตนก็มีทั้งคนแก่ เด็ก และผู้ที่สุขภาพไม่ดี ตอนนี้กลิ่นเริ่มเพิ่มมากขึ้น และโชยไปถึงที่บ้าน อนาคตถ้าฝนตกมากกว่านี้ก็จะไหลไปหมู่บ้านข้างเคียงและซึมลงไปในดิน จะมีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือได้บ้าง ถ้ายังไม่มีหน่วยงานมาช่วยดูแลชาวบ้านก็คงต้องสู้เรื่องนี้กันเองต่อไป